กลับมาอีกครั้ง ตามคำเรียกร้องกับผม “แวน” หนุ่มหน้ามล คนกันเอง~ วันนี้ขออาสาพาทุกคนไปเที่ยวด้วยรถไฟเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือวันนี้ผมชวนสาวน่ารักอย่าง “เหมย” ไปเที่ยวด้วย ทางทีมงานเลยใจดีให้เงินเพิ่มเป็น 1,500 บาท!! แต่ดันมีภารกิจเพิ่มเติม ให้ผมเล่นเกมสนุก ๆ คราวนี้เราไปที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อย่าง “อยุธยา” บอกเลยว่านั่งรถไฟไปอยุธยางานนี้ สนุกแน่นอนครับ พร้อมแล้วตามผมกับเหมยไปตะลุยที่เที่ยวอยุธยากันเลยครับ 1 Day Trip นั่งรถไฟเที่ยวอยุธยา กินเที่ยวครบ! บอกใบ้ให้ว่างานนี้งบ 1,500 ยังเหลือ ;) พร้อมแล้วขึ้นรถไฟไปเที่ยวอยุธยาด้วยกันเลยครับ~
1สถานีรถไฟกรุงเทพ (สถานีรถไฟหัวลำโพง)
ครั้งนี้ขอพาไปเริ่มต้นทริปนั่งรถไฟเที่ยวกันที่ “สถานีรถไฟกรุงเทพ” หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ “หัวลำโพง” วันนี้เราจับตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟกรุงเทพได้รอบ 09.25 น. (ราคาคนละ 15 บาท) เหมาะสำหรับคนชิลล์ ๆ ไม่รีบร้อน รถไฟขบวนนี้จะพาเราไปที่ “สถานีรถไฟอยุธยา” ตามตารางเราจะถึงสถานีรถไฟอยุธยาเวลาประมาณ 11.30 น. ระหว่างรอขึ้นรถไฟ ก็มาเดินเล่น หาของกินรองท้องเบา ๆ กันในสถานีก่อน บอกเลยว่าสถานีหัวลำโพงนี่สวยงามตามคำบอกเล่าจริง ๆ ครับ การตกแต่งที่คงความคลาสสิก ที่สวยเหมือนในรูปเป๊ะ จะถ่ายมุมไหนก็เท่ มีความเก๋เป็นของตัวเอง ใครมีทริปไปที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ผมแนะนำให้มาลองขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกรุงเทพ ดูนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน นึกขึ้นได้ว่าเหมยยังไม่ได้กินข้าวเช้ามา ผมไม่รอช้ารีบวิ่งไปหาของกินรองท้องให้เหมย มองไปเห็นร้านขนมเล็ก ๆ หน้าตาน่ากิน ผมเลือกขนมไทยอย่าง “สาคูไส้หมู” (ราคา 30 บาท) กับ “ข้าวต้มมัด” สองชิ้น (ราคา 40 บาท) รวมสองอย่างเป็น 70 บาท ซื้อเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่ ชานชาลา 8 เพราะรถไฟที่เราจะไปเดินทางมารับเราแล้ว! เกี่ยวแขนเหมยนั่งรถไฟไปอยุธยากันครับ
ขึ้นรถไฟมาได้ไม่นานก็หยิบขนมที่ซื้อมา เอามาลองชิมกับเหมย รสชาติใช้ได้เลยล่ะครับ กินกันไปสักพักเริ่มคอแห้ง ก็มีพ่อค้าขายน้ำเดินผ่านมาพอดี จัดไปสิครับ น้ำเปล่าเย็น ๆ 2 ขวด (ราคา 20 บาท) สำหรับใครที่ไม่ได้ซื้อของกินมาด้วยเหมือนผม ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ เพราะระหว่างทางจะมีพ่อค้า แม่ค้า มาขายข้าวขายน้ำกันไม่ขาดสาย รับรองว่านั่งรถไฟเที่ยวไม่มีหิวแน่นอนครับ
นั่งรถกันมาชิลล์ ๆ ชมวิวริมสองข้างทาง เผลอแป๊บเดียว ก็ได้ยินเสียงประกาศว่าสถานีต่อไป “สถานีอยุธยา” หลังจากประกาศเงียบลงไม่นาน รถไฟก็วิ่งจอดเทียบชานชาลา เราทั้งสองก็ถึงอยุธยาโดยสวัสดิภาพ ถือเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่ไกลจริง ๆ ครับ คราวนี้เราได้งบเยอะขึ้นตั้ง 1,500 บาท แต่ผมก็เลือกประหยัดงบการเดินทาง ด้วยการเดินทางไปที่เที่ยวอยุธยาจุดหมายแรกของเราอย่าง “วัดใหญ่ชัยมงคล” ด้วยรถสองแถวรอบเมือง วิธีขึ้นก็ง่าย ๆ รออยู่แถวหน้าสถานีรถไฟ ยืนรอไม่นาน ก็มีสองแถวแวะเวียนมารับประมาณ 5-10 นาที โดดขึ้นรถสองแถวไปลงบริเวณเจดีย์วัดสามปลื้ม ราคาคนละ 7 บาท 2 คน 14 บาท!
2วัดใหญ่ชัยมงคล
โบกรถสองแถวนั่งกันมาได้ไม่นาน ก็ถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม เดินไปอีกนิดก็จะถึงที่เที่ยวอยุธยาอย่าง “วัดใหญ่ชัยมงคล” ซึ่งถือเป็นที่เที่ยวอยุธยาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยววัดนึงของอยุธยา ไฮไลต์ของวัดนี้นอกจากความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์แล้ว ที่ตั้งของเจดีย์ชัยมงคลที่สมเด็จพระนเรศวรฯได้โปรดให้สร้างเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ยังมีเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาตั้งอยู่อีกด้วย นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ วัดยังมีความร่มรื่นเหมาะกับการมาเดินเล่น ถ่ายรูป และพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ สำหรับคนไทยเข้าฟรีนะครับ ส่วนชาวต่างชาติจะมี ค่าบำรุงวัด 20 บาท
พอมาถึงที่วัดผมก็ตรงไปที่จุดจำหน่ายธูป เทียน ดอกไม้ จัดไปสองชุด (ราคา 20 บาท) ตรงเข้าไปสักการะพระพุทธชินราช เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากไหว้เสร็จแล้วผมก็ชวนเหมยไปเดินขึ้นเจดีย์ใหญ่ศิลปะแบบอยุธยาโบราณ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า มีนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปอย่างไม่ขาดสาย นอกจากจะได้อิ่มบุญแล้ว ยังได้อิ่มใจกับวิวที่มองลงไปด้านล่าง สวยงามและสงบมากจริง ๆ ครับ บอกเลยว่าแวะมาเที่ยววัดนี้ถือว่าคุ้มสุด ๆ ไปเลย ได้ทั้งทำบุญ ได้ทั้งรูป ใครมาเที่ยวอยุธยา ผมแนะนำให้มาวัดนี้เลยครับ ที่นี่เขาเปิด ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 17.00 น. แต่ผมแนะนำให้มาช่วงเช้านะครับ เพราะคนจะไม่เยอะมาก และแดดยังไม่ค่อยร้อน จะได้เที่ยวกันแบบสบาย ๆ
3ตลาดกลางเพื่อการเกษตร
ไหว้พระเสร็จก็เริ่มท้องร้องอีกครั้ง มาอยุธยาทั้งที นอกจากที่เที่ยวอยุธยาดัง ๆ แล้ว ยังมีเมนูที่นึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ อย่าง “กุ้งเผา” ใช่ไหมล่ะครับ ถึงแม้จะมีงบถึง 1,500 บาท แต่ก็มีความหวั่นใจเล็กน้อย กลัวจะเกินงบเอาไว้ ผมเลยลองหาข้อมูลร้านกุ้งเผาอยุธยา ตามหาแหล่งขายกุ้งเผาที่ราคายุติธรรม จะได้พาเหมยไปกินข้าวกลางวันได้แบบเต็มที่ ผมเลยเจอกับ “ตลาดกลางเพื่อการเกษตร” ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไปที่นี่ได้กินกุ้งเผาราคาสมเหตุสมผล มีร้านอาหารอยุธยาให้เลือกเพียบ ไม่รอช้า ผมรีบหารถตู้เพื่อเดินทางไปยัง ตลาดกลางเพื่อการเกษตร ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าการเดินทางในอยุธยา อาจจะไม่ได้มีรถโดยสารที่ไปถึงสถานที่นั้นโดยตรง อาจต้องมีการเดินต่อ หรือข้ามสะพานลอยเล็กน้อย แต่เพื่อกุ้งแล้ว งานนี้คงไม่ได้ยากอะไรใช่ไหมล่ะครับ ผมเรียกรถตู้จากบริเวณวัดเจดีย์สามปลื้ม นั่งตากแอร์ชิลล์ ๆ มาลงบริเวณตรงข้ามที่เที่ยวอยุธยาอย่าง ตลาดกลางเพื่อการเกษตร ราคาคนละ 20 บาท สองคนก็แค่ 40 บาท
เดินทางมาถึง “ตลาดกลางเพื่อการเกษตร” กันแล้ว ก็ต้องละลานตาไปกับร้านกุ้งเผาอยุธยา เรียงรายกันตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย นอกจากร้านกุ้งเผาอยุธยา อาหารทะเลแล้ว ยังมีร้านของฝากน่ากินอย่าง “สายไหม” และยังมีของฝากอื่น ๆ ให้เลือกเพียบครับ ผมกับเหมยไม่รอช้า เดินหาร้านกุ้งเผาที่ถูกใจ หลาย ๆ คนอาจจะมีร้านในใจแล้ว แต่สำหรับผม ใช้หลักการเดินเลือกเอาครับ ร้านไหนถูกตาต้องใจ ก็เดินเข้าไปเลย ไม่ติด ^^
4ฟาร์มกุ้งทอง ซีฟู้ด
เดินกันมาถึงหน้าร้านอาหารอยุธยา “ฟาร์มกุ้งทอด ซีฟู้ด” น่าตาเหมาะเหม็ง มีห้องแอร์ ผมเลยเลือกร้านนี้ครับ ต้องขอบอกก่อนว่าบริเวณ “ตลาดกลางเพื่อการเกษตร” เนี่ย เขาจะมีบ่อกุ้งตั้งอยู่หน้าร้าน ให้เลือกกันได้ก่อนจะเข้าไปในร้าน สำหรับมื้อนี้ผมเลยเลือกไซส์ 320 บาท คิดว่าขนาดกำลังดีให้เขาเอาไปเผา 1 กิโลเลยครับ! แล้วก็เลือกไซซ์เดียวกันนี้ ไปทำอาหารเพิ่มอีก 1 กิโล โดยเขาคิดค่าทำอาหารแค่เมนู 60 บาท เท่านั้น เลือกกุ้งกันเสร็จสรรพ ก็พาเหมยเข้าไปนั่งรอเย็น ๆ ในร้าน ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ สั่งข้าวเปล่าเพิ่มไปสองจาน
เตรียมส้อมกับช้อนให้พร้อม แล้วลุยเลยครับ! เมนูที่เราส่ังมาก็มี "กุ้งเผาไซซ์ 320 บาท" 1 กิโลฯ (ราคา 320 บาท) ต่อด้วยเมนู “ต้มยำกุ้ง” (ราคาค่าทำ 60 บาท) รสชาติถือว่ากลมกล่อมเลยทีเดียวครับ กุ้งเขาก็เนื้อแน่น ไฮไลต์ที่ผมชอบสุด ๆ เลยก็คือ หัวกุ้ง! ดีงามสุด ๆ แล้วต่อด้วยเมนู “กุ้งผัดผงกะหรี่” (ราคาค่าทำ 60 บาท) ผัดมาได้เข้าเนื้อ หอมเครื่องแกงกะหรี่ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เข้ากั๊น เข้ากันครับ ไม่หยุดยั้งด้วยเมนู “กุ้งอบวุ้นเส้น” (ราคาค่าทำ 60 บาท) กินกุ้งกันเพลิน ๆ รู้ตัวอีกทีก็หมดเกลี้ยงเลยล่ะครับ เหมยก็ดูแฮปปี้สุด ๆ กับเมนูกุ้งเผา กินเสร็จเรียกพี่เขามาเช็กบิล ยอมรับว่าใจลึก ๆ ก็แอบตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ล่ะครับ กลัวราคาจะแรง แต่พอบิลมา ถึงกับยิ้มออกเลยล่ะครับ ราคาแค่ 780 บาท เท่านั้น!! โอ้โห 800 บาท ยังมีทอน ฟินสุด ๆ เลยล่ะครับงานนี้ ใครอยากกินกุ้งสด ๆ ราคาสมเหตุสมผล ผมแนะนำให้มาที่นี่เลยครับ แถมมีร้านให้เลือกเพียบ
5ตลาดน้ำอโยธยา
หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน ต้องหาที่ยืดเส้น ยืดสาย ให้คลายง่วง ผมว่าที่เที่ยวอยุธยาที่ผมจะพาไปต้องถูกใจสาว ๆ อย่างแน่นอนครับกับ “ตลาดน้ำอโยธยา” ที่เที่ยวอยุธยาสไตล์ย้อนยุค ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคอยุธยาจริง ๆ เลยล่ะครับ ก่อนเข้าตลาดก็จะเจอหมู่บ้านช้างอโยธยา ใครอยากขี่ช้าง หรือให้อาหารช้างก็ตามสะดวกเลยครับ แต่งานนี้ผมขอเซฟเงินไปช็อปปิงกับเหมย และของฝากให้คุณแม่ดีกว่าครับ เข้ามาก็จะเจอเรือพาล่องบริเวณรอบ ๆ ตลาดน้ำ แต่สำหรับคนประหยัดอย่างผม ก็ขอเดินดีกว่าครับ ถือเป็นการย่อยกุ้งเผาหลายโลที่อยู่ในกระเพาะไปในตัว
เข้ามาเดินเล่นในตลาดน้ำอโยธยา ขอบอกเลยว่าถึงแม้จะเป็นวันธรรมดา แต่ร้านค้าก็เปิดกันเยอะอยู่นะครับ ไม่เงียบเหงาอย่างที่คิด ผมว่าข้อดีของการมาเดินเล่นตลาดน้ำอโยธยาวันธรรมดาก็คือ เดินได้สบาย ๆ คนไม่เยอะ เดินกันมาไม่นาน ก็เจอขนมชื่อดังที่ใครมาอยุธยาก็ต้องชิมอย่าง “โรตีสายไหม” (ราคา 100 บาท) นุ่มหวาน ๆ แบบผม จะพลาดได้หรอครับ จัดไปกับโรตีสายไหม แม่สมจิตร ชุดกลาง 2 ชุดให้เหมยหนึ่งชุด ไม่รอช้าครับ เขาว่าต้องกินกันตอนร้อน ๆ พันสายไหมให้เหมยกิน ท่าทางจะอร่อย ยิ้มร่าเชียว กินสายไหมเสร็จก็เดินเล่นต่อ เดินมาอีกสักพักก็เริ่มร้อนผมเลยจัด “น้ำแข็งไสโบราณ” (ราคา 49 บาท) กินแล้วสดชื่น คลายร้อนสุด ๆ ไปเลยครับ เอาเงินที่เหลือขึ้นมานับปรากฎว่า ยังเหลือ! ผมเลยได้ซื้อของฝากให้คุณแม่อย่างที่ตั้งใจไว้ จัดไปสองอย่างทั้ง “ขนมหม้อแกงแม่ยาย” (ราคา 100 บาท / 3 ถ้วย) แล้วก็ “ตะโก้” (ราคา 60 บาท / 3 กระทง) ของโปรดท่านทั้งนั้น รับรองว่างานนี้คุณนายเขาต้องยิ้มแก้มปริแน่นอน เดินเล่นวนครบรอบตลาดน้ำอโยธยา ได้ของฝากติดไม้ติดมือเพียบ เริ่มเย็นแล้ว หมดเวลาสนุกแล้วสิครับ
แต่ ๆ ๆ ยังเหลือเงินอยู่ ผมเลยเลือกเดินทางไปที่สถานีรถไฟอยุธยาด้วย “รถตุ๊ก ตุ๊ก หัวกบ” อีกหนึ่งไฮไลต์ของจังหวัดอยุธยา ไหน ๆ ก็เหลือเงิน ก็เลยพาเหมยขึ้นตุ๊ก ตุ๊ก เป็นการปิดท้าย ราคาแค่ 100 บาท เองครับ จากตลาดน้ำอโยธยามาที่สถานีรถไฟอยุธยา
ค่าใช้จ่ายทริปที่เที่ยวอยุธยา
แผนที่เที่ยวอยุธยา
เดินทางมาถึงสถานีรถไฟอยุธยาแล้ว ดูรอบรถไฟขากลับ เวลาตอนนี้ก็ 6 โมงเย็นแล้ว ผมเลยเลือกรถไฟรอบเวลา 18.48 น. ราคาตั๋วก็เท่าเดิมคนละ 15 บาท 2 คนก็ 30 บาท มานั่งรถไฟเที่ยวอยุธยาคราวนี้ นอกจากผมจะได้เงินเพิ่มเป็น 1,500 บาทแล้ว ผมยังได้เพื่อนเดินทางเพิ่มอีกหนึ่งคน บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจสุด ๆ ไปเลยครับ สรุปการเดินทางทริปกินดุ! เที่ยวที่เที่ยวอยุธยาแบบจัดหนัก! ทั้งวันกับ 1 Day Trip นั่งรถไฟเที่ยวอยุธยา ผมใช้เงินทั้งหมดไปแค่ 1,453 บาท เท่านั้น!! เหลือเงินกลับบ้านตั้ง 47 บาท! ขนาดกินหนัก ช็อปแหลก ยังเหลือ! ใครที่อยากนั่งรถไฟลุยที่เที่ยวอยุธยา ตามแพลนผมมาเที่ยวกันได้เลยนะครับ
สำหรับใครยังไม่จุใจผมขอแนะนำ 10 ร้านอาหารไทย อยุธยา บรรยากาศดี กับ 10 โฮสเทลราคาถูก วิวดีในอยุธยา คราวหน้าผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวไหน ก็อย่าลืมติดตามกันได้ที่เพจ Wongnai Travel นะคร้าบบบบ ^^
ยังมีทริปเที่ยวนั่งรถไฟเที่ยวสำหรับคนงบน้อยอีกเพียบ!
นั่งรถไฟเที่ยวลพบุรี 600 บาทก็เอาอยู่
นั่งรถไฟเที่ยวมหาชัย - แม่กลอง - อัมพวา ฉบับประหยัดงบ
พกเงิน 400 บาท! นั่งรถไฟเที่ยวฉะเชิงเทรา ฉบับประหยัดงบ