เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปยังท่าเรือบ้านเพ เป้าหมายคือ ทันเรือรอบสุดท้าย 17.00 ท่าเรือเกาะแก้วพิศดาร ซึ่งเป็นเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที (ความจริงประมาณไม่เกิน 15 นาที ยังไม่รวมเวลาที่ออกเรือช้าอีก 10 นาที) ค่าเรือต่อคนต่อเที่ยว 150 บาท (ไม่เบา)
ถึงเกาะ ต้องเสียค่าธรรมเนียมท่าเรือและค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติคนละ 20 และ 40 บาทตามลำดับ
ขึ้นสองแถวเพื่อไปโรงแรมเสม็ดวิลล่ารีสอร์ทที่ได้จองไว้ คนละ 40 บาท
โรงแรมของเราอยู่บริเวณอ่าวไผ่ ซึ่งเป็นแนวยาวต่อจากหาดทรายแก้วลงไป
ถึงแล้วเราก็ต้องเดินกันอีกหน่อย ผ่าน silver sand resort
เช็คอินกันเรียบร้อย ขอเอนร่างสักหน่อย ดริฟมาเหนื่อย
ห้องพักถือว่าดีเลยค่ะ เพราะราคาห้องในช่วง high นี่มันโหดจริงๆ ต่อคืน 4xxx บาท
วางแผนว่าวันนี้ขอชิลล์ๆ กินมื้อเย็นที่ร้านอาหารโรงแรมแล้วรอดูควงกระบองไฟตอน 2 ทุ่มเป็นอันเสร็จพิธี
อาหารรสชาติอร่อยทุกเมนู ราคาไม่แตกต่างจากบนฝั่งเท่าไร เลยคิดว่าไม่แพงเกินไป มีพี่พนักงานคนหนึ่ง (ที่น่าจะเป็นชาวต่างชาติ) มาให้บริการ พูดคุยเล่น แนะนำเมนู น่ารักมากค่ะ มีแวะเวียนมาถามไถ่อยู่เรื่อยๆ
ตื่นมาชมวิวยามเช้า ทานอาหารเช้าที่โรงแรม อาหารหลากหลายและรสชาติดี
บ่ายๆ เดินเล่นไปเรื่อยๆ จากอ่าวไผ่ไปหาดทรายแก้ว แวะถ่ายรูปตามหาด และคาเฟ่
ช่วงค่ำฝนตก เลยไม่ได้ไปไหนไกล กินชายสี่หมี่เกี๊ยวใกล้ๆ ที่พัก เจอร้านโรตีแถวมินิมาร์ท อร่อยมาก บังน่ารักด้วย
เราเดินทางกลับด้วยเฟอร์รี่เจ้าเดิม
ถึงฝั่งแล้วก็แวะเอารถที่ฝากไว้ แล้วมุ่งไปเติมพลังกันทันที
ละแวกนั้นจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเพ อร่อยดีนะ มีที่จอดรถ อากาศร้อนหน่อย รออาหารกันสักพัก
ต่อด้วยคาเฟ่ร้าน Eat me by Gift ร้านน่ารัก เครื่องดื่มและขนมอร่อย 👍🏻
นี่มันทริปเปลี่ยนที่นอนชัดๆ 😂
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ