ผมเริ่มต้นการเดินทางเพื่อกลับบ้านครั้งนี้แต่เช้าตรู่ โดยใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 11 (เชียงใหม่ - ลำปาง) เดินทางมุ่งหน้าสู่ นครบุรีศรีเวียงโกศัย หรือที่ ใครๆ หลายคนเรียกว่า แพร่รีส พอถึงแยกหนองแขม ที่อำเภอลอง ผมเลือกเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวง 1023 เพื่อที่จะผ่านทางอำเภอลอง เพราะผมมีจุดหมายที่หนึ่งที่อยากแวะเข้าไปเพื่อรอบางสิ่ง
ที่หมายแรกของผม สถานีรถไฟบ้านปิน อำเภอลอง เป็นที่แรกที่ผมอยากแวะเข้ามาเพราะอยากมาถ่ายรูปกับรถไฟสายกรุงเทพ-เชียงใหม่ที่สถานีนี้ แต่!! รถไฟ ไปแล้ว เลยเก็บภาพบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆมาฝาก แล้วออกเดินทางต่อไปยังตัวเมืองแพร่ ทริปนี้ขอยังไม่รีวิวและพาไปทาน,กิน,แดก ขนมจีนน้ำย้อยต้นตำรับเมืองลองนะครับ ไว้จะกลับมาจับชุดใหญ่ ครั้งต่อไปเอาแบบ Exclusive ถึงเตาที่ใช้ทำเลย
ขับรถเข้ามาถึงตัวเมืองแพร่ท้องชักเริ่มร้อง เลยขับตรงไปที่ก๋วยเตี๋ยวร้านประจำเมื่อครั้งยังอยู่มัธยม ชื่อร้านว่า โกเฝน ร้านนี้เปิดมานานมากตั้งแต่ผมยังเด็ก จนตอนนี้เปลี่ยนจากโกที่ท่านเสียไปแล้วมาเป็นรุ่นลูก แต่รสชาต ยังคงใกล้เคียงของเดิม ไม่ผิดเพี้ยน ร้านตั้งอยู่ที่ ถนนพระร่วง ด้านหลังของโรงเรียนนารีรัตน์ ซึ่งอดีตเคยเป็น รร หญิงล้วน ผมถึงชอบมากินไง
จัดไปเลยครับร้านแรก 4 ชาม เบาๆ ไม่ใช่เพราะติด รร หญิงส่วนใหญ่นะ อันนั้นพูดเล่นครับ มันอยู่ที่น้ำซุปใส กับที่ตัวเนื้อที่หมักจนนุ่ม อร่อยละมุนลิ้น แถมราคาเบาๆ กว่าที่เชียงใหม่ด้วย ร้านเปิดแต่สายๆ เพราะฉะนั้น สักบ่ายสองของก็จะเริ่มหมดแล้วน่ะครับ (อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/e01bf5440f41496c8c5b8a7364966306?ref=ct)
เมื่อท้องอิ่มก็มุ่งหน้าไปยังที่หมายต่อไป สำหรับคอกาแฟ อย่างผม ร้านกาแฟบ้านเบ้ว
บ้านเบ้ว หรือ Slope coffee ร้านนี้เปิดมาหลายปีแล้วพอสมควร ผมแวะเกือบทุกครั้งที่กลับมาแพร่ เป็นร้านกาแฟ ที่ตกแต่งแบบวินเทจ รึป่าวน่ะ คือมันจะเก่าๆ โบราณๆ คลาสสิก ผมเรียกไม่ถูก ข้าวของที่ตกแต่งร้านจะเป็นของที่เคยพบเห็นสมัยเด็กมากๆ เดินไปสั่งกาแฟพร้อมจ่ายเงิน หาที่นั่ง เย็นๆ เพราะอากาศ โค ตะ ระ จะร้อนเลย นั่งสักพักน้องยกกาแฟมาเสริฟถึงโต๊ะ แต่ ตึ้งโป๊ะมาก มันมีขนมปังปี๊บ ABC ที่ผมเกลียดมาก ใส่ในจานเล็กๆ เสริฟมาด้วย น้ำตาจะไหล กาแฟของที่นี่ คหสต ผมว่ามันเข้มดีนะ ทุกครั้งที่มาจะสั่ง cappuccino มีความหวานมันของนมด้วย พอชิมกาแฟเสร็จ ก็รีบเดินขึ้นรถทันที โดน ABC ไล่ มุ่งหน้าไปร้านกาแฟร้านต่อไป ที่ใครๆ เขาบอกว่า บาริสต้าแซบ (บ้านเบ้ว หรือ Slope coffee อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/9a73885e720348abbe4d20ada2cdc58d?ref=ct)
ก่อนไปร้านกาแฟอีกร้าน ผมของพาแวะไปซื้อบะหมี่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวคง หรือ ลุงคง ร้านจะอยู่ที่บน เมฆ บนเมฆจริงๆนะ ก็คนแพร่เขาเรียก กำแพงเมืองเก่าว่า เมฆ ร้านนี้ส่วนตัวแนะนำไม่ต้องกินที่ร้านครับ ไม่ใช้เพราะไม่มีที่นั่ง ไม่ใช่เพราะร้อน แต่มันเป็น Concept เลย เพราะร้านนี้มีชื่อเสียงสุดก็คือ ก๋วยเตี๋ยวห่อตอง เพราะฉะนั้น สั่งไปกินที่อื่นครับ ผมสั่งเป็นบะหมี่ลูกชิ้นหมูแดง พิเศษ 40 บาทครับ ราคาและปริมาณแบบนี้ หาไม่ได้ที่เชียงใหม่แน่นอน หนักหมู หนักเครื่อง ที่สำคัญร้านนี้ไม่ต้องปรุงครับเขาปรุงมาให้แล้ว เราแค่เอามะนาวที่เขาให้มาบีบใส่ลงไปแล้วคลุกๆ ให้เข้ากัน เท่านั้นแหละฟินเลย อ่อ อย่าลืม ลูกชิ้นหมูลวกอร่อยนะ ผมสั่งกลับเชียงใหม่ทุกครั้ง ร้านนี้ห้ามพลาดเลยน่ะ ยืนรอสักพักเพราะช่วงเที่ยงคนจะเยอะ ใครจะสั่งล่วงหน้าก็โทรสั่งได้เลยตามเบอร์บนห่อจ้า มุ่งหน้าติดเครื่องรถไปร้านกาแฟกันดีกว่า ก๋วยเตี๋ยวเก็บใส่ท้ายรถไว้กินที่บ้าน (ร้านก๋วยเตี๋ยวคง หรือ ลุงคง อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/a97366c028a942b1af74b16716714cb6?ref=ct)
ถึงแล้วร้านกาแฟที่ใครหลายคนกล่าวขานว่า บาริสต้าแซบ ครั้งแรกผมมาไม่เจอ มาเจอครั้งหลังๆ ร้านนี้ชื่อร้าน โฮะ เป็นร้านกาแฟกับเบเกอรี่ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับประตูม้าบน เมฆ อีกแล้ว แน่นอนผมยังคงสั่ง cappuccino เย็นเหมือนเดิม เพื่อเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆที่จะไปในวันนี้ รสของกาแฟเข้มข้น กาแฟที่นี่มีกลิ่นคั่วกาแฟที่หอม เอาไป 4 เลยแล้วกัน หวานนิดๆ จากนมข้นอีกแล้วถ้าเข้าใจไม่ผิด เพราะไม่น่าจะเป็นไซรัป ตอนเขาชงก็ดันมัวแต่ดูเค้ก ผมสั่งเค้กมาอีกสองสามชิ้น ตามที่พนักงานแนะนำ ลองชิม ถ้าเอาตามความคิดเห็นส่วนตัวผมว่า มันก็ธรรมดา ถามว่าอร่อยไหม มันอร่อยนะครับ แต่มันก็อร่อยทั่วๆไป บาวนี่สำหรับผม ผมว่ามันธรรมดา ออกหวานๆ อาจเพราะผมชอบรสที่เข้มๆ เหมือนร้านต้องตา & ตะวัน เบเกอรี่ ที่เชียงใหม่ด้วยมั้งเลยคิดว่ามันยัง ไม่ถึง ยังไม่สุด นานาจิตตังนะครับ ของกิน ลิ้นใครลิ้นมันครับ แต่กาแฟผมชอบ เพราะหอม เข้ม ไม่หวานมาก กาแฟหมดก็ ออกเดินทางกันต่อครับ มุ่งหน้าร้านกาแฟร้านถัดไป (ร้าน โฮะ อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/76172e3979374b85bb63fcd2cad26241?ref=ct)
ร้านกาแฟร้านสุดท้ายของวัน ร้าน Charlotte Hut ร้านตั้งอยู่ในซอยหลังอาชีวะ บางคนเรียกซอยโรงหมู เข้ามาแล้วร้านอยทางขวามือผมจอดรถที่คาร์แคร์ ร้านนี้มาตามรีวิวครับ มีแนะนำหลายเพจ หลายรีวิว ร้านร่มรื่นหน้านั่งครับ มีทั้ง indoor และ outdoor ด้านในร้านแบ่งเป็นส่วนๆ เป็นมุมๆ ให้ความเป็นส่วนตัวดีครับ ด้านนอกมีเก้าอี้ และจัดพัดลมไอน้ำไว้ให้คลายร้อน ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะ มีทั้งวัยรุ่น หนุ่มสาว และ กลุ่มธุรกิจอีกแล้ว Y-Y ผมได้ที่นั่งเป็นมุมเล็กๆ มุมหนึ่งที่ยังว่าอยู่ เอาของว่างแล้วไปสั่งกาแฟกันครับ ผมสั่ง Cappuccino มันไม่หอม ไม่รสกาแฟไม่เข้มข้น ส่วนชาไทยคล้ายๆไอศครีม แต่เนื้อไม่ได้นุ่มแบบไอศครีมนะครับ จะบอกว่าเป็นสมูตตี้ก็ไม่ใช่ มันแบบสมูตตี้ปั่นแล้วเอาไปแช่ให้แข็งขึ้นแล้วตักเสริฟอะครับ เค้กมันม่วง คือ มันดีย์ อร่อยเลย แนะนำ มันมีความหอมและหวานจากมันม่วง รสและเนื้อของตัวเค้กมันนุ่มในปาก ถ้ามาแล้วต้องสั่งเลยน่ะบอกเลย มาต่อที่เครปเค้ก ถือว่าทั่วไปครับ อร่อย ทานได้แต่ไม่ถึงกับว้าว (ร้าน Charlotte Hut อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/6e95137cd9fa4a8a81f7ce47480b6783?ref=ct)
หมดวันพอเท่านี้ก่อนครับ ของกลับบ้าน นอนพักพรุ่งนี้ออกเที่ยวกันอีกที
เริ่มต้นวันด้วยข้าวเช้าที่บ้าน พร้อมหน้าพร้อมตา มันจะมีที่ไหนอบอุ่นเท่าบ้าน วันนี้กลับเชียงใหม่แล้ว เริ่มต้นสายหน่อย ไม่ต้องรีบร้อน ก่อนกลับยังแวะอีกหลายที่ครับ
ผมแวะเข้าไปที่บ้านทุ่งโฮ้ง ซึ่งเป็นแหล่งขาย เสื้อหม้อฮ้อมและผ้ามัดย้อม ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยม รูปนี้ต้องขอเอารูปที่เคยได้ถ่ายมาก่อนหน้ามาโพนส์นะครับ เพราะลืมถ่ายรูปมามัวแต่เดินหาเสื้อ ราคาเสื้อผ้าที่นี่อยู่ที่หลักร้อยครับ เบาๆ สบายกระเป๋า มีให้เลือกหลากหลายแบบ มีทั้งทอมือ ทอเครื่อง อ่อ ใครที่ซื้อไปบอกเลยนะครับ เสื้อหม้อฮ่อมแท้ สีมันต้องตก ฉะนั้น อย่าซักรวมกับผ้าขาว อันนี้เรื่องจริงนะ สีมันจะตกไปเรื่อยๆ จนซีดไปครับ
ออกจากทุ่งโฮ้ง ขับเข้าเมือง ผ่านหน้า รพ แพร่ มุ่งตรงไป พระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำจังหวัดแพร่ และผู้เกิดปีขาล ที่นี่ แนะนำให้มาช่วงเช้า แบบเช้าๆเลยนะครับ เพราะสายๆ บ่ายๆ จะร้อน แบบว่า แทบจะละลาย พระธาตุช่อแฮเป็นพระธาตุที่บรรจุสารีธาตุพระศอกซ้ายและพระเกศาธาตุไว้ กราบขอพรกันตามสมควรแล้วก็เดินออกมากราบพระทันใจ ด้านหลังองค์พระทันใจมีไม้วาอยู่ ใครอยากรู้อะไร สมหวังไม่สมหวังลองอธิฐานจิต "วาไม้" กันดูครับ ผมถ่ายรูปมาน้อย ไปหน่อยเพราะอากาศที่ร้อนและกลับกันเถอะครับ ร้อน วัดวานี่ร้อนจริงๆ ไปหาที่เย็นๆ กันดีกว่า (พระธาตุช่อแฮ อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/reviews/00668fdb7c154101988fa2c7cb4b04d8?ref=ct)
ก่อนกลับ ผมแวะไปที่ร้านกาแฟอีกร้านหนึ่งที่มีคนพูดถึงเยอะ ร้าน Hug&Mug ร้านนี้อยู่ในตัวเมือง ตั้งอยู่ที่ซอยด้านข้างคุก (เรือนจำกลาง) ของแพร่ครับ ที่นี่ นอกจากจะเป็นร้านกาแฟยังมีบริการห้องพักด้วย ผมยังคงสั่งกาแฟเป็น Cappuccino เหมือนเดิม ออกหวานๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ รสของกาแฟข้มแบบกลางๆ คล้ายๆกับที่ร้าน Charlotte Hut เค้กกับเมนูของหวานที่สั่งมา ผมจำชื่อเมนูไม่ได้ยังไงต้องของโทษด้วยครับ เพราะผมไปชี้เอาที่ตู้แช่เค้ก อร่อยทานได้ทั้งสองเมนูครับ แต่ไม่ว้าว ตัวเผือกหนึบๆ อร่อย ไอศครีมผมว่าคล้ายกับวอลเลย บรรยากาศในร้านน่านั่งครับ โถของร้านเปิดสูงเลยทำให้ไม่อึดอัด มีที่นั่ง ด้านนอกที่เป็นส่วนตัว มีที่ให้ถ่ายรูปหลายมุม (ร้าน Hug&Mug อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/restaurants/187768mz-hug-mug-caf%C3%A9-and-studio?ref=ct)
จากนั้นก็มุ่งหน้ากลับ เชียงใหม่กันครับ
ก่อนออกจากตัวเมืองแพร่ ผมเข้ามากราบนมัสการลาหลวงพ่อวิชิตมาร ที่ รร ป่าไม้แพร่ โดยส่วนตัวผมมากราบทุกครั้งที่กลับแพร่ ครับ
แพร่ยังมีที่กินเที่ยว รอทุกท่านอยู่อีกเยอะนะครับนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ไว้มีโอกาศจะกลับมาเขียนร้านอื่นๆ ที่เป็นร้านไม่ดังแต่อร่อยให้ทุกท่านได้ตามไปชิมครับ
สุดท้าย ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ผมตั้งใจไว้นานมากแล้วว่าอยากเขียนรีวิวของกินและที่เที่ยวในจังหวัดแพร่สักครั้ง ตอนนี้สำเร็จสักที ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ทุกความคิดเห็นต่อรสชาตอาหารเครื่องดื่ม เป็น คหสต ครับ ต่างคนต่างวาระ ลิ้นใครลิ้นมัน ผมเพียงแต่นำเสนอในมุมมองของผมครับ
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ