Kinu By Takagi

คิดถึงญี่ปุ่นแทบใจจะขาดแล้ว มีอะไรให้คลายคิดถึงเราก็ตรงดิ่งไปหมดแหละ เช่นเดียวกับมื้อพิเศษที่ทางเมืองชิซุโอกะไปขอให้เชฟทาคากิ คะซุโอะ เชฟและเจ้าของห้องอาหารเกียวโต ควิซีน ทาคากิ ซึ่งมาช่วยทำเมนูอาหารของห้องอาหาร KINU BY TAKAGI ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ นำเอาวัตถุดิบคุณภาพดีประจำฤดูใบไม้ผลิส่งตรงมาให้เราได้ชิมถึงกรุงเทพฯ . ในมื้ออาหารไคเซกิที่ว่าด้วยฤดูกาลจึงนำเอาวัตถุดิบจากเมืองชิซุโอกะมาอยู่ในคอร์สอาหารแบบญี่ปุ่น แต่ตามธรรมเนียมของที่นี่จะต้อนรับเราที่ห้องมิงกะที่ใช้ผ้าผัดย้อมที่เรียกว่า ชิโบริ คอยต้อนรับเราระหว่างรอเชฟเตรียมห้องอาหาร . เริ่มด้วย “Sakizuke” เชฟนำเอาหอยจอบ หรือ Tairagai ไปนึ่งราดด้วยซอสยุซุไข่แดงที่คล้ายกับฮอลันเดสในเวอร์ชันญี่ปุ่น กินกับผักวาราบินึ่ง ผักนาโนะฮานะนึ่ง ถั่วปากอ้า และข้าวพอง . ตามด้วยคอร์สซุป “Wanmori” ซุปหัวไชเท้าญี่ปุ่นที่เชฟใช้มีดแกะสลักให้เป็นดอกไม้บานอยู่ในซุปดาชิที่ได้จากสาหร่ายคอมบุและโบนิโตะแห้งที่เชฟได้มาเป็นพิเศษ ในซุปยังมีลูกชิ้นกุ้งคุรุมะเอบิ ผักมิซุบะ คาเวียร์ และผงไข่แดง . “Tsukuri” คอร์สนี้เชฟทำเป็น 2 คอร์สย่อย คอร์สแรกเป็นซาซิมิมีปลาดาบและปลาทูน่าเล็ก กินกับวาซาบิที่ปลูกในชิซุโอกะที่ได้น้ำสะอาดที่ไหลจากภูเขาตลอดทั้งปี อีกคอร์สเป็นหอยนางรมลวกกับพอนสึเจลลีโฮมเมด และผักต่าง ๆ . “Sushi” เป็นคอร์สคั่นกลางก่อนไปสู่คอร์สไฮไลท์ เชฟปั้นโอโทโร่ซูชิ แน่นอนว่าใส่วาซาบิมาด้วยเพื่อโชว์เคสวัตถุดิบ . “Hasson” ซึ่งแปลว่า อาหารรวมมิตร คอร์สไฮไลท์ที่เชฟรวมเอาทุกอย่างที่ดีมาอยู่ในจานเดียว อิเสะเอบิ หรือล็อบสเตอร์ญี่ปุ่นจากเมืองชิบะที่รสชาติดีในช่วงนี้ เชฟนำไปทามิโซะะขาวแล้วย่างบนเตาถ่าน ซึ่งมิโซะขาวตัวนี้เป็นของตระกูลยามาริที่เป็นสูตรลับตกทอดมากว่า 100 ปี แน่นอนว่ามีเฉพาะที่นี่ นอกจากนี้ยังมีเนื้อปูหิมะห่อในไชเท้า ไข่ปลาแฮร์ริงกับซอสฟักทอง ซูชิปลากะพงแดงญี่ปุ่น และถั่วดำญี่ปุ่นที่ให้รสหวาน . ส่วนคอร์สนี้ “Aizakana” เป็นเมนูเดียวที่ไม่อิงกับฤดูกาลและเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟทาคากิ หอยเป๋าฮื้อกับหัวไชเท้า ราดด้วยซอสตับหอยเป๋าฮื้อ มีกลิ่นของดอกชิโสะสด . “Agemono” ปลาคินเมไดจากชิซุโอกะทอดเป็นเทมปุระ เชฟนำเอาผงมัทฉะชิซุโอกะผสมลงไปในแป้งด้วย กินกับหอยเม่นและมันหวานทอดกรอบ . “Yakimono” คอร์สย่าง เชฟใช้เนื้อวัววากิว A4 จากจังหวัดไอจิไปย่างเตาถ่าน แล้วกินกับทรัฟเฟิลจากฝรั่งเศส ราดด้วยซอส . ก่อนจบด้วยคอร์สของ “Rice” ข้าวจากฮอกไกโดโรยด้วยคาเวียร์ ผักดอง 2 อย่าง และซุปมิโซะแดงจากนาโกย่า . อีกไฮไลท์คือ “Dessert” สตรอว์เบอร์รี “คิระพิกะ” จากเมืองชิซุโอกะ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีรสหวานอมเปรี้ยวสำหรับทำของหวานโดยเฉพาะ เชฟใช้ผลสด รวมถึงทำเป็นเจลลี และกรานิต้า กินกับโมจิถั่วแดงและไอศกรีมไวท์ช็อกโกแลตกากเหล้าสาเก . ปิดท้ายด้วยดาร์กช็อกโกแลตมิโซะคาราเมลกับมัทฉะชิซุโอกะ