Double Dogs Tea Room (ดับเบิ้ลด๊อกทีรูม)

Double Dogs – ร้านน้ำชากลางเยาวราชนี้จัดเป็น Tearoom สไตล์เอเชียรุ่นแรกๆของบ้านเรา แม้ปัจจุบันเริ่มมีร้านในรูปแบบใกล้เคียงกันให้เห็นอยู่หลายร้าน การเสิร์ฟชุดน้ำชาจีน / ชาญี่ปุ่นคู่กับขนมไทยบ้าง – จีนบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป แต่สิ่งที่ทำให้เรายังชอบที่จะแวะเวียนกลับไปที่ร้านนี้เรื่อยๆ ก็คือเสน่ห์ของ “ความเป็นเยาวราช” ที่ผนวกเข้ากับความเป็นระบบระเบียบแบบร่วมสมัยได้อย่างกลมกลืน เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนที่ไหนเลยล่ะค่ะ ****-บรรยากาศ-**** ความที่ร้านเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2011 เรียกได้ว่าเป็นร้านรุ่นใหม่ของเยาวราช บรรยากาศจึงไม่ดูโทรมหรือเชยแบบร้านที่อยู่มานาน มีความเก๋ไก๋ สะอาดสะอ้าน (ห้องน้ำก็สะอาดดีมากค่ะ) ดูสงบร่มเย็นเหมาะแก่การมานั่งชิลล์จิบชาให้ผ่อนคลายจากความวุ่นวายภายนอก แต่ในขณะเดียวกันก็รักษาความเรียบง่าย กึ่งไทย กึ่งจีน ไม่ดูจงใจปรุงแต่งให้หรูเนี้ยบจน “ล้น” หรือดูล้ำสมัยจนเกินไป จัดเป็นความพอดีที่เหมาะเจาะลงตัวกับย่านค้าขายเก่าแก่นี้มากๆ ****-Products-**** ชาที่นี่มีให้เลือกหลากหลายสุดๆ ทั้งชาจีนที่มีมากมายหลายชนิด ชาไต้หวัน และชาญี่ปุ่นที่มีครบทั้ง Matcha, Sencha, Genmaicha และ Gyokuro โดยแต่ละชนิดก็มีหลายเกรด หลายราคาให้เลือกตามความพึงพอใจของลูกค้า อย่าง Matcha นี่มีตั้งแต่ Bakery Grade ราคาย่อมเยา- Matcha รสอ่อนๆดื่มง่ายราคากลางๆสำหรับผู้เริ่มลอง - ไล่ขึ้นไปจนถึงตัวแพงที่สุดอย่าง Single Estate Narino Matcha (ว่าไปแล้วก็เหมือนเป็น Matcha แบบ Single Origin นั่นเอง) จะสั่งแบบชงเข้มข้น (Koicha) หรือแบบจาง (Usucha) ก็ย่อมได้ ในส่วนของขนมนั้นโดยมากจะเป็นขนมไทยๆจีนๆอย่างคอเป็ด ขนมเปี๊ยะไส้ต่างๆ งาตัด เต็งเท้า เฮ่งหยิ่งโซว (ที่บ้านเรียกขนมหน้าแตก)...ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่ทานเข้ากันกับชาจีนได้ดี แต่ล่าสุดนี้เห็นมีขนมญี่ปุ่นเพิ่มมาในเมนูคือ Mizu Shingen Mochi เพื่อให้เข้ากับชาญี่ปุ่นด้วยล่ะค่ะ ****-Service-**** ในส่วนของบริการที่นี่ เราขอแบ่งเป็น 2 แบบค่ะ คือ.. [แวะมาดื่มชา] สำหรับคนที่แค่ต้องการเข้ามาจิบชา ทานขนม นั่งชิลล์หลบความวุ่นวายภายนอก ระบบของทางร้านก็จะเหมือนบรรดา Tea Room สมัยใหม่ทั่วไปที่มีเมนูชาและขนมให้สั่ง มีคำอธิบายกลิ่นรสชาชนิดต่างๆไว้พอเป็นแนวทาง โดยทั้งเจ้าของร้านและพนักงานก็ช่วยให้คำแนะนำได้ดี สั่งเสร็จก็นั่งจิบชาทานขนมกันไป เช็คบิลออกมาราคาตามในเมนูเป็นอันจบ ซึ่งหลายๆคนที่ผ่านมาร้านนี้ก็จะใช้บริการในรูปแบบนี้กัน ความพึงพอใจก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกได้ชาที่รสชาติถูกใจรึเปล่านั่นเอง [แวะมาซื้อชา] ถ้าใครอยากสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของที่นี่ ที่รวมเอาความหลงใหลจริงจังในเรื่องชาเข้ากับการค้าขายแบบมิตรจิตมิตรใจอย่างคนค้าขายในเยาวราชรุ่นก่อนๆ แนะนำว่าต้องมาเพื่อมาเลือกซื้อชา และถ้าจะให้ดีควรมาตอนคุณจงรักษ์ – Tea master ผู้เป็นเจ้าของร้านอยู่นะคะ เพราะแม้น้องๆที่มาช่วยงานที่นี่จะเทรนกันมาดี บริการเป็นเลิศ และให้คำแนะนำเรื่องชาได้เป็นอย่างดี แต่ในเรื่องการตัดสินใจต่างๆย่อมไม่สามารถจะ “เต็มที่” ได้เท่าเจ้าของล่ะนะ เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของคุณจงรักษ์ซึ่งกล่าวไว้ว่าการดื่มชาคือการตามหารักแรกพบ (ว้าววว..) ซึ่งไม่สามารถจะไปกะเกณฑ์อะไรได้ มีแต่จะต้องลองดื่มไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอถ้วยที่ใช่ ด้วยแนวคิดแบบนี้ เมื่อลูกค้ามาเลือกซื้อชา นอกจากจะพูดคุยให้คำแนะนำแล้ว ยังมีการให้ลองชาชนิดต่างๆมากมาย จนกว่าจะเจอแบบที่ชอบเลยล่ะค่ะ คนค้าขายที่มากด้วยประสบการณ์นั้นเชื่อว่าต้องใช้เซ้นส์ในการประเมินคนพอสมควร โดยเฉพาะลีลาการค้าขายแบบคนจีนรุ่นก่อนที่มีทั้งการต้อนรับขับสู้ ทั้ง “ซื้อใจ” และ “วัดใจ” รวมกันไป ต้องอาศัยการพูดคุยกันประมาณนึง เพราะลูกค้าเองก็มีหลายแบบ หลายรสนิยม ที่แค่อยากซื้อชาไปดื่มเพลินๆก็มี ที่เป็นคอชา สนใจเรื่องชาแบบจริงจังก็มาก รูปแบบการต้อนรับของทางร้านกับลูกค้าแต่ละแบบจึงอาจต่างกันไปได้ ฉะนั้นรีวิวนี้จึงเป็นแค่แนวทาง ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นแบบนี้เป๊ะๆเสมอไปนะคะ ส่วนตัวแล้วตั้งแต่มาซื้อชาที่นี่ครั้งแรกก็แอบตกใจว่าเจ้าของร้านให้ลองชาหลายตัวมาก เสนอให้ลองเองโดยไม่ต้องขอ ไม่มีท่าทีกลัวเกรงว่าจะโดนเราลองแล้วชิ่งไม่ซื้อด้วยนะ พอเลือกได้ชาที่ถูกใจก็กดเครื่องคิดเลขคิดราคากันไป ลดให้บ้าง อะไรบ้าง ไม่ได้มี Fixed Price แบบชุดน้ำชาที่มาสั่งทานตามเมนู ตรงนี้ถ้าจะว่ากันตามจริงแม้จะให้ลองเยอะ แต่ราคามันก็ต้องบวกให้ได้กำไรไว้อยู่แล้ว (ใครจะไปขายให้ขาดทุนล่ะเนอะ) สิ่งที่ประทับใจจึงเป็นความรู้สึกถึงมิตรจิตมิตรใจที่ทางร้านหยิบยื่นให้ลูกค้าแบบเต็มที่ ซึ่งอันนี้ในแต่ละเคสก็คงต่างกันไปตามระดับความคุ้นเคยและไว้เนื้อเชื่อใจกัน อย่างของเรานี่พอไปครั้งที่ 3 ที่ 4 เข้า เจ้าของร้านก็ชง Usucha มาให้ลองเลยทีเดียว รวมกับชาอื่นๆที่มากมายแบบถามไถ่ชื่อกันไม่ไหว ส่วนถ้าตัวไหนเราขอลองเอง เราก็จะบอกเจ้าของร้านไว้ก่อนให้คิดราคาไปด้วยเลย บางครั้งก็สั่งขนมมาทานแกล้มชาอุดหนุนทางร้านบ้าง เรียกว่ามาซื้อชาที่นี่ทีไรลองชากันจนอิ่มไปเลย แต่ก็ได้ชาที่ถูกใจกลับไปทุกครั้งล่ะค่ะ ****- ชา/ขนมที่ได้ลอง-**** สำหรับชาที่ได้ลองตอนเลือกซื้อชานั้น หลายๆตัวไม่มีในเมนู และส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อจีนที่จำยาก (บางทีก็ไม่ได้ถาม) เลยขอเล่าเฉพาะตัวที่มีตามเมนูนะคะ ● Yame Sencha (ราคา 180 บาท) – ตัวนี้เป็น Sencha ตัวโปรดของเรา ชงด้วยน้ำร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียส หอมนุ่มนวล ไม่ขมมากค่ะ ● Mie Sencha (ราคา 180 บาท) – เทียบกับตัวแรกแล้ว Sencha ตัวนี้จะขมกว่าในน้ำแรก ส่วนตัวเลยยังไม่ปลื้มเท่า Yame Sencha นะคะ ● Premium Yame Gyokuro (ราคา 320 บาท / 8 กรัม) – Gyokuro ตัวนี้คือดีจริง ได้รสหวานและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของ Gyokuro ชัดเจน คงอยู่ได้หลายน้ำ และแม้ปกติแล้ว Gyokuro จะเป็นชาบอบบางที่ต้องใช้น้ำอุณหภูมิต่ำราว 50-60 องศาเซลเซียสชง บางร้านถึงกับใช้น้ำอุณหภูมิห้องชงน้ำแรก แต่กับตัวนี้แม้เผลอใช้อุณหภูมิสูงไปบ้างก็ยังดีพอใช้ได้อยู่ ถูกใจคนชอบเครื่องดื่มร้อนอย่างเราล่ะ ● Matcha Baba Mukashi (ชงแบบ Usucha 380 บาท) – เป็น Matcha ชั้นดีที่นำเข้ามาจาก Kanbayashi Shunsho Honten ซึ่งเป็นร้านชาเก่าแก่ใน Uji แม้ถ้าดูจากราคาแล้วจะยังเป็นตัวรองจาก Single Estate Narino Matcha แต่กลิ่นรสนั้นดีเลิศทีเดียว กลิ่นหอม มีรสมันนิดๆตามธรรมชาติ แฝงความขมไว้หน่อยๆ ปลื้มปริ่มทีเดียวค่ะ ● Huang Jing Gui (ราคา 240 บาท) – เป็นชาฮกเกี้ยนรสชาติเบาๆที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นคล้ายดอกสารภีอยู่บางๆ ซึ่งเป็นกลิ่นที่เกิดจากขั้นตอนการหมักชา ไม่ได้ผสมกลีบดอกไม้หรือแต่งกลิ่นหอมเข้าไปแต่อย่างใดค่ะ ● Mizu Shingen Mochi – ขนมที่มีคนให้ชื่อภาษาอังกฤษไว้น่ารักว่า Raindrop Cake นี้เป็นวุ้นใสหน้าตาคล้ายหยดน้ำฝนจริงๆ ราดน้ำเชื่อม Kuromitsu หวานกำลังพอเหมาะ โรยผง Kinako หอมๆ ทานแกล้มชาญี่ปุ่นได้ดีงามเลยล่ะ โดยรวมแล้วก็เป็นร้านที่จัดว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างน่าประทับใจเลยล่ะค่ะ ทั้งชาที่มีให้เลือกหลากหลายสุดๆ ทั้งบรรยากาศที่ผสมผสานความคลาสสิคดั้งเดิมและความร่วมสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ใช่ร้านชาจีน ไม่เหมือนร้านชาสไตล์ญี่ปุ่น แต่เป็น Double Dogs หนึ่งเดียวร้านนี้ที่ต้องมาที่เยาวราชเท่านั้นจึงจะได้เจอ ถ้าใครชอบชาควรแวะไปลองค่ะ