เบื่อ ๆ กับชีวิตในเมืองใช่ไหม? ร่างกายต้องการพักผ่อนรึเปล่า? อยากจะดื่มด่ำกับธรรมชาติแต่ก็ไม่ค่อยมีเวลากันล่ะสิ ไม่ต้องห่วงนะทุกคน วันนี้ Wongnai Travel จะขออาสาพาหนีออกจากเมืองกรุง แล้วไปตะลุยให้ธรรมชาติโอบกอดกันที่จังหวัด “นครนายก” ดินแดนแห่งธรรมชาติสุดฟิน จากตึกรามบ้านช่องสู่ต้นไม้ ภูเขา และน้ำตก ทริปนี้บอกเลยว่าใช้เวลาสั้น ๆ แบบเช้าไปเย็นกลับเท่านั้น เอาล่ะ! นัดชาวแก๊งมาสักสองสามคน พร้อมเก็บของใส่กระเป๋ากันให้ไว แล้วเราจะขับรถหนีไปชาร์จแบตเที่ยวนครนายกเพิ่มพลังชีวิตด้วยกัน ลุยยย!
มาดูแผนการเที่ยวนครนายกใน 1 วันของเรากัน
1Montreux Cafe & Farm
เริ่มต้นวันกันด้วยคาเฟ่น่ารัก ๆ Montreux Cafe & Farm ที่นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้ว ที่นี่ยังกลายร่างเป็นฟาร์มขนาดย่อม พร้อมกระท่อมน้อยกลางนา สะพานไม้ไผ่กลางทุ่ง รวมถึงยังมีกิจกรรมต่าง ๆ รอให้ทุกคนได้เข้ามา เรียนรู้ผ่านการลงมือทำ ทั้งการดำนา พายเรือ ปลูกผัก ทำไข่เค็ม แถมยังมีแก๊งน้องไก่ ปลา เป็ด รอให้เราไปให้อาหารด้วยนะ (กิจกรรมทำได้ตลอดทั้งวัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีให้สมทบทุนกันเล็กน้อยนะจ๊ะ)
พักเหนื่อยด้วยการเขยิบมานั่งสั่งอาหาร กินของหวานกันเพลิน ๆ ตรงโรงนาสไตล์โมเดิร์นกันดูบ้าง เมนูที่ต้องลองเลยคือ “ผัดไทยกุ้งสด” ตัวเส้นเหนียวนุ่มคลุกเคล้ามากับน้ำซอสสุดเข้มข้น พร้อมตัดเลี่ยนด้วยนมคาราเมลเย็น ๆ หวาน ๆ รสชาติกลมกล่อม เข้ากั๊นเข้ากัน กินไปหามุมถ่ายรูปกันไปเพลิน ๆ รับรองไม่มีเบื่อแน่นอน
2ซุ้มป่าไฟ่วัดจุฬาภรณ์วนาราม
แวะมาถ่ายรูป เช็กอินกันต่อที่ ซุ้มป่าไผ่ ที่วัดจุฬาภรณ์วนาราม แนวต้นไผ่ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวโค้งรับเข้ากันจนกลายเป็น อุโมงค์ทางเดินอันแสนร่มรื่นเงียบสงบ เขียวขจีบรรยากาศดี๊ดีซะจนคิดว่าตัวเองหลุดไปอยู่ที่ป่าไผ่ อาราชิยาม่า ประเทศญี่ปุ่น สวยขนาดนั้นเชียวล่ะแกเอ๊ยยย รับรองว่ากลับไปจะต้องได้รูปเปลี่ยน โปรไฟล์กันบ้างแหละ แต่นอกจากจะแวะมาถ่ายรูปเก๋ ๆ กันอย่างเดียวแล้ว ยังสามารถเดินเข้าไป ทำบุญกราบพระประธานเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตที่ด้านในวัดกันได้อีกด้วยน้าาา
3ร้านครัวลมโชย
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง! เรามากินข้าวเติมพลังกันก่อนแล้วค่อยยกแก๊งตะลุยกันต่อกับ ครัวลมโชย ร้านอาหารสไตล์บ้าน ๆ ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์เด็ด ๆ คือกุ้งสด - ปลาเป็น ดิ้นกระแด่ว ๆ กันอยู่ที่บ่อหลังร้านเลยค่าาา ที่นั่งก็มีให้เลือกกันแบบหลากหลาย ทั้งโซนห้องแอร์พร้อมคาราโอเกะ หรือจะเป็นสายบ้านทุ่งนั่งซุ้มรับลมชมวิวก็ได้ เมนูที่ห้ามพลาดเห็นจะเป็น “ปลากะพงนึ่งมะนาว” ที่เสิร์ฟมาเป็นถาดแบบอลังวังเวอร์ ตัวเนื้อปลากะพงก็นึ่งมาได้ที่รสชาติหอมหวาน พร้อมทั้ง “ต้มยำปลาคัง” ที่เผ็ดแซ่บ เปรี้ยวจี้ดถึงพริกถึงขิง ซดให้ลื่นคอกันไปเล๊ยยย นอกจากนั้นเมนูอื่น ๆ ทั้งฉู่ฉี่กุ้ง ปลาดุกทอดน้ำปลา และทอดมันปลากรายของทางร้านก็เด็ดไม่แพ้กัน ฟาดเรียบพร้อมลุยที่ต่อไป
4สะพานทุ่งนามุ้ย
ถึงเวลาย้อนกลับสู่วิถีท้องถิ่นที่ สะพานทุ่งนามุ้ย ไปเดินเล่นบนสะพานไม้ไผ่ที่ทอดตัวยาวคดเคี้ยวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนทุ่งนากว่าสองไร่ของลุงอ๊อดและพี่ขวัญ สองพ่อลูกผู้หวนคืนสู่วิถีอินทรีย์และตั้งใจทำให้สะพานทุ่งนามุ้ยแห่งนี้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กับแหล่งเรียนรู้วิถีเกษตรกสิกรรมของชาวบ้าน เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะแวะเข้ามาในช่วงฤดูไหนทั้งก่อนหรือหลังการดำนา นอกจากรูปสวย ๆ ที่เอาไว้อัปลงอินสตาแกรมแล้ว เรายังจะได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวนาที่ไม่ได้เจอะเจอทั่วไปง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
อ๊ะ ๆ แต่จะกลับบ้านมือเปล่ากันได้ยังไง ในเมื่อสินค้าเกษตรทั้งผัก ผลไม้ปลอดสารพิษของเหล่าชาวบ้านที่มาตั้งตลาดเล็ก ๆ ขายกันอยู่ มันล่อหน้าล่อตาซะขนาดนั้น พวกเราเลยต้องหยุดแวะ อุดหนุนกันสักหน่อย โดนน้อยหน่าลูกเบิ้ม ๆ จากสวนคุณป้าไปกันคนละโลสองโล
5เขื่อนขุนด่านปราการชล (เขื่อนคลองท่าด่าน)
ก่อนกลับเข้าสู่เมืองกรุง พวกเราขับรถมุ่งหน้าไปสัมผัสธรรมชาติให้จุใจกันต่ออีกสักนิดที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคอนกรีตอัดบดที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก พลาดไม่ได้เลยกับการ นั่งเรือหางยาว (ค่าเรือคนละ 200 บาท) ล่องไปตามอ่างเก็บน้ำ ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็พบกับภูเขา สีเขียวสบายตาและผืนน้ำสีฟ้าสบายใจ ยังไม่พอเท่านั้น! เรือยังจอดให้เราได้ลงไปแวะเดินป่า เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติกันอย่างใกล้ชิดกับสามน้ำตกสุดฟินอย่าง น้ำตกช่องลม น้ำตกคลองคราม และน้ำตกผางามงอน
ระหว่างการเดินป่าไปยังน้ำตกช่องลม ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา เสียงลำธารซู่ซ่ากระทบ โขดหินที่วางกันระเกะระกะแต่ก็ยังสวยงามตามท้องเรื่องในแบบที่ธรรมชาติรังสรรค์นั้น เป็นอะไรที่ดีต่อใจม๊ากมาก ยิ่งมีเพื่อนมาด้วยแล้วจะเหนื่อยแค่ไหนก็สนุก ไม่ต้องรีบร้อนค่อย ๆ ซึมซับไปกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ เที่ยวนครนายกให้ความเขียวช่วยเยียวยาจิตใจของพวกเราให้พร้อม แล้วค่อยกลับไปใช้ชีวิตในเมืองแบบมีพลังกันต่อ
การเดินทางเที่ยวนครนายกที่เต็มไปด้วยความสนุกและธรรมชาติสวย ๆ แบบนี้ ถ้ามาคนเดียวก็คงจะเหงาแย่ ไม่รู้ จะหันไปบอกใครดีว่าเรามีความสุขขนาดไหน แต่ดีนะที่มี Kia Grand Carnival โฉมใหม่ รองรับได้สูงสุดถึง 11 ที่นั่ง กว้างขวางนั่งสบายพร้อมที่วางแก้วรอบคัน จะทริปไหน ๆ ขนกันมาครบแก๊งก็เอาอยู่ แถมพื้นที่ด้านหลังก็จุของได้สะใจ หมดปัญหาเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนขนของ เพราะประตูหลังเขาเปิดปิดได้อัตโนมัติ ทำให้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายเข้าไปอีก ฟังก์ชันครบ ๆ แบบนี้ บอกเลยมาพร้อมดีไซน์ใหม่หรูหรามีระดับประทับใจทั้งภายนอกและภายใน
สรุปค่าใช้จ่ายของ 1 Day Trip นครนายก
เอาล่ะ! ความทรงจำดี ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง เก็บไว้ไปเล่าให้เพื่อนฟังทีหลังก็สู้มาสนุกไปพร้อม ๆ กันไม่ได้หรอก วางแผน นัดเพื่อนกันให้ครบแล้วไปสนุกมีความสุขให้มันจบ ๆ ไปด้วยกันดีกว่าเน๊อะะ :)