ใช่แล้ว! คุณอ่านไม่ผิดหรอก ใช้เงินแค่ “300 บาท" ก็เที่ยวเจริญกรุงได้ วันนี้ Wongnai จะพาคุณไปตะลุยทริปปั่นจักรยานตระเวนกินเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ใน “ตลาดน้อย" ให้อิ่มหน่ำ จุใจ แถมยังได้ความรู้กลับบ้านกันอีกด้วย ~
การเดินทาง
การเดินทางมาตลาดน้อยก็ไม่ได้ยากลำบากอะไร ใครมาทาง BTS ก็ลงสถานีสะพานตากสิน ต่อเรือมาลงท่ากรมเจ้าท่า เดินทะลุซอยประมาณ 100 เมตรก็ถึงแล้วละ ส่วนใครใคร่โดยสารโดยรถเมล์ ก็เชิญขึ้นสาย 1, 35 และ 75 กันได้


เดิมที “ตลาดน้อย” หรือ “ตะลักเกียะ” เคยเป็นย่านการค้าที่สำคัญตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ เพราะด้วยทำเลติดแม่น้ำเจ้าพระยาและใกล้สำเพ็ง สะดวกทั้งทางบกและทางน้ำ จึงทำให้มีชาวจีนขยายตัวมาตั้งรกรากทำมาค้าขายกันมากมาย แถมยังขึ้นชื่อมากว่าเป็นแหล่งซื้อขายผลไม้มงคล ไม่เชื่อก็ลองถามอากง อาม่าดู

วกเข้าวิชาการแล้วก็อย่าเพิ่งเครียด กลับมาสู่เรื่องกินเที่ยวกัน หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วตอนนี้มันน่าสนใจยังไง ก็เพราะด้วยความที่เคยเป็นย่านการค้าที่สำคัญ ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความคลาสสิก เอาไว้ปั่นจักรยานรับลมแม่น้ำเจ้าพระยา กินอาหารรสชาติดั้งเดิมที่ขายกันมามากกว่าสามสิบปี (บางร้านก็ห้าสิบปีเลยทีเดียว!)
1Loftel 22 Hostel
เริ่มต้นทริป ด้วยการแวะเช่าจักรยานไว้ปั่นเที่ยวกันที่ Loftel 22 Hostel โฮสเทล & คาเฟ่ชิคๆ หน้าปากซอยเจริญกรุง 22 ค่าเช่าจักรยาน 30 บาท/ชั่วโมง, เหมาวัน 150 บาท (ค่ามัดจำ 500 บาท/คัน) จ่ายเงินปุ๊บ ล้อหมุนปั๊บ



2ร้านกระหรี่ปั๊ปคุณปุ๊
ต่อด้วยปั่นจักรยานมุ่งตรงเข้าไปยังซอยเจริญกรุง 22 ไม่เกิน 150 เมตร จะเจอกับ “ร้านกะหรี่ปั๊บคุณปุ๊” ของขึ้นชื่อประจำตลาดน้อย ที่แป้งบางกรอบไม่อมน้ำมัน ไส้แน่นเต็มคำ กัดที่ฟินกระจาย ตัวละ 8 บาทเท่านั้น! (แอบกระซิบก่อนว่า ถ้าสั่งเยอะ ต้องออร์เดอร์ล่วงหน้าเป็นวัน แต่ถ้าซื้อตัวสองตัว เจ๊แกยังพอแบ่งขายได้บ้าง แรร์ไอเทมสุด ๆ )



3เป็ดตุ๋นเจ้าท่า
กินออร์เดิร์ฟพอเป็นพิธี ก่อนปั่นจักรยานกันชิลล์ ๆ เที่ยวตลาดน้อย เลี้ยวซ้ายสู่ซอยวานิช 2 แวะจอดกินมื้อหลักที่ร้าน “เป็ดตุ๋นเจ้าท่า” สั่งเมนูขึ้นชื่ออย่าง “หมี่ผัดผักกระเฉด” (ราคา 70 บาท) รสชาติคลาสสิก ถูกปากชนิดไม่ต้องปรุงเพิ่ม


4วัดแม่พระลูกประคำ
ต่อด้วยการปั่นเข้าไปชมความสวยงาม ผ่านสถาปัตยกรรมสุดสวย บรรยากาศดี จนขึ้นชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์คที่ใครพลาดถือว่ามาไม่ถึงตลาดน้อยอย่าง “วัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์)” และใกล้ ๆ ยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อยที่สวยน่าไปเยี่ยมชมไม่แพ้กัน



5บ้านโซวเฮงไถ่
หลังจากถ่ายรูปชมความสวยงามของสองแลนด์มาร์กกันอย่างจุใจ ก็ถึงเวลาปั่นจักรยานเข้าซอยโรงเกือก พลางชมบรรยากาศบ้านคนในชุมชน ผ่านที่เที่ยวเจริญกรุง "บ้านโซวเฮงไถ่" คฤหาสน์เก๋งจีนอายุกว่า 200 ปี ที่แม้จะเก่าไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงอบอวนไปด้วยมนต์ขลัง มาเที่ยวตลาดน้อยต้องแวะมาชม




6ศาลเจ้าโจวซือกง
ปั่นตรงไปอีกนิด แวะขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าจีนเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่เที่ยวประจำชุมชนตลาดน้อยอย่าง “ศาลเจ้าโจวซือกง” ก่อนจะพักเบรคด้วยการจอดรับลมเย็น ๆ จากแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหน้าศาลเจ้า




7ร้านเฮียบเตียง
พลาดไม่ได้ กับแวะซื้อขนมเปี๊ยะสูตรแต้จิ๋วระดับตำนาน (ราคาชิ้นละ 50 บาท) อย่างร้าน “เฮียบเตียง” ที่อากงอาม่าขายต่อเนื่องไม่มีหยุดพักมากว่า 60 ปี ในซอยเจริญกรุง 20 รีบมากินเถอะ เพราะอาม่าอากงเจ้าของร้านบอกว่า "หมดรุ่นนี้ คงต้องปิดกิจการ เพราะไม่มีคนสืบทอดต่อ” ฟังแล้วเศร้าใจ

8ร้านก๋วยเตี๋ยวรู
ปั่นเลาะถนนเจริญกรุง แวะกิน "บะหมี่หมูแดงอบน้ำผึ้ง" (ราคา 40 บาท) ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวรู” แม้หน้าร้านจะดูลึกลับ แต่บอกได้เลยว่าร้านนี้คนลุกนั่งยิ่งกว่าเล่นเก้าอี้ดนตรี หมูอบน้ำผึ้งหอมหวานกำลังดี แถมราคาเพียงชามละ 40 บาท เป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์สุด ๆ



ค่าใช้จ่าย
หลังจากคืนจักรยาน รับเงินค่ามัดจำ 500 บาทเสร็จแล้ว เรามาคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเที่ยวตลาดน้อยกันดีกว่า

เห็นไหมละบอกแล้วว่า งบ 300 บาท ก็เอาอยู่! อิ่มครบจบในที่เดียว ส่วนใครที่กำลังมองหาที่กินที่เที่ยวในกรุงเทพฯที่อื่น ๆ อีก เราก็ยังมี ร้านเด็ดย่านสีลม - สาทร - เจริญกรุง และ ทริปเที่ยวเยาวราชสไตล์แก๊งเจ้าพ่อ มาแนะนำกันอีกด้วย ครั้งหน้า Wongnai Travel จะพาไปกินเที่ยวที่ไหนอีกก็ฝากติดตามกันด้วยนะ