เริ่มเดินทาง 16 ตุลาคม 63 หลังเลิกงาน
ขับรถมุ่งหน้าขึ้นเหนือ แวะพักระหว่างทางหาร้านข้าวต้มโต้รุ่งทาน ยุงอย่างเยอะ แถมตัวโคตรใหญ่ ขนาดจุดยากันยุง 2 แผ่น ก็ยังเอาไม่อยู่ จากนั้นเดินทางหาโรงแรมนอน 1 คืนที่พิษณุโลก ได้นอนประมาณ 4 ชั่วโมง
คำเตือน แนะนำว่าให้ทำการหาโรงแรม หรือรีสอร์ทล่วงหน้า หากคิดว่าจะต้องพักระหว่างทางจริงๆ เพราะตอนนั้นที่ไป หาโรงแรม รีสอร์ท ยากมาก เพราะทุกที่เต็มๆๆๆๆ งง มาก เหมือนนัดไปเที่ยววันเดียวกันหมดหรือเปล่าไม่รู้
สรุปหาจนได้ 2 ห้องสุดท้าย โชคดีที่ได้นอน
รุ่งเช้าวันที่ 17 ตุลาคม 2563
ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เดินทางออกจากรีสอร์ท 6.30 มุ่งหน้าขึ้นเหนือ
บรรยากาศดีมาก สมกับความเป็นเหนือที่แท้ทรู
ระหว่างทางไปสู่ อ.ฝาง ผ่านป่าเขา ตลอดทาง
แนะนำว่าใครที่จะขึ้นไปกางเต้น หรือเช่าเต้นท์บนจุดกางเต้นท์ของอุทยานนั้น ให้เตียมเสบียงไปให้พร้อม และเตรียมซื้อถุงดำไปด้วย เพราะต้องใส่ขยะและถือกลับลงมาด้านล่าง
ถึงอุทยานประมาณ 16.00 น.
ในพื้นที่อุทยานจะมีบ่อน้ำแร่ให้อาบ ใครที่เดินทางมาไกลๆ แนะนำให้มาไวๆหน่อย จะได้อาบน้ำแร่ และเตรียมตัวขึ้นจุดกางเต้นท์ จะได้ไม่ต้องขึ้นไปอาบน้ำที่หนาวยะเยือกด้านบน
แต่การเดินเข้าไปในพื้นที่ของ บ่อน้ำพุร้อน ให้เตรียมเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนด้วย เพราะกลิ่นจะเหม็นติดตัวมากๆ
แวะทานข้าวในอุทยาน ประมาณ 16.30 มีรถโฟวิลมารับ อันนี้ต้องเช่าขึ้นนะคะ เพราะว่ารถที่จะขึ้นไปข้างบนดอยได้นั้น ต้องเป็นรถโฟวิลเท่านั้นค่ะ ไปกลับ 1800 บาท
ซึ่งพี่เอนก คนขับรถก็ขับมารับเรา ตอนไปได้เพื่อนร่วมทาง 2 คน เป็นคนไทย และฝรั่งที่มาเที่ยวด้วย
พี่เอนกคนขับรถ ตอนคุยกันพูดว่า คำเดียวว่า ผมเพิ่งเคยขับรถขึ้นมาเป็นครั้งแรกครับ ความไว้ใจในการเดินทางครั้งนี้สูงมากกก
ระหว่างทางขึ้นไป เป็นทิวเขา ไม้สูงตลอดทาง ถนนอยู่ระหว่างการทำทางใหม่ เป็นระยะ และได้แวะถ่ายรูปตรงจุดชมวิว ที่ห่างจากจุดกางเต้นท์ประมาณ 1 กม.
ถึงจุดกางเต้นท์ หนาวมากแนะนำให้ใส่เสื้อกันหนาวก่อนลงรถ ตอนนั้นที่ไปอากาศเย็นมาก บวกกับพายุที่พัดโหมกระหน่ำเข้ามา ลมพัดผมแรงกว่าไดร์เป่าผมอีก
แรงแบบที่เต้นท์ที่เจ้าหน้าที่กางไว้ ถูกพัดพังกระจัดกระจายไปหมด
เมื่อหาจุดกางเต้นท์ที่ ทำนายกันอย่างดีว่าจะหลบลมพายุได้เสร็จนั้น พร้อมกับเจ้าหน้าที่อุทยานที่ดูแลเป็นอย่างดี ทางอุทยานมีเต้นท์ให้เช่า ซึ่งจะกางไว้ให้เรียบร้อย สำหรับคนที่ติดต่อเช่ามาก่อนหน้านี้ แต่ตอนนั้นที่ไปพกเต้นท์ไปกางกันเอง จึงเช่าแค่ที่กางเต้นท์ ซึ่งไม่ได้พื้นที่อย่างที่หวัง เพราะวันที่ไปพายุเข้า เจ้าหน้าที่บอกว่า กางตรงไหนก็ได้ที่เต้นท์สามารถกางได้แล้วลมไม่พัดเต้นท์ไป กางเต้นท์เสร็จก็พบว่า ร้านอาหารไม่มีอาหาร เพราะพายุเข้า ไม่มีคนขึ้นมาขายและทำให้ โชคดีที่ทางเรามีซื้อของขึ้นไปเผื่อไว้ ไม่งั้นตายแน่ๆ ทั้งหนาว ทั้งหิว
แอลกอฮอล์ไม่มีขาย ใครอยากได้ ซื้อเตรียมไปให้ครบ
สามารถเช่าเบาะรองนอนได้ 20 บาท หมอนยางพารา 10 บาท มีถุงนอนให้เช่า 30 บาท ครบทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องแบกขึ้นไปเยอะแยะ เราว่าเช่าเอาคุ้มสุด ถือว่าเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ด้วย
ดึกดื่นเที่ยงคืนนั้น ตอนนอน ก็มีวัวมาเดินเล่นเอาส้มไปแด๊....เฉย พี่ที่ไปกันก็ร้องวายเผือก วัวเผือกทั้งคืน เอาเป็นว่ากว่าจะได้นอน ก็รู้ตัวอีกที ตี 3.30 ตื่นมาแปรงฟัน เตรียมเดินขึ้นดอย เพื่อไปดูทะเลหมอก แม้ว่าพายุจะเข้า
และทางเจ้าหน้าที่ก็ถามและให้โอกาสตัดสินใจว่า พายุเข้านะครับ จะขึ้นไปจริงๆหรอครับ ทะเลหมอกไม่มีหรอกครับ พายุแรงขนาดนี้
นักท่องเที่ยวก็ใจสู้สุด มาขนาดนี้แล้ว ไปสิจ๊ะ
แนะนำอย่างนึงเตรียมน้ำขึ้นไปคนละขวด แต่อย่าดื่มตอนเดินขึ้น ให้จิบแค่นิดเดียว เพราะตอนเดินขึ้นไปจะจุกมาก และถ้าดื่มนำมีโอกาสจะอ้วกสูงมาก
เตรียใเสื้อกันหนาวไปด้วย เตรียมเสื้อกันฝนกันหมอกลง จะเปียกเพราะหมอก แต่เสื้อกันหนาวควรเตรียมใจไว้ว่าต้องถอดระหว่างทาง เพราะเดินไปเรื่อยๆจะร้อนละ เพราะเดินขึ้นเขาชันสุด
ต้องบอกเลยว่าใครที่ใจไม่ถึง หรือเหนื่อยง่าย หรือป่วยง่าย หรือมีโรคประจำตัว อะไรๆ ก็แล้วแต่ พูดจากใจจริงว่าโหดมาก ใจไม่ถึงนอนรอข้างล่างจะเป็นสุขที่สุดค่ะ เพราะการเดินป่าช่วงกลางวันที่นี้ก็ว่าโหดแล้ว นี้เดินตอนกลางคืนที่พายุเข้า พายุพัดแรงมาก ช่วงที่ผ่านป่าโล่ง ต้องเดินก้มต่ำ เพื่อไม่ให้พายุพัดเข้ามาแล้วตกเขา
แต่ขอบอกว่า ตอนลงมา คือสวยมาก สวยแบบที่ว่า เก็บเป็นภาพครั้งนึงในชีวิตได้เลย เหมือนอยู่ในนิยายมากๆ นึกถึงสมัยเด็กที่ วรรณดดีไทย แล้วถ่ายในป่าแบบมีหมอกจางๆ ละอองฝนลงปอยๆ มันสวยจริงๆนะ อากาศดีสุดๆ ตอนเดินลง คือแฮปปี้มาก ดีใจที่ครั้งนึงเคยไปมา
แต่ส่วนตัวก็คิดว่าครั้งเดียวแหละ สภาพกายไม่ไหวจริง
แต่เดี๋ยวให้ดูรูปที่ถ่ายตอนลง รูปถ่ายที่ว่าสวย ตอนเห็นภาพจริงๆ กับบรรยากาศรอบตัว สมกับความเป็นอุทยานแห่งชาติ สวยมากกกก
คำแนะนำ
สัญญาณมือถือ AIS มีบ้าง ค่ายอื่นเงียบกริบ
เตรียมอาหารขึ้นไปให้พร้อม
เสื้อกันหนาวตองมี
เสื้อกันฝน
หมวกกันหมอก
ไฟฉาย
อุปกรณ์อาบน้ำ ล้างหน้า
เครื่องดื่มคลายหนาว
เช่ารถ 4wd ไปอุทยาน = 1800 / 8 คน
ค่าเช่าเต็นท์ หลังละ 225 บาท นอนได้ 3 คน
ค่าเช่าถุงนอน 30 บาท ค่าที่รองนอน 20 บาท
ค่าไกด์เดินขึ้นดอย (300 บาท / 8 คน)
ลานกางเต็นท์กิ่วลม อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
ติดต่อสอบถามการเดินทางได้ที่ 084-4834689 และ 052-080801
https://www.facebook.com/Doiphahompok/
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ