ถ้าพูดถึงงานวัดที่ใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ ทุกคนก็ต้องนึกถึง “งานวัดภูเขาทอง” ที่จัดขึ้นบริเวณ “วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร” กันแน่นอน ทั้งของกินที่พากันมาออกร้าน ซุ้มปาลูกโป่ง ยิงปืน ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน และการห่มผ้าแดงถวายพระบรมบรรพต และการเดินขึ้นบันไดเพื่อไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ด้านบน ปีนี้งานวัดภูเขาทองจัดตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 เป็นเวลา 10 วัน 10 คืน
ก่อนจะเริ่มเดินเที่ยวภูเขาทอง เราขอแนะนำทริคเล็ก ๆ กันหน่อยว่า ถ้ามาเที่ยวภูเขาทองเราแนะนำให้ใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ เรือ หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์มากกว่า เพราะบริเวณวัดคนจะหนาแน่นมาก ที่จอดรถส่วนใหญ่จะมีแต่มอเตอร์ไซค์ ใครขับรถยนต์มาอาจจะลำบากหาที่จอดนิดนึงนะ เราเลยขอแนะนำการเดินทางมาเที่ยวงานภูเขาทองด้วย 4 วิธีตามนี้!
- เรือด่วน เรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าเรือเทเวศร์แล้วต่อมอเตอร์ไซค์
- เรือคลองแสนแสบ ลงได้ที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศแล้วเดินต่อนิดเดียว
- เรือคลองผดุงกรุงเกษม ลงได้ที่ท่าเรือภูเขาทองแล้วเดินต่อนิดเดียว
- รถเมล์ สาย 8, 15, 37,ปอ. 37, 47, 49, ปอ. 49
- รถไฟฟ้า MRT ลงได้ที่สถานีสามยอดแล้วต่อมอเตอร์ไซค์
สำหรับแผนการเดินเที่ยวมีสองเส้นทาง ใครที่อยากเริ่มด้วยการตะลุยกิน ให้เข้าทางบริเวณทางเข้าประตูซอยบรมบรรพตเราจะเจอกับร้านอาหารมากมาย และบริเวณใกล้ ๆ กันก็จะมีชิงช้าสวรรค์อันใหญ่อยู่ ส่วนใครที่อยากเริ่มด้วยการสักการะพระบรมสารีริกธาตุก่อน เราแนะนำให้เข้าจากประตูซอยจักรพรรดิพงษ์ เพราะเดินเข้ามาก็จะเจอกับทางขึ้นภูเขาทองก่อน แถมขากลับยังได้แวะเล่นเกมที่ซุ้มด้วย
เราเลือกเข้าทางประตูพระบรมบรรพตเพราะจะมาตามหาของกินสุดคลาสสิกที่มาเที่ยวงานวัดแล้วต้องไม่พลาด นั่นก็คือ “ขนมโป๊งเหน่ง” (ราคา 15 บาท) ที่เดี๋ยวนี้หากินไม่ง่ายเหมือนสมัยเป็นเด็กนักเรียนแล้ว ร้านถัดไปเป็นร้านไอติมหลอด อีกหนึ่งของกินที่ต้องซื้อเมื่อมางานวัด ยิ่งอากาศร้อน ๆ แบบนี้ก็ต้องจัด “ไอติมหลอด” (ราคา 5 บาท) มาสักแท่งสองแท่งเนอะ แต่ดูนั่นสิ ร้านลูกชิ้นร้านนี้มีลูกชิ้นยักษ์น่าสนใจมาก แต่กินคนเดียวคงไม่ไหว ขอ “ลูกชิ้นหมูปิ้งไม้เล็ก” (ราคา 10 บาท) สองไม้แล้วกัน!
เดินมาสักพักก็เจอกับร้านแมลงทอด เคี้ยวมัน ๆ ของโปรดเลย จัดมาเลยค่ะลุง ขอพริกไทยเยอะ ๆ สำหรับถุงนี้ก็คือ “แมลงทอด 2 อย่าง” (30 บาท) ข้าง ๆ กันมีร้านไข่นกกระทา นี่ก็ของกินสุดคลาสสิกเหมือนกันนี่นา ต้องจัดแล้วละ! “ไข่นกกระทาทอด” (30 บาท)
เดินไปสักพักก็เริ่มหิว เลยหาร้านหนัก ๆ กินสักหน่อย เราไปเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยว เลยไม่รอช้าวิ่งเข้าไปสั่ง “เส้นหมี่น้ำใส” (40 บาท) เติมพลังได้ดีมาก ๆ ก่อนที่เราจะขึ้นไปไหว้พระข้างบนกันก็เดินเจอร้านข้าวโพดคั่ว คุณลุงกำลังคั่วข้าวโพดด้วยเตาแบบโบราณ อย่างนี้ต้องลองสักหน่อยละว่าจะรสชาติเป็นยังไง จัดไป “ข้าวโพดคั่วรสหวาน” (20 บาท) แล้วเดี๋ยวเราขึ้นไปไหว้พระข้างบนกัน!
ก่อนจะขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุข้างบน ที่เขาจะเปิดให้ขึ้นในช่วงกลางคืนเท่านั้น และจะมีจุดให้แวะซื้อ “ดอกไม้ ธูป เทียน” (20 บาท) เราก็แวะซื้อกันให้เรียบร้อยก่อน แต่ถ้าใครเดินเพลินจนลืม ข้างบนเขาก็มีขาย ไม่ต้องกังวลไป ระหว่างทางเดินก็จะมีกิจกรรมให้เราทำอย่างการตีระฆังและตีฆ้องให้สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต
เมื่อถึงด้านบนเราจะพบกับวิวเมืองกรุงเทพฯยามค่ำคืนและบรรยากาศงานวัดแบบมุมสูง จุดนี้แวะเก็บภาพความประทับใจกันก่อนที่จะขึ้นไป เมื่อสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว ก็จะมีบ่อสำหรับลอยเทียน และมีน้อง ๆ นักเรียนมาถือกล่องรับบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนวัดสระเกศ เที่ยวงานวัดภูเขาทองครั้งนี้อิ่มทั้งบุญอิ่มทั้งท้องเลย!
ใครอยากไปเที่ยวงานวัดสนุก ๆ ก็ห้ามพลาดเชียวล่ะ ขอย้ำอีกครั้งว่างานวันมีตั้งแต่วันนี้จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น ถ้าพลาดแล้วต้องรอปีหน้าเลยนะ เราแนะนำว่าวันหยุดนี้ไปเที่ยวย่านเมืองเก่าในตอนกลางวัน แล้วค่อยไปเที่ยวภูเขาทองต่อในตอนกลางคืนก็ได้ ถ้าใครยังไม่รู้จะเที่ยวไหนเราก็มี 1 Day Trip ที่เที่ยวพระนคร พาเช็คอินคาเฟ่ย่านเมืองเก่า และ เที่ยวพระนคร ลัดเลาะตามวัดเก่าย่านพระนคร แวะคาเฟ่และโฮสเทลเก๋ ๆ มาให้ด้วย! อย่าลืมกดติดตามเพจ Wongnai Travel ไว้นะ จะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก!
ติดตามบทความที่กิน-ที่เที่ยวกรุงเทพฯโซนเมืองเก่ากันต่อได้ที่
