ฮัลโหลลล! สวัสดีค่า~ วันนี้พวกเราสองสาวขาชิม เจ้าของฉายา "กินไม่เก่ง แต่กินไม่หยุด!" ขอนัดกันไปกินเที่ยวให้ตัวแตกเพิ่มความมีน้ำ มีนวล กันไปอีกที่ ICONSIAM ที่เที่ยวกรุงเทพฯสุดฮอตที่สาว ๆ คนไหนยังไม่ไปถือว่าพลาด เพราะเขามีทั้งแหล่งชอปปิงแบรนด์ดัง และร้านอาหารหลากสไตล์ ทั้งร้านอาหาร ICONSIAM และ ร้านกาแฟ ICONSIAM เหมาะกับให้ชาวเราไปเดินชอปกันเพลิน ๆ แล้วจูงมือเข้าไปโซ้ยบุฟเฟ่ต์ต่อสวย ๆ แล้วนี่ก็อดข้าวมาตั้งแต่เมื่อวาน กะว่าวันนี้จะมาฟาดให้เรียบ บอกเลยว่าถ้ากางเกงไม่ปริไม่กลับบ้าน ไปค่ะ! ไปลุยกับ 5 ร้านอาหาร ICONSIAM ชื่อดัง!
1Bankara Ramen
หลังจากเดินเลือกร้านอาหารใน ICONSIAM อยู่สักพักก็ได้ข้อสรุปว่าเราจะเริ่มทริปกินแหลกด้วยการจัดหนักกันที่ร้าน “Bankara Ramen” ร้านราเมงชื่อดังจากญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของน้ำซุป ได้คอลลาเจนจากกระดูกหมูกันไปเต็ม ๆ แถมบรรยากาศร้านก็ดี๊ดี เหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ ทั้งการบริการและบรรยากาศร้าน

หิว ๆ แบบนี้ก็ต้องสั่งเมนูแนะนำอย่าง “Chashumen” (265 บาท) ราเมงเส้นกลมยาวในซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับที่เคี่ยวจนได้รสชาติหวานเค็มกลมกล่อม และเพิ่มดีกรีความเด็ดด้วย “Kakuni Saramori” (240 บาท) หมูสามชั้นตุ๋นร้อน ๆ ที่ใช้เวลาตุ๋นถึง 3 วัน นุ่ม ฟิน ละลายในปากกันเลยทีเดียว

อีกเมนูที่สาว ๆ จะต้องรัก “Sankoichi” (295 บาท) ราเมงซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวจนละลายได้เป็นซุปสีขาวข้น อุดมไปด้วยคอลลาเจน วิตามินอี และโปรตีน ดีต่อผิวพรรณสุด ๆ ทานคู่กับเส้นกลมเล็กและต้นหอมไทย บดกระเทียมใส่เพิ่มลงไปอีก โอ๊ยย ฟินมากค่ะคุณขา สาวกราเมงควรมาโดน ร้านตั้งอยู่ที่ โซน The Veranda (ชั้น G) เดินมาจากประตูหน้า เห็นร้านที่มีชั้นลอยไกล ๆ นั่นแหละ สับขาตรงมาเลยค่ะ!

2UCC Coffee Shop
ขอพักยกกันนิดนึงกับ “UCC Coffee Shop” ร้านกาแฟ SIAM Takashimaya (ชั้น 1, SIAM Takashimaya) ที่มองเผิน ๆ เหมือนเป็นแผนกเสื้อผ้า เราก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีคาเฟ่ซ่อนอยู่ในนี้! เดินชอปปิงกันมาเหนื่อย ๆ ก็แวะมานั่งพักผ่อนจิบกาแฟในมุมที่แสนจะเป็นส่วนตัวกันก่อนได้ กาแฟของร้านนี้เขาไม่ธรรมดานะ เพราะเขาคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพจากทั่วโลกมาให้เราได้ลองกัน อย่างแก้วนี้คือ “Indonesia Bali Arabica Jalak” (130 บาท) ที่ใช้เมล็ดกาแฟจากอินโดนีเซียและชงด้วยวิธีการเฉพาะของทางร้านโดย “Japanese Crafted Barista”


แต่จะสั่งแค่กาแฟอย่างเดียวก็ดูจะไม่ใช่ทริปกินแหลก เราเลยขอลองอาหารจานหลักอย่าง “Wafu Spagetthi with Bread” (240 บาท) สปาเกตตี้ผัดกับเบคอนหอม ๆ โรยหน้าด้วยสาหร่าย ทานคู่กับขนมปังกระเทียม จานนี้แย่งกันกินเลย ตามด้วย “Chocolate Banana Waffle” (190 บาท) วาฟเฟิลนุ่มละมุนลิ้นที่มาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาและกล้วย ทานคู่กับ “Fruit Tea” (140 บาท) ชาผลไม้ร้อน ๆ ที่มาพร้อมกับเนื้อผลไม้แบบจัดเต็มในกา หอมชื่นใจ ขอสารภาพตามตรงว่า ถึงจะกินหมดเกลี้ยงชนิดที่ว่าพี่พนักงานไม่ต้องล้างจานแล้ว เรายังไม่อิ่มกันเลยอ่ะ ต้องไปหาอะไรกินต่อกันสักหน่อย บุฟเฟ่ต์เป็นไง? ไหนขอเปิดแอป Wongnai ดูนิดนึงว่าที่นี่มีบุฟเฟ่ต์อะไรที่น่าสนใจบ้าง


3Evaime Shabu Shabu
อะ! เจอแล้ว แอปบอกว่าที่ชั้น 4 มีร้านชาบูไต้หวันอยู่ เอ้า สายชาบูอย่างเราจะพลาดได้ไงล่ะคะ ทริปไหนไม่มีชาบู ทริปนั้นไม่มีเราสองคนค่ะ บอกเลย หลังจากลงมติกันแล้วเราก็สับขาขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ ชั้น 4 บอกเลยว่าโซนนี้หาไม่ยาก พอถึงชั้น 4 แล้วก็เดินตามกลิ่นชาบูหอม ๆ มาเลยค่ะ ทีเด็ดของวันนี้อยู่ที่ร้านอาหาร ICONSIAM แห่งนี้เลย “Evaime Shabu Shabu” ชาบูไต้หวันราคาสบายกระเป๋า ที่นี่มีน้ำซุปให้เราเลือกกว่า 9 ชนิด คนเผ็ด ๆ อย่างเราก็ต้องเลือก “ซุปหม่าล่า” หลังจากที่ตื่นเต้นกับเมนูน้ำซุปแล้ว มาตื่นเต้นที่บาร์น้ำจิ้มกันต่อเพราะเขามีให้เลือกถึง 11 ชนิด จิ้มหมดหรือไม่หมดไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องได้ชิมให้ครบ!


หลังจากเลือกซุป ตักน้ำจิ้มกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ขอสั่งทุกอย่างในเมนู “Super Easy Refill” (389+ บาท) มาลอง มีตั้งแต่เนื้อวัว เนื้อหมู ลูกชิ้น ของทอด ให้เราได้เลือกกันมากมาย และถ้าเพิ่มเป็น “Extra Refill” (50 บาท) ก็จะได้ไข่สด กุ้งสด หอยตลับ และซีฟู้ดอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก ไหน ๆ ก็มาแล้ว เพิ่มให้มันครบ อิ่มจุก ๆ ไปเลย กุ้งกรอบ ลูกชิ้นเด้ง เนื้อนุ่ม ยิ่งกินยิ่งเพลิน รู้ตัวอีกทีกระดุมกางเกงหายไปแล้วค่ะคุณขา! บอกเลยว่าร้านนี้อิ่มคุ้มค่าราคาประหยัดมาก ๆ ใครมองหา ร้านอาหาร ICONSIAM ที่คุ้มค่า ก็รีบมาแวะที่ "Evaime Shabu Shabu" เลยจ้าาา รับรองว่าอิ่มในราคาดีต่อใจ


4Kyo Roll En
กินคาวแล้วไม่กินหวานได้ไง แต่จะกินหนัก ๆ ก็คงไม่ไหว เดี๋ยวไม่เหลือพื้นที่กระเพาะไว้สำหรับร้านต่อไป เราเลยเลือกกินของซอฟต์ ๆ เบา ๆ นุ่มนิ่ม ๆ อย่าง “Kyo Roll En” ที่ตั้งอยู่บน ชั้น 3 ของ ICONSIAM ร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะโรลเค้กและซอฟต์ครีมของเขาขึ้นชื่อมาก ๆ ถ้ามาแล้วพลาดไม่ได้ เราเลยขอลอง “Zen Roll Set” (219 บาท) ที่ทางร้านเคลมว่าเป็น “ที่สุดของที่สุดในเมนูเดียว” เพราะมีทั้งโรลเค้กและไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ผลไม้สด ช็อกโกแลตสด และซอสสูตรพิเศษ เรียกได้ว่าสั่งจานเดียว ได้เก็บครบทุกเมนูเด็ดของทางร้านเลย

อ้อ! ช่วงนี้กำลังเป็น “Yubari Season” หรือเทศกาลเมลอนยูบาริจากเกาะฮอกไกโด ทางร้านเลยมีเมนูจากเมลอนมากมายเลย น่าสนใจเนอะ พลาดได้ไงล่ะ จัดมาเลยค่ะ “Yubari Roll Set” (225 บาท) โรลเค้กยูบาริเมลอนทานคู่กับมัทฉะซอฟต์ครีมพร้อมกับยูบาริเมลอนและแคนตาลูปหวานฉ่ำ ต่อด้วย “Yubari Double Fromage” (215 บาท) ดับเบิ้ลชีสเค้กรูปทรงเมลอนสุดเก๋ นุ่มหอมด้วยชีส 2 สัญชาติ เสิร์ฟร้อมกรานิตาเมลอนเมล่อนและครีมแคนตาลูป หอมละมุนสุด ๆ


แต่เท่านั้นยังไม่พอหรอก ยกจานต่อไปมาได้เลยค่า หนูยังไหว! “Jumbo Dorayaki” (369 บาท) โดรายากิขนาดยักษ์ทอดสด ๆ แบบต้นตำรับญี่ปุ่น ก่อนที่จะเผาด้านบนจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมโฮมเมดและท็อปปิงต่าง ๆ แม้ว่าทางร้านจะบอกว่าจานนี้สำหรับ 3-4 คน แต่เรา 2 คนก็สู้นะคะ! หลังจากฟาดโดรายากิจนเกลี้ยง ก็ขอปิดท้ายด้วย “Kuromitzu Bubble Tea” (139 บาท) ชาไข่มุกสีอำพันรสน้ำผึ้ง เพิ่มความหอมหวานด้วยน้ำตาลทรายแดงจากเกาะโอกินาว่า ก่อนที่จะไปต่อที่ร้านสุดท้ายของเราที่วางแผนเอาไว้ เพราะของเด็ด ๆ เราต้องเก็บเอาไว้กินหลังสุด จริงมั้ย?


5Grand Palace
อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะอิ่มแล้ว แต่เราสองคนยังไม่อิ่มค่ะ! ร้านเด็ดที่เป็นร้านสุดท้ายของเราตั้งอยู่ที่โซน Alangkarn (ชั้น 6) โซนนี้เขาอลังการสมชื่อจริง ๆ เพราะเขารวมร้านอาหารชื่อดังไว้กว่า 30 ร้าน พร้อมการตกแต่งที่เรียบหรูดูดี เหมาะกับคนมีอันจะกินแบบเรา เดินวนไปเวียนมา สุดท้ายเรามาจบที่ “Grand Palace” ภัตตาคารจีนเก่าแก่ในดวงใจของใครหลาย ๆ คน เพราะติ่มซำที่นี่ชวนให้หวนคิดถึงวัยเด็กที่ได้นั่งกินซาลาเปาก่อนไปโรงเรียนตอนเช้า เราเลยจัดมาเลยค่ะ “ซาลาเปาสายรุ้ง” (125 บาท) ซาลาเปาที่มาในรูปทรงสี่เหลี่ยม อัดแน่นไปด้วยสังขยาไข่เค็ม หวาน นุ่ม ละมุนลิ้น และ “โจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้า” (180 บาท) โจ๊กร้อน ๆ คล่องคอ เนื้อหมูปั้นก้อนกลมเด้ง นุ่ม กินง่าย สบายท้อง เท่านั้นยังไม่พอ ต่อด้วยติ่มซำอีก 3 เข่ง “ฮะเก๋า” (150 บาท) “ขนมจีบกุ้ง” (150 บาท) และ “ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง” (150 บาท) กุ้งตัวโต เด้ง กรอบ ฟินสุด ๆ



และแล้วไฮไลต์ของร้านก็มาเสิร์ฟ “ปูเนื้อผัดพริกเกลือ” (1,250 บาท) ปูตัวโต กินง่าย เพราะทางร้านทุบเปลือกมาให้แล้ว แค่หยิบ ๆ จับ ๆ ไม่ต้องออกแรงแกะให้เมื่อย ต่อด้วย “เป็ดปักกิ่ง” (450 บาท) จานนี้ดีงามสุด ๆ แย่งกันกินแป๊บเดียวหมดเลย หนังเป็ดกรอบ ๆ กินคู่กับแผ่นแป้ง แตงกวา และน้ำจิ้มรสเด็ด อยากกินอาหารจีนไม่ต้องไปไหนไกล มาเที่ยว ICONSIAM ก็ได้กินอาหารจีนเจ้าเด็ด แถมแอร์ก็เย็นนนน จะนั่งนานเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ต้องทนสายตากดดันของคนที่รอคิวอยู่ตรงริมถนนจ้า มาเถอะ


จบกันไปแล้วกับทริปเที่ยว ICONSIAM ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ สุดฮอตที่เราสองคนถึงกับต้องเดินปลดกระดุมกลับบ้านเลยทีเดียว ก็แหมม~ จัดหนักร้านอาหารในกรุงเทพฯไปขนาดนี้จะไม่ตัวแตกยังไงไหวล่ะคะคุณณณ ทั้งร้านอาหาร ICONSIAM และ ร้านกาแฟ ICONSIAM ส่วนใครที่เดินย่อยต่ออีกนิดแล้วยังไหว เราก็มีทริปคาเฟ่เบา ๆ อย่าง จิบกาแฟชิล ๆ ที่ ICONSIAM เป็น Café Hopper จนหมดวันแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ถ้าไปเที่ยวกับครอบครัวแล้วล่ะก็ เราขอเสนอทริปร้านอาหารครอบครัวอย่าง จัดหนัก 5 ร้านอาหาร ICONSIAM เช้าจรดเย็น คาวหวานครบ ครอบครัวแฮปปี้! แล้วกัน อย่าลืมกดติดตามเพจ Wongnai Travel ไว้ด้วย เพราะเรายังมีทริปกินแหลกให้ทุกคนได้ตามไปอีกเพียบ!
ลายแทงชิมร้านอาหาร ICONSIAM

อะ กินแหลกแล้วเราขอแจกโชคกันต่อ พิเศษสุด ๆ สำหรับคนที่มากินร้านอาหารที่ ICONSIAM และ SIAM Takashimaya ก็ลุ้นและรับรางวัลแบบจัดหนักทั้ง Gift Voucher, ทองคำ 2 สลึง และ รถยนต์ TOYOTA รวมมูลค่ากว่า 3.48 ล้านบาท! จากโปรโมชั่น "ไอคอนสยาม แจกกระแทกใจ" ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย.62 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่าง หรือที่เว็บไซต์ http://bit.ly/BigSurpriseWN
- วันจันทร์-วันศุกร์ รับทันที บัตรกำนัลจากร้านดัง มูลค่า 200 บาท
เมื่อชอปครบ 1,500 บาท ขึ้นไป (100 รางวัล/ วัน) รวมมูลค่า 1.18 ล้านบาท - ชิงโชคลุ้นรับทองคำและรถยนต์ รวมมูลค่ากว่า 2.3 ล้านบาท
- 6 VIZ TOP SPENDERS: สมาชิกบัตร VIZ ที่มียอดซื้อสะสมสูงสุดในแต่ละเดือน
รับสิทธิ์จอดรถฟรี พร้อมที่จอดรถพิเศษ 1 เดือน - โปรโมชั่นพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รับคืนรวมสูงสุด 18% (สิ้นสุดวันที่ 18 สิงหาคม 62)
- โปรโมชั่นผ่อน Siam Gift Card 0% สูงสุด 10 เดือน