ทริปนี้เราเดินทางจากยะโฮบารูห์ที่มาเลเซีย แล้วนั่งรถบัสไปทัวร์สิงคโปร์ เพราะเห็นโปรของหางแดงแล้วสนใจ นั่งเครื่องบินตรงมันสะดวกไป ก็อยากลำบากเลยแบ็กแพ็ก นั่งเครื่องจากกรุงเทพฯ มาลง ยะโฮบารูห์ ราคาตั๋วเครื่องบินก็โดนใจมาก หางแดงเค้ามีโปรเยอะจริงค่ะ เราจะเดินทางเที่ยวสิงคโปร์ 5 วัน 4 คืน จัดให้ชุดใหญ่กับ ลายแทง! เที่ยวสิงคโปร์ด้วยรถบัส 5 วัน 4 คืน! ฉบับอัปเดต 2019 ที่อยากมาด้วยวิธีนี้เพราะตอนแรกอยากจะเที่ยวมาเลเซียด้วยแต่เวลาไม่พอ เลยไม่ได้เที่ยวต่อ สำหรับใครที่อยากเที่ยวสิงคโปร์ด้วย เที่ยวมาเลยเซียด้วย วิธีนี้ก็เวิร์คนะคะ ราคาไม่แพงด้วย! เกริ่นมาเยอะแล้ว มาเริ่มแบ็กแพ็กไปประสบความลำบากเที่ยวสิงคโปร์กันดีกว่าค่ะ

วันแรกเรานั่งเครื่องจากหาดใหญ่ไปลงยะโฮบารูห์ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเดียวเอง ไวมาก ไม่ทันหลับเลยด้วยซ้ำ ถึงสนามบินเราก็ผ่าน ตม. กันค่ะ สแกนนิ้วสวย ๆ แล้วก็เดินตามทางออกมา จะมีช่องขายตั๋วรถบัส Causeway Link สีเหลือง ๆ ซื้อตั๋วตรงนี้เลยค่ะ ราคา 8 RM. รถบัสเป็น Shuttle Bus ระหว่าง Senai Airport และ JB Sentral นะคะ

JB Sentral ก็คือ บขส. เหมือนบ้านเรานี่แหละ คนเยอะมาก ๆ ช่วงนั้นเราก็หาป้ายที่ไป Woodland นะคะ บัสที่เราเลือกไปลงได้หลายที่เลยค่ะ Legoland, Kittyland, Premium Outlet สำหรับใครที่อยากเที่ยวหลาย ๆ ที่ หรืออยากไปเที่ยวที่อื่นต่อ นั่งจากตรงนี้ไปได้โลด จุดนี้ มันมีบัสสองฝั่ง แล้วก็มีหลายสายที่ไปได้ มีทั้งของสิงคโปร์และมาเลเซีย ของสิงคโปร์ เป็นสาย 170 160 ซึ่ง เดินทางโดย SBS Transit จ่าย SG Dollar (ถ้ามีบัตร EZ-link ตื๊ดสบายค่ะไม่ต้องทอน) ส่วนของ Causwaylink ที่เป็นของมาเลเซียก็มีค่ะ (RM) ราคา 1.5 RM ซึ่งแต่ละบริษัทก็จ่ายเงินเป็นหน่วยเงินที่ต่างกันตามยี่ห้อรถ ตัดฉับมาที่หลังจากนั่งรถเพื่อมาลง Woodland รถจะจอดให้เราลงไปเขียนใบ ตม. นะคะ เอาสัมภาระลงให้หมดเลยน้า
สเต็ปนี้ อธิบายคร่าว ๆ คือ นั่งรถ 3 ตอน Shuttle Bus - JB Sentral - Woodland

อันนี้เราต้องลงไปกรอกใบ ตม. เพื่อออกจากประเทศมาเลเซียนะคะ เดินตามเค้าไปได้เลยค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำอยู่ ขั้นตอนนี้ก็จะเขียนใบ ตม. และตรวจสัมภาระอีกครั้งค่ะ หลังจากกรอกเสร็จเดินลงบันไดเลื่อนมาแล้วลงทางซ้าย ขึ้นรถยี่ห้อที่เรานั่งมาก่อนจะลง Woodland ได้เลยค่ะ (รถจะพาเราไปจาก Woodland - Kranji [NS7] หรือสถานีรถไฟฟ้าของสิงคโปร์ค่ะ)

เสร็จแล้วนั่งมาเรื่อย ๆ รถก็ไม่ค่อยติดค่ะ 5555 ไม่นานเท่าไหร่ก็ถึงสถานี Kranji [NS7] สายสีแดง รีบไปซื้อบัตร EZ-Link เลยค่ะ สะดวก
Tips: ซื้ออย่างต่ำ $12 ราคาบัตร $5 เงินในบัตร $7แล้วก็เติม ต้องเป็นเลข 0 ลงท้ายเช่น 10 20 30 ไม่มีเติมแบบลงท้ายเศษอื่นค่ะ

WELCOME TO SINGAPORE
เริ่มแรกเลย ขึ้นรถไฟเพื่อไป People Park Complex ค่ะ เรามาเพื่อซื้อบัตร USS, Garden by the Bay, OCDC Skyway ที่ Sea Wheel Travel
Tips: เดี๋ยวนี้มีบริการซื้อตั๋วล่วงหน้าแล้วนะคะ ประหยัดเวลาแล้วก็สามารถคำนวณเงินได้ล่วงหน้าด้วย
พิกัด : สถานี China Town ทางออก D เดินมาชั้น 3
1Boon Tong Kee Whampa West Branch
เริ่มหิวแล้ว มาเที่ยวสิงคโปร์ทั้งที่ ต้องมากินข้าวมันไก่สิงคโปร์ก่อนเลย Boon Tong Kee Whampa West เดินออกมาปุ๊บเลี้ยวขวาไปทางถนน แล้วก็จะเห็นโคมไฟแดง ๆ คือร้านเจอง่ายมาก เราสั่งหลายอย่างเลยตามปริมาณคนที่มา ทั้ง "ไก่สับ" "ซี่โครงหมูราดซอส" "เต้าหู้ทอด" "ฮ่อยจ๊อ" ทางร้านก็จะมีแนะนำอาหารให้หลายอย่าง แต่ร้านนี้ คิดเงินทุกอย่างนะคะ แม้กระทั่งถั่วและผ้าเช็ดมือ
ส่วนตัวชอบไก่สับ ชุ่มมาก ๆ ค่ะ หอมดีด้วย กินกับข้าวคือเข้ากันสุด ๆ
พิกัด : สถานี Boon Keng ทางออก B ค่ะ


2Fountain of Wealth
กินอิ่มแล้ว ไปเดินย่อยกันที่ Fountain of Wealth ที่ Suntec City พิกัด : นั่ง MRT ไปลงสถานี Promenade

จากนั้นก็เริ่มเดินเล่นรอบ ๆ ย่อยอาหารด้วยการเดินเลาะจาก Suntec City ไปที่ One Raffle Link เป็นทางเชื่อมใต้ดิน มันโผล่ทะลุได้หลายทางโดยที่ไม่ต้องข้ามถนนให้อันตราย เราใช้ Google Map นำทางค่ะ เดินไปเรื่อย ๆ จะเจอกับ Esplanade หรือ ตึกทุเรียนนั่นเอง
3Merlion Park
ในส่วนของ Esplanade นั้นเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอวิวมหาชนอย่าง Merlion พร้อมวิว Marina Bay Sand มองไกล ๆ ก็เห็นทั้ง Singapore Flyer Helix Bridge ถือเป็นวิธีประหยัดอีกทาง ไม่ต้องนั่งรถไฟฟ้า



ดื่มด่ำบรรยากาศสิงคโปร์ยามค่ำคืนที่นี่ ถึงแม้จะค่ำแต่คนก็แวะเวียนเดินทางมาที่นี่เยอะมาก ๆ มีการแสดงแสงสีบริเวณนี้ด้วยนะคะ ถือว่าเป็น Signature ของที่เที่ยวสิงคโปร์ มาแล้วต้องรีบมาให้ถึง จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับตรงทางใต้สะพานเพื่อกลับที่พักค่ะ เดินลอดใต้สะพานจะผ่านโรงแรม Fullerton ทางด้านซ้ายค่ะ เราก็เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงที่พักเราเลย

ที่พักเราอยู่ย่าน Clarke Quay ค่ะซึ่ง ชื่อ 5footwayinn Boat Quay Project นะคะ เดินทางง่ายมาก นั่งมาลงสถานี Clarke Quay ก็ได้ Raffle Place ก็ได้ พิกัด: สามารถมาจากสถานี Clarke Quay ทางออก E ค่ะ


DAY 2

ตื่นเช้าด้วยการกินอาหารจากที่พักเลยค่ะ สะดวกมาก พอรองท้องได้ วิวที่ทานอาหารก็ใช้ได้เลยนะคะ

เช้านี้เราจะเดินทางไป Vivo City ค่ะ Vivi City ก็คือห้างบริเวณฝั่งใกล้ Sentosa ค่ะ
พิกัด: ลง สถานี Habour Front เดินมาแล้วมันเช้าก็เลยออกมาดูวิว อากาศเช้าสดชื่นมาก และด้วยความที่เช้ามาก ๆ มี ร้านเดียวที่เปิดคือ ร้าน Toast Box
4Toast Box
ร้านนี้อยู่ Vivo City ชั้น 3 ติดกับ Food Court เปิดตั้งแต่ 8.30 AM ได้ลองชิม Golden Lava Thick Set เมนูใหม่แนะนำของที่ร้าน รสชาติดี เค็ม ๆ มัน ๆ หวาน ๆ แบ่งกันกิน ไม่ค่อยเลี่ยนค่ะ ผ่าน!


เราไป Palawan Beach ค่ะ เค้าบอกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ ที่คนสิงคโปร์มาเล่นน้ำกัน แล้วก็เป็นที่เที่ยวสิงคโปร์ที่เงียบสงบ
อีกเหตุผลก็คืออยากไปถ่ายรูปสะพานเชือกตรงนั้นมากกว่า
ที่นี่มี 3 สถานีตามนี้ค่ะ คือ WaterFront - Imbiah - Beach Station ซึ่งที่เราจะไปนั้นอยู่สถานีปลายทางเลยค่ะ

ไปถึงปุ๊บเลี้ยวซ้ายเลยค่ะ ไป Palawan Beach เราจะมี Tram ให้นั่งไป ตอนเช้าคนไม่เยอะ อากาศดีสุด ๆ


5Palawan Beach
หาดแห่งนี้ยังถือเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์อย่าง เกาะเซ็นโตซ่า เพราะว่ามีสะพานแขวนที่ทอดยาวไปจุดใต้สุดของทวีปเอเชีย หาดนี้เป็นที่เที่ยวสิงคโปร์ที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะที่นี่มี Kid Zania สำหรับเด็ก และที่ปาร์ตี้สังสรรค์ในยามค่ำคืนสำหรับผู้ใหญ่ด้วย

6Universal Studio Singapore
เสร็จแล้วก็นั่งกลับมาที่สถานีแรกคือ Waterfront เราจะใช้เวลาทั้งวันที่ Universal Studio Singapore ที่นี่เครื่องเล่นครบจริง เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มุมถ่ายรูปก็สวยหลายมุมเลย มาเที่ยวสิงคโปร์คือต้องไม่พลาดที่นี่ โดยจะมีทั้งหมด 7 โซนด้วยกัน เราฝากท้องกันที่นี่เลย มีอาหารให้เลือกทานเยอะมาก เราเลยจัดพิซซ่ากันไป 1 ถาด อิ่มมาก ๆ



หลังจากเที่ยวตะลอนกันทั้งวัน เหนื่อยมากจริง ๆ ค่ะ เรากลับไปพักที่ที่พักก่อนแป๊บนึง อากาศร้อนแล้วเล่นเครื่องเล่นกันไม่หยุดยั้งมาก ๆ ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาเที่ยวที่นี่สุด ๆ ค่ำนี้เราจะพาไปกินสะเต๊ะที่ Lau Pa Sat Food Court
7Lau Pa Sat Food Court
ที่นี่อาหารสิงคโปร์เยอะมากเช่นเคย แต่ที่โดดเด่นมากก็จะเป็นสะเต๊ะ ซึ่งมีหลายร้านมาก ๆ เราได้ลองไก่กับกุ้งมาค่ะ รสชาติพอทานได้นะคะ (แต่ชอบสะเต๊ะบ้านเรามากกว่า ที่นี่แอบแข็งและราคาแรง)
Tips: แนะนำว่าให้เลือกร้านที่อยากทาน และระวังคนดี ๆ นะคะ เค้าจะมาประกบขายแบบน่ากลัวอยู่ แล้วก็จะขายนักท่องเที่ยวแบบราคาก็โหดใช้ได้ค่ะ


ก่อนกลับแวะให้ดูบรรยากาศที่ที่พักก่อนอีกครั้ง บรรยากาศย่านนี้ดีมาก ส่วนมากจะเป็นคนวัยทำงานมา Hangout มีร้านบาร์นั่งชิลเยอะมาก ๆ อย่างที่บอกที่พักเราไม่ไกลเลย มองไปตรงนั้นจะเห็นโรงแรมสิงคโปร์อย่าง Fullerton

DAY 3
Let’s start with Singapore Signature

เราจะพาไปเช็กอินที่เที่ยวสิงคโปร์ยอดฮิตกันค่ะ แน่น ๆ ฟิน ๆ ทั้งวัด ทั้งวิว วันนี้ตื่นเช้ามาแบบฝนตก ๆ รู้สึกขี้เกียจมาก แต่เรามีภารกิจ จะไปทัวร์สิงคโปร์ หาของกินและเช็กอินที่เที่ยวฮิต เราจะไม่พลาด

8YaKun Kaya Toast
เริ่มก่อนเลย ร้านนี้เป็นร้านอาหารสิงคโปร์ที่เราชอบมาก YaKun Kaya Toast เราชอบทุกอย่างของร้านนี้เลย โดยเฉพาะขนมปัง กรอบมาก กินกับสังขยาคือที่สุด ไข่ลวกกับชานม คือดีย์มาก! โหวตเป็นร้านอาหารเช้าที่รสชาติดีมาก ๆ ของที่นี่ค่ะ หลังจากทานเสร็จ เราก็เริ่มตระเวนถ่ายรูปและเดินเล่น


9Sri Mariamman Temple
“Sri Mariamman Temple” หรือวัดศรีมาริอัมมันต์ สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ที่เก่าแก่ และเป็นวัดฮินดูโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์
สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1827 แหนะ สามารถเข้าชมได้นะคะ แต่เราไม่ได้เข้าไป ในส่วนของเจดีย์ทางเข้าสูง 6 ชั้นตรงหน้า เค้าเรียกกันว่า “โกปุรัม” ซึ่งจะมีทวยเทพและสัตว์ในตำนานอยู่บนนี้เต็มไปหมดเลย

10Buddha Tooth Relic Temple and Museum
หลังจากผ่านวัดฮินดูมาแล้ว เรามาต่อกันที่ที่เที่ยวสิงคโปร์อย่าง วัดจีน ที่มาสิงคโปร์ต้องมาให้ได้ Buddha Tooth Relic Temple and Museum หรือวัดพระเขี้ยวแก้วและพิพิธภัณฑ์ วัดนี้เป็นวัดจีนในศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง ภายในวัดมี 5 ชั้นค่ะ บางชั้นก็อนุญาตให้ถ่ายภาพได้ บางชั้นก็ไม่ได้อนุญาต ภายในตกแต่งสวยงามและอลังการมาก ๆ เลย แล้วที่สำคัญแอร์เย็นด้วย นี่เดินวน ๆ เพลินมาก ๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการเดินเล่นที่นี่


11Maxwell Food Court
วันนี้มาย่านไชน่าทาวน์ทั้งที เราจะไม่พลาด Maxwell Food Court อันเลืองชื่อของไชน่าทาวน์ บริเวณนี้ไม่ไกลจากวัดเลยค่ะ เดินข้ามถนนมาได้เลย คนเยอะพอสมควร เข้าคิวประมาณ 10-15 นาที และที่สุด เราก็ได้มาต่อคิวเพื่อกินร้านอาหารสิงคโปร์ดัง ๆ ของที่นี่

ส่วนตัวเราว่ารสชาติดีสมราคานะคะ แต่ว่าข้าวไม่หอมเท่า Boon Tong Kee แต่ราคาร้านนี้น่ารักกว่าเยอะเลย ถือว่ารสชาติทานได้ไม่ผิดหวังค่ะ แต่ถ้าถามว่าชอบร้านไหนมากกว่า ก็คงต้องโหวตให้ร้านแรกที่ไปทานค่ะ

12Garden By the Bay
ช่วงบ่าย ๆ เราตั้งใจจะไปที่เที่ยวสิงคโปร์ที่ต้องมาเช็กอินอย่าง Garden By the Bay สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ยอดฮิต นั่งไปลงสถานี Bay Front ได้เลยค่ะ ไปถึงแล้วมีทางเดินไปชัดเจน ป้ายบอกทางเยอะมาก ๆ ที่นี่จะมีอาคาร 2 หลัง เป็นเรือนกระจกปรับอากาศคือ ฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome) และคลาวด์ ฟอเรสต์ โดม (Cloud Forest Dome) ที่นี่เค้าบอกว่าเป็นอาคารเรือนกระจกแบบไม่ใช้เสาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพื้นที่กว้างมาก ถ้าคุณพ่อคุณแม่มาด้วย ท่านต้องชอบมากแน่ ๆ ค่ะ แอร์เย็น ดอกไม้เยอะ และยิ่งใหญ่มาก ๆ ซึ่งแต่ละโดมเราสามารถเข้าทีละที่ก่อนได้ แล้วไปเดินเล่นที่อื่น แล้วกลับมาได้นะคะ
อันแรกเป็น "ฟลาวเวอร์ โดม" (Flower Dome) ค่ะ จะเป็นที่ดอกไม้เยอะมาก ๆ ส่วนอีกโดมจะเป็น "คลาวด์ ฟอเรสต์ โดม" (Cloud Forest Dome) ซึ่งเป็นที่เย็นและมีหมอกปกคลุมภายในอาคารด้วย แล้วก็มี "ภูเขาน้ำตก" (Cloud Mountain) ที่เค้าเคลมว่า เป็นน้ำตกในอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก


13Marina Barrage
ในบริเวณนี้ยังมีอีกที่ที่น่าไปเที่ยวและสงบด้วยค่ะ คนไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญวิวดีมากด้วย นั่นก็คือ Marina Barrage ที่เที่ยวสิงคโปร์ที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก ที่นี่ชิลมาก เหมาะสำหรับนั่งเล่น Hang Out หรือ มาปิกนิกก็ได้เหมือนกัน
เปิดให้เที่ยวได้ทุกวัน เวลา10.00-18.00 น. ในส่วนของพิพิธภัณฑ์เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ (ที่ครึ้ม ๆ ไม่ใช่อะไรนะคะ ฝนจะตกแล้ว เป็นเศร้าค่ะ)

จากนั้น เราเดินกลับไปเพื่อจะไป OCBC ค่ะ เราซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้วนะคะ จาก Sea Wheel จะได้ขึ้นช่วงเวลาก่อนการแสดงประมาณ 20 นาที *จริงๆ OCDC Skyway ให้ขึ้น 15 นาทีค่ะ ห้ามเดินสวนทาง แต่เราโชคดีมาก เค้าไม่ได้ให้ลง เลยเดินดูเพลินมากเลย
Tips: เราแนะนำว่า อยากให้มาตอนพระอาทิตย์จะตกนะ ถ่ายภาพดีมากค่ะ

เราอยู่ที่นั่นจนค่ำเลยค่ะ ชอบท้องฟ้าตอนนั้นมาก ๆ มันสวยแบบวานิลลาสกายสุด ๆ จะมีการแสดง Garden Rhapsody ตอนกลางคืน สวยมาก ๆ การแสดงแสงสีเสียงอันตระการตานี้จัดขึ้นทุกคืนท่ามกลางต้นซูเปอร์ทรี
14Jumbo Seafood Gallery
ก่อนกลับห้องหลังจากเดินมาทั้งวันแล้ว วันนี้เราจะมากินปู! Jumbo Seafood Gallery (จัมโบ้ ซีฟู้ด) Riverwalk อีกร้านที่ Must Eat ของสิงคโปร์ รสชาติดีค่ะกินจนสุดตัว เป็นการกินปูที่คุ้มที่สุดในชีวิตเพราะแพง 5555555 เนื้อปูมันแน่นนะ แล้วก็รสชาติ Chilli Crab รสชาติจะติดหวานหน่อย ใส่ถั่วลิสง แล้วก็ไม่มีกลิ่นผงกะหรี่เท่าของไทย แนะนำว่าสั่ง Bun เพิ่มด้วยค่ะ Bun รสชาติดีมาก ชอบกินมาก จิ้มกับน้ำซอส ฟินจริงค่ะต้องลอง

Day 4

วันที่ 4 แล้ว เช้านี้เราจะพาไปกินมะตะบะของแท้แบบอินเดีย ๆ แขก ๆ เลย
พิกัด: สถานี Bugis [EW12] ทางออก B ค่ะ เดินตรงมาเรื่อย ๆ จะผ่าน Raffle Hospital มันจะมีแยกแต่ไม่ต้องเลี้ยวค่ะ ตรงมาค่ะ
เจออีกแยกแล้วค่อยเลี้ยว เดินตรง ๆ มาเรื่อย ๆ จนถึงสี่แยกอีกแยกนึง มุมขวาจะเห็น Sultan เลยค่ะ ร้านอยู่ตรงข้ามเลยค่ะ


15Singapore Zam Zam
เป็นร้านอาหารอินเดียชื่อดังของสิงคโปร์เลยค่ะ (มีหลายชั้น มีห้องแอร์ด้วยนะ) เมนูมีให้เลือกเยอะมาก แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คงจะเป็นมะตะบะ
ซึ่งรสชาติจัดจ้านมาก เสิร์ฟพร้อมกับแกงอินเดียต่าง ๆ ข้าวหมกเครื่องเทศ หอมกลิ่นของเครื่องเทศมาก ๆ รสชาติดี ข้าวเป็นเม็ด ๆ
ไก่โอเคแบบสุด ๆ มันมีเหมือนน้ำซอสอะไรสักอย่างหมักหอมมาก มะตะบะ หอมใหญ่เยอะดีค่ะ
Tips: อาหารที่นี่จานใหญ่มากกกก สั่งสองอย่างกินสามคนยังเหลือเลย ต้องบอกเค้าว่าไซซ์เล็กสุดเลยนะ *ราคามันจะต่างกันนิดหน่อย

16Street Art Haji Lane
เรามาเดินกันที่ ที่เที่ยวสิงคโปร์อย่าง Street Art Haji Lane กัน ที่ถ่ายรูปสไตล์ฮิปสเตอร์ของที่นี่ (ข้ามถนนจากร้านมาฝั่งเดียวกับ Sultan ได้เลยค่ะ) เดินตรงไปทางขวา ที่นี่มีร้านคาเฟ่มากมายเลย มีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เยอะอยู่ ข้าง ๆ กันจะเป็น Bali Lane ซึ่งไม่ต่างกันเท่าไหร่ รับรองภาพเพียบค่ะ



17Bugis Street
เราจะไปเดินชอปปิงกันที่พาหุรัดเมืองสิงคโปร์ หรือที่เรียกกันว่า Bugis Street ที่นี่ของเยอะมากกกกกก ทั้งขนม ของฝากพวกพวงกุญแจ เสื้อผ้า มีทุกอย่างเลยค่ะ อุปกรณ์มือถือ เคส มาลองเดินเล่นกันได้เพลิน ๆ ไม่ร้อนด้วย ใครจะมาเที่ยวสิงคโปร์ แนะนำเลยค่ะ


18St.Andrew Cathedral
มาต่อกันที่อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์อย่าง St.Andrew Cathedral ที่นี่เป็นโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศาสนสถานของศาสนาคริสต์นิกายแองกลิกัน (Anglican) ที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ สงบและลมเย็นดีมากค่ะ ภายในตกแต่งแบบโบสถ์ทรงกอทิกแบบอังกฤษ
พิกัด : สถานี City Hall

19IMM Outlet
ชอปปิงที่ IMM Outlet ที่นี่ถือว่าของเยอะเลยแหละ แล้วก็ลดราคาเยอะมาก ของดีด้วยค่ะประเด็น!อย่าง Charles & Keith ใบละพัน คุ้มมาก ถูกมาก คนก็เยอะมากเช่นกัน แบรนด์มีให้เลือกสรรเยอะ Daiso ก็ใหญ่มาก คือสรุปแล้วเป็นห้างที่ใหญ่ แล้วก็ลดราคาเยอะค่ะ คุ้มค่าที่จะไป ปล. ไม่ได้มีภาพด้านในห้างนะคะ เพราะว่าซื้อของเพลินไปหน่อย
พิกัด : สถานี Jurong East ทางออก A จากนั้นเดินออกมาทางขวา ตามทางเลยค่ะ แล้วข้ามถนน มาขึ้นรถรับส่งฟรีที่หน้าห้าง JCube ใกล้กับ McDonald's (จะมีรถรับส่งไปยังห้างต่าง ๆ JCube -> IMM -> Westgate McDonald's) รถบัสนั่งสบายค่ะมีทุก 15 นาที แอร์เย็นด้วยไม่อึดอัด (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.imm.sg/en/) เปิดตั้งแต่ 10 AM-10PM เลยค่ะ
20Clarke Quay
กลับย่านที่พักมาเปลี่ยนรองเท้าแบบนี้แล้วก็เดินเล่นรอบ ๆ Clarke Quay มุมนี้ เวลานี้สงบมากค่ะ


21Mei Heong Yuan
คืนนี้จะพาไปเดินย่านไชน่าทาวน์แบบจริงจังก่อนกลับ แต่มาเริ่มทานของหวานกันก่อนดีกว่า ร้าน Mei Heong Yuan ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านของหวานในตำนานของที่นี่เลยก็ว่าได้ คนอย่างเยอะ แนะนำกันมาแทบทุกเพจ เมนูของหวานสารพัดอย่างต้องมาลองให้ได้ค่ะ
พิกัด: MRT Chinatown Exit A แล้วเลี้ยวขวา มันจะไปซอยทะลุอีกซอย เดินตรงไปเห็นป้ายร้านเลยค่ะ
เปิด : 12PM-9.30PM (หยุดทุกวันจันทร์)


Mango Roll

Durian Mochi

22China Town
เดินย่อยกลับทางเดิม ซื้อของที่ระลึกของฝากย่าน China Town Tips: แนะนำว่าดูร้านดี ๆ นะคะ ราคาบางร้านนี่ตัดหน้ากันสุดฤทธิ์ เดินให้ทั่วแล้วค่อยซื้อจะดีที่สุดค่ะ

Day 5

23Tak Po
วันนี้เราจะต้องเดินทางกลับแล้ว แต่เราต้องนั่งบัสกลับเหมือนตอนขามา ก่อนปิดทริปขอกินติ่มซำฟิน ๆ ก่อน
พิกัด : สถานี Chinatown (NE4) ทางออก A เลี้ยวขวาตรงไปจนถึงถนน แล้วเลี้ยวไปทางซ้าย เดินผ่านถนน Temple Street แล้วก็อีกถนนนึงก็ถึงร้านแล้วค่ะ

"Mixed Pork Congee กับ Century Egg & Lean Meat Congee" โจ๊กละมุนลิ้นสมคำร่ำลือ คือมันก็จืดนะ แต่ไส้กับตับรสชาติดีจริง ๆ มันเปื่อยกำลังพอดี เข้ากับโจ๊ก ในรูปอาจจะไม่สวย ส่วนไข่เยี่ยวม้ามันรสชาติแปลก ๆ อะ ออกเปรี้ยว ๆ ปิดท้ายด้วย "Mango Spring Roll" เหยยย เมนูมะม่วงทอดกับแป้ง ข้างในมีมะม่วง กุ้ง แล้วก็หมูสับ จิ้มกับซอสครีม ๆ น่าจะมายองเนส กรอบ ผ่านค่ะ
(มีขายเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้นนะคะ )


ได้เวลาแพ็กกระเป๋ากลับแล้วละ เดินทางไป MRT Kranji ค่ะ ถึงสถานีก็ข้ามถนนมาอีกฝั่ง เพื่อรอป้ายรถเมล์นั่งไป Woodland ขากลับเดินทางกับ SBS Transit นะคะ ใช้บัตร EZ-link ตื๊ดขึ้นรถได้เลย ทำตามเหมือนที่เคยมาค่ะ ลง Woodland ออก ตม. แล้วก็ขึ้นรถสายเดิมที่เรานั่งมา
Tips: ขึ้นรถ หลังจากออก ตม. แล้วให้รอช่องรถที่เราขึ้นตามเดิมนะคะ จากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินตามปกติเลยค่ะ
ค่าใช่จ่ายทริปที่เที่ยวสิงคโปร์

จุใจกันไหมคะกับ ลายแทง! เที่ยวสิงคโปร์ด้วยรถบัส 5 วัน 4 คืน! ฉบับอัปเดต 2019 เพื่อน ๆ ลองไปปรับใช้กับทริปดูนะคะ การเดินทางไปที่เที่ยวสิงคโปร์ 5 วัน 4 คืน แต่ละที่ ก็ไม่ยากอย่างที่คิด จริง ๆ สามารถเที่ยวมาเลเซียต่อได้ด้วย ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ใครที่อ่านรีวิวเที่ยวสิงคโปร์เพิ่มก็ตามมาที่นี่ แจกแผนที่กินเที่ยวสิงคโปร์ 4 ย่านฮิตสุดฮอต และ ที่เที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน เที่ยวที่เด่น ล่าร้านอาหารดัง! นอกจากนี้ยังมีทริปที่กิน ที่เที่ยว อีกเพียบ ไปตามอ่านกันได้ที่เพจ Wongnai Travel เลยค่าาาา
อ่านบทความที่กิน ที่เที่ยวสิงคโปร์กันต่อ ลุยยยย!
11 ร้านอาหารสิงคโปร์ที่คนท้องถิ่นแนะนำ
10 ร้านติ่มซำสิงคโปร์ โอ้โห! สิบเข่งก็ไม่พอ
Hidden Bar! 4 บาร์สุดลึกลับที่ต้องไปลองในสิงคโปร์
6 ร้านข้าวมันไก่ในสิงคโปร์ ถึงอ้วนก็ยอม!