วันที่ 1
เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสักการะรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี กับเพื่อนอีก 2 คน ทริปนี้ไม่ใช่ทริปแรกที่จขกท. ขึ้นเขาคิชฌกูฎ ปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้วค่ะ ที่ได้ขึ้นไปสักการะ โดยเริ่มเดินทางจากกทม.ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ไปถึงวัดกระทิงประมาณสายๆ สภาพอากาศช่วงนั้นไม่ร้อนมาก และคนน้อยมากจริงๆ ทำให้ไม่ต้องเดินแออัดและเบียดเสียดกัน ส่วนที่จอดรถก็สบาย สามารถจอดรถได้ที่วัดกระทิงและบริเวณแถวนั้นได้เลยคะ ไม่เสียค่าที่จอดแต่อย่างใด กำหนดการงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง จัดขึ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ไปจน
ถึงวันที่ 5 เมษายน 2562 เมื่อต้นปีที่ผ่านมานี่เองคะ
การเดินทางไปนมัสการรอยพระบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้ถนนสุขุมวิท เมื่อถึงสี่แยกเขาไร่ยาให้แยกซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทาง 24 กิโลเมตร จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือนั่งรถสองแถวสีฟ้าสายจันทบุรี-จันทเขลม ขึ้นรถได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ
และยังสามารถเดินทางได้โดยเริ่มจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรีผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3249 ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร โดยใช้ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง (ทางขึ้นคนละจุดกับอุทยานฯ) เมื่อถึงวัดพระบาทพลวงต้องจอดรถส่วนตัวทิ้งไว้ (มีลานจอดรถไว้บริการ)
จากนั้นมีรถสองแถวบริการขึ้นเขาพระบาท ออกจากวัดพลวงไปสิ้นสุดที่บริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาท โดยรถที่ขึ้นยอดเขาแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) มีรถบริการตลอดเวลา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะถึงจุดเริ่มต้นการเดินเท้าขึ้นไปรอยพระบาท
ปัจจุบันค่าบริการรถขึ้นเขาพระบาท จะเก็บขาขึ้น 100 บาทและขาลง 100 บาทแล้วนะคะ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการจัดการเดินรถ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ (ชาวต่างชาติราคาเดียวกัน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เสียค่าบริการ) แต่จะมีค่าผ่านอุทยานแห่งชาติฯ เพิ่มเติม ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ชำระที่ด่านอุทยานฯ คะ
เมื่อมาถึงจุดปล่อยให้ลง จะต้องเดินขึ้นเขาไปอีก ไม่ไกลคะ บรรยากาศสองข้างทางเย็นสบาย ไม่ร้อน คนโล่งไปอีก
วัดพลวง จันทบุรี
อ้อ!!! ลืมบอกไปอย่างนึงคะว่า ด้านบนไม่มีร้านค้าหรือร้านขายอาหารแล้วนะคะ ต้องเตรียมเสบียงมากันเองนะจ๊ะ และระหว่างทางเดิน ก็งดการโรยกลีบดอกดาวเรือง จึงทำให้ทั้งสองข้างทางนั้นดูสะอาดตา
เดินมาถึงเนินพระเมตตา จุดนี้สามารถจุดธูปเทียนและวางดอกไม้ไหว้พระได้
จากตรงนี้ เดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลกว่าๆ ก็จะถึงรอยพระพุทธบาท ระหว่างทางเดินจะมีจุดแวะพักให้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตลอดเส้นทางนะคะ
และถ้าใครอยากจะข้าห้องน้ำ ไม่ต้องกังวลค่ะ ที่นี่มีห้องน้ำให้ใช้บริการถึง 3 จุดด้วยกันคือ ตรงลานพระสีวลี ลานเมตตาและลานพระบาท
ถึงแล้วคะ "ลานพระบาท" ตรงนี้เป็นจุดให้ทุกคนได้นมัสการรอยพระพุทธบาทกันคะ จะมีเจ้าหน้าที่และพระสงฆ์คอยบอกว่าให้เราปฏิบัติอะไรบ้าง
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
ด้านบนยอดเขาคิชฌกูฎ แวะทำบุญและปิดทองกันสักพักใหญ่
ก่อนจะเดินเข้าไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ควรถอดรองเท้าไว้ด้านนอกนะคะ
แนะนำให้ไปถึงก่อนทำวัตรเช้าและวัตรเย็นนะคะ เพราะเค้าจะกั้นไม่ให้เข้าไปไหว้ประมาณ 1 ชั่วโมงคะ แต่ถ้าไม่มีธุระอะไรก็สามารถเข้าร่วมสวดมนต์ได้นะคะ
ทางเจ้าหน้าที่เค้าจะบอกให้เราสวดตามและขอพรอธิษฐานได้เพียง 1 ข้อเท่านั้น ถ้ามีโอกาสอยากให้เพื่อนๆ ได้มาร่วมทำบุญกันที่นี่นะคะ
ปิดทองกันเสร็จเรีบร้อยแล้ว นั่งชมวิวกันสักพัก บนนี้สามารถเห็นวัดพลวงที่อยู่ด้านล่างได้ ลมเย็นมากคะ ส่วนผ้าแดง จขกท.ไม่ได้เดินไปนะคะ กราบรอยพระพุทธบาทและถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว พวกเราก็ลงกันเลยคะ
ระหว่างทางขึ้นและลงก็จะมีระฆังให้ตีกันตลอดทาง
งานตีระฆังก็มา
ลงมาถึงวัดพลวง ก็ขับรถมากินลมชมวิวกันต่อที่หาดบ้านเพ จังหวัดระยองกันค่ะ
หาดบ้านเพ
ผ่านจังหวัดระยองก็ต้องมา "หาดบ้านเพ" ชายหาดแห่งนี้เป็นชายหาดที่เงียบสงบ บรรยากาศดี น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับพักผ่อนและลงเล่นน้ำในช่วงวันหยุด สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
มีร้านอาหารทะเลริมชายหาด อาหารสดและอร่อย ราคาไม่แพง
นั่งจิบเบียร์เย็นๆสักสองสามขวด แล้วค่อยกลับ
เดินชมพระอาทิตย์ตกดิน
คือวิวมันดีมากกกกกกกก.............. เก็บภาพความประทับใจจนพอใจแล้ว
17.00 น. ได้เวลากลับบ้าน...... ขากลับรถติดมากๆ แต่ Google Map ช่วยหาเส้นทางเลี่ยงรถติด ดีมากๆเลยคะ ลากันด้วยภาพนี้นะ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ
ชอบทริปนี้? ส่งหัวใจและแชร์ทริปสิ
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ
