Sukiyabashi Jiro Roppongi Hills

ร้าน Sukiyabashi Jiro Roppongi Hill เป็นร้านสาขาของร้าน Sukiyabashi Jiro ที่กินซ่า ร้านนี้จัดเป็นร้านในตำนานถึงระดับที่ว่ามีหนัง Hollywood เป็นของตัวเองครับ ร้านนี้หัวหน้าเชฟจะเป็นลูกชายคนเล็กของปู่จิโร่ และได้รับ 2 ดาว มิเชอลินครับ โดยร้านนี้จะเน้นลูกค้าต่างชาติมากกว่าร้านต้นฉบับครับ การเดินทาง ลงรถไฟป้าย Roppongi แล้วเดินอีกไกลพอสมควรครับ บรรยากาศ:  ร้านเล็กๆครับ มีที่นั่งแค่ 8 ที่เท่านั้น วันที่ผมไปมี ไทย จีน เกาหลี อเมริกา ชาติละ 2 คนครับ ไม่ญี่ปุ่นเลย 4 ดาว อาหาร: ที่สั่งจะเป็น Omakase และเพิ่ม Otsumami ที่เป็น Sashimi เข้ามาด้วยครับ แต่เนื่องจากประเมินตัวเองผิดเล็กน้อยเพราะก่อนหน้านี้ทานมาแล้วเกือบ 5 มื้อ เลยทานซูชิได้ไม่เต็มเซ็ท 20 คำครับ (ปล. พ่อครัวช่างสังเกตุมากครับ คงเห็นสีหน้าผมว่าทานไม่ไหวแล้ว เลยลดจำนวนคำลงให้ครับ) ซูชิที่นี่จะเป็นแบบ Edomae คือเน้นเฉพาะวัตถุดิบที่หาได้ในอ่าวเอโดะ ซูชิจะขนาดพอดีคำ เน้นความสมดุลระหว่างข้าวและปลา และปรุงรสมาให้เสร็จครับ เราสามารถจิ้มโชยุเพิ่มได้ แต่โดยปกติแล้วไม่จำเป็นครับ การทานควรทานด้วยมือ หรือตะเกียบ และคว่ำเอาเนื้อปลาลงที่ลิ้นครับ เพื่อจะได้รสชาติที่ดีที่สุดตามที่เชฟตั้งใจครับ (คนอเมริกา คีบพลาดทีนึง เชฟหยิบกลับไปปั้นใหม่เลยครับ กลัวข้าวไม่แตกตัวอย่างที่ตั้งใจไว้) การทานซูชิแบบ Omakase นั้นจะเน้นว่า อุณหภูมิ และการเตรียมอาหาร ต้องพร้อมที่สุดเมื่อเสริฟถึงลูกค้า ดังนั้นร้านซูชิดีๆจะเคร่งเรื่องตรงต่อเวลามากครับ เพื่อให้วัตถุดิบที่เค้าเตรียมไว้ ข้าวที่เค้าหุงไว้ พอดีกับการทานของลูกค้า โดยที่นี่ หน้าเคาท์เตอร์จะมีพ่อครัว 3 ท่าน คนนึง คอยเช็ดจาน เติมชา เอาของจากในครัวมาส่ง อีกคนคอยหั่นปลาให้เชฟใหญ่ และเชฟใหญ่จะทำหน้าที่ปั้นอย่างเดียวครับ (มี 2-3 ครั้งที่คนหั่นปลา หั่นไม่ถูกใจ เชฟใหญ่หันไปดุจนหน้าซีดเลยครับ) Otsumami ที่เป็นซาซิมิประกอบด้วย Pickled Squid – หมึกตัวจิ๋ว ทานเค็มๆมันๆ เข้ากับสาเก เรียกน้ำย่อยได้ดีครับ Hirme & Akagai – ปลาตาเดียว เนื้อเด้งมากครับ รสอ่อนๆ ส่วน หอยแครงนั้น สด และกรอบมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลย เยี่ยมครับ Shime Saba – ปลาซาบะดองมารสอ่อนๆครับ ไม่ค่อยเปรี้ยวแบบที่เคยทาน เฉยๆครับ Smoked Bonito – อันนี้เป็น signature menu อย่างหนึ่งของที่นี่ครับ โดยการนำปลาไปรมควันจากฟางข้าว ทำให้กลบกลิ่นคาวปลา ปลามีกลิ่นหอมรมควันสุดๆครับ เนื้อปลารสชาติแน่นเนียน ทานกับน้ำจิ้มก็อร่อย หรือทานแบบเอโดะ คือ วางบนใบชิโซะ โปะด้วยหอมซอย ราดพอนซึรสเปรี้ยว ทานแล้วเข้ากับสาเกสุดๆครับ จบชุดเรียกน้ำย่อยแล้วก็มาต่อด้วย Sushi omakase set ครับ ข้าวซูชิของที่นี่จะอุ่นเล็กน้อย รสชาติเปรี้ยวอ่อนๆ การปั้นจะเน้นให้ข้าวแน่นไม่หลวม กัดแล้วแตกกระจายในปากพร้อมกับปลา โดยส่วนตัวแล้วผมว่า ทำได้ดีครับแต่ไม่ได้ถึงกับอร่อยกว่าร้านซูชิดีๆร้านอื่นที่เคยทานมาครับ Hirame – เนื้อปลาเด้งดึ๋งรสอ่อนๆ เหมาะเป็นจานเริ่มต้นครับ Ika – ปลาหมึกหวาน สด และนุ่มแทบละลายในปาก ไม่มีความเหนียวแม้แต่น้อยเลยครับ อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมาเลย Clam Shell – หอมตัวใหญ่มาก เนื้อแน่น หวานสด แต่ เชฟเอาไปบั้งไว้ก่อน ทำให้ซึมซับโชยุไว้มากครับ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเค็มไปหน่อย Akami – เนื้อเนียนแน่น รสเข้มข้น ทำได้ดีครับ แต่ไม่ได้ทิ้งจากร้านดีๆร้านอื่น Chutoro – เช่นเดียวกับอาคามิ แต่มีความมัน ความนุ่มมากขึ้น Otoro – นุ่มที่สุด มันที่สุด หอมที่สุด ดีที่สุด ไร้คำบรรยายครับ Kohada – ปลาธรรมดาครับ แต่ปรุงรสด้วยขิงและวาซาบิ รสชาติเผ็ดซ่าๆ ล้างปากจากความมันของโทโร่ได้ดีมากครับ ปลาเนื้อขาว – อันนี้จำไม่ได้จริงๆว่าเป็นปลาอะไรรสชาติอย่างไรครับ Aji – เฉยๆครับ Ikura – เชฟแจ้งว่าไข่ปลาที่นี่เตรียมเอง และไม่ได้ปรุงรสใดๆครับ สังเกตุจากรูปถึงความเงา กลมตึงของไข่ปลานะครับว่าคุณภาพดีจริงๆ และทีเด็ดอีกอย่างของที่นี่คือจะใช้สาหร่ายที่มารมควันเองครับ ซึ่ง gunganmaki ที่ทำมานั้น กัดเข้าไปจะได้ สาหร่ายที่มีความกรุบกรอบ ต่อด้วยกลิ่นหอมของสาหร่ายรมควันพุ่งขึ้นจมูก ปิดด้วยรสชาติสดชื่นและความหอมของอิคุระครับ อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทานมาอีกอย่างครับ Shime Saba – โอเคครับ Kuruam Ebi – ตอนเสิร์ฟ เชฟจะตัดกุ้งโชว์ครับ ตัดเบาๆดังฉับ แม้แต่เมล็ดข้าวยังขาดเรียบเสมอกัน ฝีมือสุดๆครับ เนื้อกุ้ง หวาน เด้ง ทานฝั่งหางก่อน แล้วต่อด้วยฝั่งหัวที่มีความมันเข้นข้นของหัวกุ้งครับ อร่อยมากครับ Uni – ไข่หอยเม่นที่นี่ใช้วิธีตัดแบบตัดเค้กครับ โดยวางหอยเม่นเรียงกันหนาๆ แล้วตัดด้วยอุปกรณ์คล้ายๆที่ตักเค้ก แล้ววางลง gunganmaki ครับ ตัวอูนิมีความหอมสดชื่น รสสัมผัสนุ่มและเนียนเหมือนทานคัสตาร์ดเนื้อดี รสหวานและเข้มข้น มีกลิ่นหอมทะเล ฟินสุดๆครับ คนอื่นๆขอเพิ่มตอนหลังหมดครับ Hamaguri – หอยเนื้อเหนียวไปหน่อยครับ ทานกับซอสหวานๆก็แปลกดีครับ Kobashira – ตัวหอยเชลค่อนข้างแข็งครับ ทานแล้วไม่รู้สึกแตกต่างอะไรครับ Anago – จัดเป็นจานปิดท้ายที่ยอดเยี่ยมมากครับ รสชาติเข้มข้น หวานมัน เนื้อนุ่มแบบละลายหายไปในปากเมื่อทาน อร่อยสุดเท่าที่เคยทานมาอีกแล้วครับ Tamagoyagi – จานนี้เหมือน custard มากกว่าครับ เชฟบอกว่าทำจาก ไข่ มันกุ้ง ยามาอิโมะ มิริน และโชยุครับ แถมมีบอกอีกว่าในหนังคนนั้นต้องฝึกถึง 6 ปี ปู่จิโร่ถึงจะพอใจ เพราะเค้าไม่เก่งครับ พวกเชฟเองฝึกแค่ 2 ปีก็ผ่านแล้วครับ ก่อนจะจบมื้อเชฟจะถามว่าซ้ำอะไรไหม หรือลองทานอะไรแปลกๆไหม วันนั้นมี Awabi, Shako กับ Engawa ให้เลือกครับ คนอื่นทานกันหมดแต่พวกผมไม่ไหวแล้วครับ โดยรวมแล้วผมมองว่า จานที่เป็น Signature และทำใด้ยอดเยี่ยมประทับใจจ๊อด คือ Smoked Bonito, Ika, Otoro, Ikura, Uni, Anago ครับ นอกนั้นทำได้ดีเช่นกันครับ แต่ไม่ได้อร่อยกว่าร้านซูชิดีๆอื่นๆครับ  5 ดาว บริการ: ยอดเยี่ยมครับ เชฟดูแลใกล้ชิด คอยให้ข้อมูล และเสิร์ฟน้ำ เช็ดจานตลอดครับ 5 ดาว ราคา: ราวๆ 20,000 JPY ต่อคน สำหรับ Otsumami + Omakase + Nama Sake ครับ สรุป: จัดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตควรลองดูครับ 4.5 ดาว