แทนที่จะเอารถส่วนตัวเข้าไปให้เมื่อย เดินทางด้วยบริการขนส่งมวลชนดีกว่า ตั้งแต่มีทางเลือกมากขึ้น รถโดยสารก็ว่างกว่าเดิม และปัจจุบันมีรถโดยสารปรับอากาศแบบไฟฟ้าด้วย อากาศดีขึ้น รุ่นใหม่แอร์เย็น การจ่ายค่าบริการก็สะดวกด้วยบัตรเติมเงิน บัตรเดียวขึ้นรถลงเรือใน กทม. ได้ การเดินทางวันนี้ไปด้วยรถปรับอากาศสาย 2-38 (8) คันเดียวยาวไป .... นั่งเลยจุดที่ควรลง ไปลงสุดสายที่ท่าเรือสะพานพระพุทธยอดฟ้าซะงั้น
ตอนลงก็ง่าย แตะบัตรอีกครั้ง ระบบก็จะคำนวณยอดคงเหลือให้เลย เราดูยอดเงิน เติมเงิน และประวัติผ่าน Application TSB Go Plus ได้เลย และยังเช็คเส้นทางล่วงหน้าผ่าน Application ได้เช่นกัน
ลงรถแบบงงๆ เพราะไม่เคยมา มองไปรอบๆ จะพบท่าเรือสะพานพระพุทธยอดฟ้า ชอบวิวทิวทัศน์เก็บรายละเอียดสักพัก อากาศยังไม่ร้อน เดินสบายๆ
ดู Google แล้ว วางแผนคร่าวๆ ได้ โดยเริ่มจากวัดราชบูรณราชวรวิหาร ซึ่งอยู่ใกล้ๆ แล้วเช่าจักรยานผ่าน AnyWheel ขี่เข้าไปที่สนามหลวง ผ่านร้านไหนอร่อยก็เลี้ยวเข้าไปเลยละกัน กินเสร็จค่อยเข้าไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว ซึ่งจัดในช่วงนั้นถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
เดินจากท่าเรือสะพานพระพุทธยอดฟ้าตรงเข้าไปที่วัดราชบูรณราชวรวิหาร (วัดเลียบ) สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ผ่านการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 1 และอีกครั้งเมื่อปี 2491
ชมวัดเสร็จก็เริ่มต้นเดินทางโดยจักรยานได้ โดยเช่าผ่าน Application Anywhere แนะนำให้ดูเส้นทางที่จะไปว่ามีจุดจอดหรือไม่ เพราะการคืนจักรยานจะต้อง Scan จุดจอดด้วย และต้องคืนจักรยานทุกๆ 30 นาที มิฉะนั้นจะถูกชาร์จในราคาเต็มของรอบ 30 นาทีถัดไปด้วย
เช่าแล้วก็ขี่ได้เลย ..... หาของกินก่อน
ทางผ่านเพื่อไปสนามหลังจะผ่านวัดเบญจบพิธ ซึ่งคลองหลังวัดจะมีร้านเกาเหลาเนื้อเปื่อยรสเด็ดอยู่ บรรยากาศน่านั่งมาก กินเกาเหลาข้างคลอง ร่มรื่น อากาศดี เกาเหลาร้านนี้ดังในย่านนี้เลย เนื้อเปื่อยคือทีเด็ด น้ำซุปนัวสุดๆ มันและน้ำซุปแทรกตามเส้นเนื้อเลยทีเดียว
โดนชูแรงแล้วไปต่อ ขี่ผ่านกระทรวงกลาโหมตรงไปสนามหลวงเพื่อจอดรถจักรยาน
ก่อนเข้าไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุก็ถ่ายรูปวัดพระศรีรัตนศาสดารามก่อน ทัศนียภาพดีมาก รวมถึงความปลอดภัยในการสัญจรที่ปรับปรุงมาเป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวเดินสะดวก ถนนสะอาด ช่วงฤดูหนาวจะสัมผัสอากาศเย็นๆ (ถ้าไม่โดนแดด)
จากนั้นเดินเข้าสนามหลวงเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทางราชการจัดการพื้นที่และความปลอดภัยไว้อย่างดี เป็นระเบียบ
สักการะเสร็จก็เที่ยวบริเวณนั้นต่อเล็กน้อย ใกล้ๆ นั้นวัดเยอะมาก ที่ใกล้สุด
เดินมากเป็นต้องหิว ใกล้จะเที่ยงวันแล้ว เดินสบายๆ ลัดเลาะไปร้านไทยทำ ซึ่งขายเกาเหลาสมองหมู ทีเด็ดก็คือสมองหมูตรงๆ เลย คุณยายเจ้าของร้านขายมาตั้งแต่สาวๆ เน้นแนะนำให้สั่งรวมทุกอย่าง แต่ก็ขึ้นกับเราว่าใจกล้าใจรักจะลองมั้ย สมองหมูทำดี ไม่คาว และมาเต็มๆ ก้อนแบบนี้เพิ่งเคยเจอที่นี่ที่แรกในไทย ตัวสมองหมูมีความมันนิดๆ กินกับน้ำจิ้มแจ่วอร่อยตามเคย ตับก็นุ่ม น้ำซุปหอม ถ้าให้อร่อยขึ้นต้องเพิ่มพริกไทยป่นเยอะๆ มั่นใจความอร่อยได้จากเกียรติบัตรจากหลายสำนัก ทั้งเชลล์ชวนชิม มิชลิน2025 และเปิบพิสดาร
กินเสร็จแล้วแวะเที่ยวอีกวัดใกล้ๆ ร้าน คือวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 ตกแต่งภายนอกอย่างงดงามด้วยสถาปัตยกรรมไทยและภายในแนวตะวันตก
เที่ยววัดเสร็จก็เดินทางกลับ โดยใช้บริการ MRT เดินมาขึ้นที่สถานีสามยอด ไม่ไกลมาก เดินเพลินๆ ที่จริงผ่านร้านน่าสนใจอีกมาก ไว้โอกาสหน้ามาแชร์กันอีกแล้วกัน
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ