ออกชิวๆหนีความวุ่นวายของเมืองกรุงไปวุ่นต่อที่ชลบุรี
เริ่มต้นออกจากกรุงเทพฯแบบไม่รีบ 10:00น. แวะไปตามรายทาง ถึงร้านป้าอ่อน13:00น.เวลาหิวพอดีเป๊ะ เอารถไปจอดไว้ที่วัดนอกเพราะที่ร้านที่จอดน้อยมาก ถือโอกาสเดินเล่นชมเมืองไปเรื่อย
พอถึงร้านป้าอ่อนไม่รอช้าสั่งอาหารแบบรัวๆ ขอแนะนำ เมนูรวมต่างๆจะดีที่สุด ระวังร้านนี้รสเผ็ด
หลังจากทานป้าอ่อนเสร็จ เราก็ขอดับไฟในร่างกายเราหน่อย เลยแวะต่อที่ร้าน Conpanno Cafe แวะทานเครื่องดื่ม ตากแอร์เย็นๆ นั่งเพลินๆชมการตกแต่งร้านที่แฝงความเป็นศิลปะเอาไว้ แต่ร้านนี้เครื่องดื่มค่อนข้างหวาน
หลังจากรับความเย็นพอแล้ว ก็เดินทางต่อไปยังวัดใหญ่อินทาราม ถึงประมาณบ่ายสอง โดยวัดนี้เป็นวัดโบราณ มีจุดเด่นอยู่ที่พระอุโบสถ ตกแต่งด้วยเครื่องสังคโลกโบราณ แต่น่าเสียดายวันที่ไปพระอุโบสถซ่อมบํารุงอยู่ และยังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ศาลพระเจ้าตากสินที่เป็นที่สักการะของคนแถวนี้
เดินสักพักเครื่องร้อนอีกละ ต้องหาไรดับร้อนหน่อย หาใน Wongnai เจอร้าน ไอศครีม ชื่อร้าน Niece Ice Cream จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่คนขาย ที่มีอัธยาศัยที่ดี แต่ ส่วนมากคนแถวนี้มักจะซื้อกลับบ้าน หากทานที่ร้านต้องรอสักพักให้ไอศกรีมนิ่มก่อน คุยไปคุยมาเลยได้ไปลองทานน้ำแข็งใสกับผัดไทยในซอย ส่วนร้านขายขนมปังก็เป็นร้านของญาติเขาเอง รสชาติก็ดีไม่เบา เขาบอกว่าซอยนี้ของกินอร่อยเยอะ
ทริปนี้เป็นทริปกินตัวแตก ไปต่อกันที่ร้าน We Coffee ถึงร้านประมาณ 4โมง เป็นร้านที่ตกแต่งได้สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายรูปที่สุด แต่รสชาติยังไม่โดดเด่นเท่าไร
ไหนๆมาบางแสน ต้องแวะไปหาดวอนนภา แต่รู้สึกว่าน้ำไม่น่าเล่นเท่าไร แต่ลมแรง วิวดีเหมาะนั่งชิวมากๆ
ตกเย็นก็ถึงเวลาต้องหาของกินกันแล้ว ซึ่งร้านที่เราเลือกคือร้าน ครัวปลาทู ทิดอ้วน ร้านดังบางแสน ที่จอดรถกว้างๆ แต่เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อน และยังไม่หิวมาก เลยซื้อเอาไปทานที่โรงแรมดีกว่า ของขึ้นชื่อของร้านนี้ก็หนีไม่พ้นเมนูปลาทู ของที่นี่จะเป็นปลาทูทะเลเนื้อแน่นๆแต่ตัวจะไม่ใหญ่ รสชาติอร่อยเด็ดเลยทีเดียว
หลังจากได้เสบียงแล้วก็ขอไปเก็บของพักผ่อนที่ทึ่พักของเรา สำหรับทริปนี้เราเลือก โรงแรม Amari Residence Pattaya ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ แบ่งโซนอีกแห่งเป็นคอนโดด้วย ตัวโรงแรมทำเลดี มองเห็นวิวทะเลสวยงาม ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากในห้องที่เราพัก และยังมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และซาวน่า เทียบกับราคาแล้วคุ้มค่ามากๆ ห้องที่เราเลือกเป็นห้องพักแบบสวีท 2 ห้องนอน ภายในมีครัวให้และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมถึงอาหารเช้า ของที่นี่มีอาหารหลายแบบทั้งไทย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และยุโรป แต่หากคนมากๆ บริการอาจไม่ทั่วถึงเท่าไรในโซนอาหารเช้า ส่วนมากทางโรงแรมจะเน้นให้ดูแลตัวเองมากกว่าทั้งสระน้ำและซาวน่า
หลังจากทานอาหารเช้าของทางโรงแรมเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินทางไปยัง เกาะลอย ศรีราชา เพื่อที่จะนั่งเรือไปยังเกาะสีชัง เรามาถึงยังท่าเรือเกาะลอยเวลาประมาณ เที่ยง เรือจะออกทุกๆ 1 ชม. ค่าโดยสาร 50 บาทต่อคน ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีถึงเกาะสีชัง
เมื่อถึงเกาะสีชัง จะมีรถจอดรอคอยบริการที่ท่าเรือ ราคาตามมาตรฐาน มีเจ้าหน้าที่ประกาศราคาผ่านลำโพงตลอด รถก็มีให้เลือกทั้งมอเตอร์ไซค์ขับเอง 1 วัน 250 บาท รถ 3 ล้อนำเที่ยว หรือสกายแลป ราคา 250 บาท พาเที่ยว 4 ที่สำคัญ (นั่งสูงสุด 6 คน) และรถสองแถวนั่งได้ประมาณ 15 คน เราเลือกสองแถวเพราะนั่งสบายดี ราคา 500 บาท พาเที่ยว 4 ที่
ที่แรกคือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำเกาะสีชัง และที่นี่วิวสวยมาก หากใครอยากพิสูจน์พลังก็สามารถลองเดินขึ้นเขาได้นะ
จุดที่ 2 ช่องเขาขาด หรือ ช่องอิศริยาภรณ์
สถานที่ชมวิวสวยๆบนเกาะสีชัง สามารถลงไปถ่ายรูปเล่นด้านล่างได้มีทางเดินชมวิวเป็นทางยาว
หลังจากเที่ยวจุดที่ 2 เสร็จ ก็ขอพักทานอาหารหน่อย บอกลุงคนขับว่าพาไปร้าน ป้าปั้นลุงวิศ เต็มอิ่มไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพรสชาติอร่อย เจ้าของร้านใจดีคุยสนุกมาก บอกแหล่งที่มาของวัตถุดิบอาหารให้ฟังด้วย แต่ละที่ฟังแล้วตกใจเลยทีเดียว เมนูเด็ดเลยคือไอศกรีม
เมื่ออิ่มแล้วก็ไปต่อที่จุดที่ 3 พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นวังเพียงหนึ่งเดียวในไทยที่ตั้งบนเกาะ ภายในมีสิ่งปลูกสร้างสวยงามมากมาย และอีกจุดสำคัญ คือสะพานอัษฎางค์ ที่ใครมาเกาะสีชังย่อมไม่พลาดที่จะเก็บรูปภาพคู่กับสะพานนี้
จุดที่ 4 (สุดท้าย) หาดถ้ำพัง
ถามคนแถวนั้นว่าถ้ำอยู่ไหน ได้คำตอบมาว่า ไม่มี ถ้ำพังไปแล้ว โอเครู้เรื่อง
โดยหาดถ้ำพังนี้ เป็นจุดนึงที่มีหาดทรายขาวสามารถลงเล่นน้ำได้ และมีเตียงชายหาดและร้านอาหารคอยให้บริการ และที่นี่ เตียงนั่งฟรีนะครับ เป็นที่สุดท้ายสำหรับเกาะสีชัง
ระหว่างทางกลับแวะซื้ออาหารเย็นไปทานที่โรงแรม ที่ร้านจุก-โจ้ อาหารป่า ร้านดังพัทยาที่อาหารราคาไม่แพงรสชาติเข้มข้นโดนใจ
เคยเห็นหลายๆคนไปเที่ยวชลบุรีแล้วลงรูป 7-Eleven สวยๆเลยลองหาดู เห็นว่าทางกลับผ่านได้เลยลองแวะสักหน่อย โดยรวมไม่ค่อยมีอะไรมาก ของขายไม่ได้ครบครันอย่างที่คิด แต่ได้ความแปลกใหม่ วันที่ไปเครื่องทำโค้กวุ้นเสียอีกเซ็งเลย
เช้าวันต่อมาหลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จ นั่งพักผ่อนในโรงแรม แล้วก็เดินทางมายังจุดชมวิวเขาแหลมปู่เจ้า ถึงประมาณเที่ยง เป็นจุดชมวิวสวยๆในสัตหีบ ตั้งอยู่ในฐานทัพเรือสัตหีบ แต่ลิงเยอะต้องระวังหน่อยนะ
หลังจากชมวิวเสร็จ เราก็มุ่งไปยังร้าน Cafe Amazon สาขาฐานทัพเรือสัตหีบ ประมาณบ่ายโมง 20 นาที เป็นร้านของ Amazon ที่มีขนาดใหญ่ และวิวสวยมาก
แวะมาทานข้าวเที่ยงกันตอน บ่าย 2 ที่ร้านบ้านเพื่อนทะเล ร้านอาหารรสชาติดี สไตล์พื้นบ้าน เมนูเด็ดของที่นี่ น่าจะเป็นปลาหมึกผัดกะปิสตอ อาหารอร่อยวิวสวย ลมเย็น
ไปต่อจ้า ไปยังวัดญาณสังวรารามฯ แต่ก่อนไป ขอแวะไปหาพระอาจารย์สุชาติ พระนักปฎิบัติ ที่เขาชีโอนท่านมักไปเทศน์ที่นั้นเป็นประจำ เราไปทันถวายของก่อนท่านจะกลับพอดีเลย เมื่อถวายของเสร็จก็มาเดินเล่นที่วัดญาณสังวรารามฯเล็กน้อย
ถัดไปไม่ไกลเท่าไรจากวัดญาณสังวราราม ก็คือวิหารเซียน หรือ อเนกกุศลศาลา ภายในมีของโบราณและงานศิลปะมากมายให้เราศึกษา และยังมีพระมีเทพ ให้เรากราบไหว้ขอพรอีกด้วย มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท ถือว่าราคาไม่แพงเลย
แล้วเราก็หอบร่างอันเหนื่อยอ่อนมายังโรงแรม พักผ่อนดูพระอาทิตย์ตกสักพัก พอค่ำๆก็โบยบินต่อยัง ห้าง Terminal 21 Pattaya ห้างใหม่ของพัทยา จุดเด่นอยู่ที่บันไดเลื่อนสูงสุดๆ กับการตกแต่งห้างที่สวยงาม มีของมากมายครบครัน ไหนๆมาเลยขอฝากท้องที่นี่เลยแล้วกัน โดยเลือกทานที่ Food Court ของห้าง ที่นี่ใช้ชื่อว่า Pier21 มีร้านอาหารมากมายให้เลือกแถมยังราคาถูก รสชาติดีอีกด้วย
วันสุดท้ายแล้วยังอยากอยู่ต่อเลย หลังจากทานอาหารเช้าเก็บของและพักผ่อนแล้ว ได้เวลาโบกมือลาโรงแรม แล้วเดินทางต่อไปยังร้านกาแฟ Benjamit esspreso bar ร้านกาแฟฝีมือดีที่ซ่อนตัวในซอย แต่ชาวต่างชาติก็มาทานเยอะมากและขอบอกร้านนี้ไม่มีแอร์นะครับ
สถานีต่อไป วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดที่หลายๆคนต่างรู้จักดี ทั้งสิ่งปลูกสร้างที่สวยงามและความศักดิ์สิทธิ์ และวันที่มาเป็นวันสงกรานต์มีเปิดให้สรงน้ำพระด้วย
ปิดท้ายทริปกันที่ร้าน ชัยครับ ร้านเล็กๆในหมู่บ้านที่รสชาติอร่อยใช้ได้เลย เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือ มัสมั่นผัดแห้งกระดูกหมูอ่อน หากใครมาวัดโสธรวราราม ก็แวะมาทานได้นะครับ
ทริปนี่อาจจะดูสายๆไปหน่อย เพราะผิดจากแผนเรื่องเวลาออกเล็กน้อย เป็นคนรากงอกอยากนอนชิวๆที่โรงแรมบ้าง เลยทำให้เดินทางช้า ยังไงก็ฝากไว้เป็นแนวทางการเที่ยวด้วยนะครับ
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ