La VIE Bistronomy (ลา วี บิสโทรโนมี)

ใช้ดีล Bangkok Restaurant Week ของวงในตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559 ฮือออ ขอโทษนะค้า ดองไว้นานจริงๆ ซื้อเป็น Set lunch 3 คอร์ส จำนวน 2 ดีล ราคาดีลละ 499++ บาท รวมน้ำดื่มมิเนเร่ขวดเล็ก 1 ขวด ไปทานวันเสาร์โทรจองล่วงหน้า ห้องอาหาร La Vie แจ้งไว้ล่วงหน้าว่ามื้อกลางวันรับ Last Order 14.00 วันนั้นรถติดไปถึงเกือบ 13.00 จอดรถในโรงแรมแล้วก็วิ่งไปเลย ลูกค้าไม่เยอะค่ะ และดูเหมือนคนอื่นๆก็ไม่ได้มาใช้ดีล โต๊ะที่จองไว้จะเป็นของเราตั้งแต่ตอน 11.00-14.00 เลย มาถึงกี่โมงก็ได้ ร้านอยู่ชั้น 11 ของโรงแรม ขึ้นลิฟท์จากล็อบบี้ขึ้นมาจะเจอเลยค่ะ นั่งปุ๊บพนักงานให้เวลาดูเมนู เลือกได้แล้วก็สั่งทีเดียวให้ครบ 3 คอร์สเลยค่ะ พนักงานจะค่อยๆนำออกมาเสิร์ฟเมื่อเราทานแต่ละคอร์สเสร็จแล้ว Set Lunch แต่ละคอร์สจะมีให้เลือก 3 เมนูนะคะ ไปกันสองคนก็เลยสั่งให้ไม่ซ้ำกันแล้วแบ่งกันชิม ระหว่างรออาหารคอร์สแรกเขาก็มีออเดิร์ฟมาให้ทาน 2 อย่างค่ะ มีขนมปังกรอบแท่งยาวๆผอมๆ ไม่ใจว่าปรุงรสอะไรแต่ออกเค็มเบาๆ มีดิปให้จิ้มทานด้วย 3 อย่าง (ชีส มะเขือเทศแช่ในน้ำมันมะกอก อีกอย่างจำไม่ได้แต่แช่ในน้ำมันมะกอกเหมือนกัน) ส่วนออเดิร์ฟอีกอย่างเป็นขนมปังอบร้อนๆค่ะ มีให้เลือกหลักๆสองแบบคือแบบ Bun นุ่มๆ กับแบบเนื้อ Baguette แข็งๆหน่อย ทั้งสองอย่างขอเพิ่มได้ไม่อั้นค่ะ พนักงานเข้ามาไถ่ถามอยู่บ่อยๆว่ารับเพิ่มไหม นอกจากนี้วันที่ไปยังได้รับ Complimentary จากเชฟเป็น Artichoke puree ด้วยค่ะ อาร์ติโชคบดนั่นเองงง5555 ไม่ค่อยมีรสชาติไรเลย ก็ผักอะเนอะ Starter La VIE salad, confit duck, 64c organic eegg, lardons & truffle – แค่ชื่อก็ยาวหนึ่งกิโล555555 สลัดใช้ผักอะไรก็ไม่รู้ ด้านบนโรยเป็ดกงฟีต์(เป็ดทอด)ฉีก พร้อมไข่ออนเซ็น เบคอน และขนมปังชิ้นเล็กๆด้านล่าง แปลกใหม่ดี แต่เป็ดน้อยไปหน่อยค่ะ Fantasy of heirloom beetroots, goat’s curd, toasted quinoa – จานนี้แฟนตาซีสมชื่อมาก สีนสันสดใสและจัดวางได้สวย แต่รสชาตินี่ต้องสายแข็งหน่อยค่ะ ถ้าปกติใครทานนมแพะไม่ได้ ห้ามสั่งจานนี้เลยนะคะ เพราะชีสนมแพะกลิ่นแรงมากกก บีทรูทก็รสชาติหวานเบาๆ จานนี้สำหรับเราคิดว่าทานยากไปหน่อย เน้นสวยค่ะ Main Dish Snowfish, cauliflower puree and beignet, gnocchis – จานนี้สีอบอุ่นสวยงามมาก ปลาหิมะชิ้นใหญ่นึ่งมาได้นุ่ม perfect มาก ไม่มีรอยเนื้อแตกหรือบิ่นใดๆ กลิ่นแรกที่เตะจมูกเหม็นคาวนิดนึง แต่พอทานไปแล้วไม่เหม็นเลยค่ะ รสชาติดีมาก ซอสรสชาติคล้ายๆซีอิ๊วชนิดหนึ่ง ทานคู่กับกะหล่ำบด แป้งเบเน่ต์(นุ่มๆเหลวๆ) และเห็ดป่า Black Angus Rib Eye, carrots,ponme fondante, Pearl onions – เนื้อแบล็คแองกัสริบอาย ย่างมาระดับ Medium Rare ตามที่ขอไม่ผิดพลาด ทานกับแครอทจิ๋วและมันฝรั่ง เนื้อหอมมากค่ะ ไม่เหนียวด้วย ชอบมากๆ Dessert Passion fruit crème brulee, coconut meringue – จานนี้สีสันสดใสมาก น่าร้ากกกก เป็นเครมบูเล่ตามธรรมเนียมสากลทั่วไปคือมีน้ำตาลเผาบนหน้า เนื้อหนืดๆกว่าพุดดิ้งหน่อยแต่รสชาติคล้ายกัน ทานกับมะม่วง และเมอแรงก์มะพร้าวกรอบๆ Spiced Apple crumble, vanilla – แอปเปิ้ลครัมเบิ้ล(แอปเปิ้ลเชื่อม+บิสกิตบดคลุกเนย)อุ่นๆโปะหน้าด้วยไอติมวานิลลา ไอติมละลายไวมากค่ะ เมนูนี้โดยรวมหวานเกินพิกัดไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าห้องอาหารตกแต่งสวยดี แต่วิวไม่สวยเอาซะเลยค่ะ ด่านแรกเป็นมู่ลี่ตรงกระจก ด้านนอกมองออกไปก็เจอสระว่ายน้ำของโรงแรมและอีกอาคารที่เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นบังวิวอีก สรุปคือไม่เห็นไรเลย มาตอนกลางคืนดีกว่า555 ทานเสร็จตอน 14.00 พอดี พนักงานรีบเคลียร์โต๊ะรีบเคลียร์บิลมากค่ะเพราะได้เวลาปิดห้องอาหารพอดี แนะนำให้ไปถึงห้องอาหารก่อนเวลาปิดสัก 2 ชั่วโมงดีกว่าค่ะ เพราะเชฟต้องใช้เวลาปรุงและเราจะได้ไม่ต้องรีบทาน ที่นี่ไม่ต้องแสตมป์บัตรจอดค่ะ ขับออกจากที่จอดรถของโรงแรมได้เลยไม่เสียค่าจอด