เริ่มต้นกันที่ออกเดินทางตอนเช้าเพื่อไปสนามบินดอนเมือง เดินทางด้วยเครื่องบินไปยังจังหวัดอุดรธานี เพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งป่าคำชะโนด
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากเพื่อนตัวดีทั้งหลายไม่ชวนกันเที่ยว....
ทางเพื่อนเจ้าของทริปได้ทำการจองรถยนต์เพื่อเอาไว้สำหรับใช้เดินทางตลอดทริป
ค่าเช่ารถยนต์นั้นถูกมาก อีกทั้งรถยนต์ที่ได้นั้นสภาพใหม่และสพอาด กว้างพอสำหรับเดินทาง 4 คน ต้องขอบคุณบริษัท Thai rent a car เป็นอย่างมากนะคะ
หลังจากออกจากสนามบินเริ่มต้นมื้อแรกของวันด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อ(ที่เพื่อนบอกมา) ก็คือ คิงส์โอชาอุดรธานี... สั่งกันมาหลากหลายเมนู
พออิ่มท้องก็ออกเดินทางต่อ... มุ่งหน้าไปที่ป่าคำชะโชด
ระหว่างทางได้มีพายุโห่มกระหน่ำเข้ามา เดินทางช่วงหน้ามรสุมต้องระวังตัวเป็นพิเศษนะคะ มีฝนตกตลอดทางในช่วงเช้าถึงเที่ยง...
เมื่อเดินทางถึงได้แวะซื้อเครื่องสักการะด้านหน้าวัดป่าคำชะโนด.. บริเวณภายในนั้นสวยงามมาก ยิ่งตรงบริเวณทางข้ามจากฝั่งไปสู่เกาะนั้น.. ดูงามแบบอัศจรรย์และลึกลับมาก... มีความเชื่อ(จากป้าที่รู้จักกัน)มาว่าให้ไหว้อธิฐานแล้วลูปสะพานที่มีลักษณะเป็นพยานาคตั้งแต่ปากทางเข้า... ไปจนถึงเกาะคำชะโนดแล้วจะโชคดี
เมื่อถึงเกาะคำชะโนด... ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามทอีกมิตินึง เพราพสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปทัศนียภาพที่แปลกตา.. ต้นไม้น้อยใหญ่ ที่สำคัญยังมีต้นไม้ที่มีมานานตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์(ไม่แน่ใจนะคะ ว่าเรียกว่ายุคอะไร) อย่างต้นคำชะโนดขึ้นเต็มเกาะ
หลังจากที่อิ่มเอมกับบรรยากาศและขอพรจากองค์ท่านแล้ว.. ก็มุ่งหน้าเดินทางต่อเพื่อไปสปาเกลือสินเธาว์ขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี... สปากัญณภัทร....
พอถึงที่ร้านได้มีการจัดสถานที่ดูสวยงาม ดูสงบเงียบสำหรับคนที่มีวิถีชีวิตแบบชาวกรุงฯอย่างพวกเรา ด้านหน้าจะเป็นส่วนของการแช่เท้า ส่วนด้านหลังจะเป็นส่วนของการแช่ตัวและอื่นๆ รวมถึงบ่อเกลือสินเธาว์... แต่ว่าเนื่องจากพายุเข้า ฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
พวกเราตัดสินใจแช่เท้ากันในเรตราคา 100 บาทต่อ1 ชั่วโมง... ซึ่งถือว่าราคาน่ารักมาก
เริ่มแช่รู้สึกว่าเวลาหย่อนเท้าลงไปในอ่างจะมีความร้อนเป็นพิเศษ... แต่พอทนได้ แนะนำสำหรับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับเท้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเท้ามีกลิ่น, หนังกำพร้าที่เท้าเยอะ...หรือเดิน/ยืนนานๆ หลังจากที่ทำการแช่เท้าเสร็จจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน พอเสร็จสิ้นภารกิจแช่เท้า ทางเราได้สอบถามเจ้าของร้านว่ามีร้านอาหารแนะนำไหม เจ้าหน้าที่บอกว่าร้าน "เดอะนัวร์ หรือ ร้านครัวคุณจุ๋ม" อร่อยมาก... ตอนแรกพวกเราก็แบบ... ไม่เชื่อ... แต่ด้วยความหิวก็เลยอยากลองดู
พอถึงร้านด้วยบรรยากาศหน้าร้านและภายในดูหรูหรามาก... เลยคิดว่าราคาน่าจะแพง แต่ทำไงได้... ด้วยความหิวและอยากกินอะไรอร่อยๆ จึงจัดการสั่ง .... ปลาหมึกผัดไข่เค็ม, ต้มยำทะเล, กุ้งราดซอสมะขาม, คะน้าปลาเค็ม, ยำแซลมอนแซ่บ, ปลาหมึกแดดเดียว และข้าว 1 โถ....
ปรากฏว่าอาหารอร่อยมากกก... อร่อยแบบเติมข้าวบ่อยมาก... พนักงานที่ร้านก็มีความยิ้มแย้มแจ่มใส บริการดีมาก เบ็ดเสร็จมื้อนั้นเราจ่ายไป 700 กว่าๆ ตกใจมาก... และประทับใจมากเช่นกัน
หลังจากที่อิ่มท้องเราก็มุ่งหน้าสึ่พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง
ขอเกริ่นก่อนว่า ทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อพิพิธภัณฑ์นี้มา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งตัวของข้าพเจ้าเองเคยได้ยินมาจากตอนที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์ตอนมัธยมต้น... ซึ่งได้เป็นเสมือนเชื่อบ่มเพาะความสนใจมาเป็นเวลานานนับ 10 ปี
พอถึงอาคารจัดแสดง พวกเราเสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาทแต่เนื้อหาเรื่องราวของการแสดงโบราณวัตถุของที่นี่แทบจะเทียบกับราคาค่าเข้าไม่ได้เลย เจ้าหน้าที่ประจำอยู่ให้การบรรยายได้ดีมาก นิทรรศการกว้างและยาวมาก ทำให้รู้สึกว่า... ในที่สุดเราก็ได้มาชมวัตถุโบราณได้ด้วยตาตนเอง.. ไม่ใช่เพียงแค่เห็นในแผ่นหน้ากระดาษในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์อีกต่อไป
แต่เนื่องด้วยเวลาที่จำกัดของทางคณะผู้เดินทาง จึงทำให้เราต้องรีบออกจากพิพิธภัณฑ์ก่อนเวลา (ถ้าใครมีเวลาสามารถเดินชมได้เรื่อยๆ เลยนะคะ)
หลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์บ้านเชียง.. เราก็มุ่งหน้าไปสู่สนามบิน... เติมน้ำมัน คืนรถ ถือเป็นการจบทริป
ปล. ถ้าใครไปป่าคำชะโนด เค้าจะมีให้ซื้อขวดน้ำมนเล็กๆ น่ารักในราคา 10 บาท... ขอบอกก่อนนะคะว่า นำขึ้นเครื่องไม่ได้นะคะ เสียดายมาก
นี่เป็นครั้งแรกของการเขียนกระทู้บอกเล่า เรื่องราวการเดินทางนะคะ หากผิดพลาดอย่างไร ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ