ที่เที่ยว "เจ็ดคต" แห่งนี้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถเพียงสองชั่วโมงเอง เหมาะกับการแคมปิงอย่างดี บรรยากาศก็แสนจะธรรมชาติ เดินเล่นชมวิว พักผ่อนให้ธรรมชาติโอบกอดแบบลุงอัมพร ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวแห่งนี้มีเส้นทางเดินป่าให้ศึกษาธรรมชาติอีกด้วย "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเจ็ดคด –โป่งก้อนเส้า" เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ที่เที่ยวสระบุรีไม่ไกลจากกรุงเทพฯ บรรยากาศเขียวขจี ปิกนิกข้างอ่างเก็บน้ำ มองวิวพระอาทิตย์ตกดินก็ฟินไปอีกแบบ อย่ารอให้อากาศหนาวผ่านพ้นไปแวะเที่ยวสระบุรีกันดีกว่า วันนี้คุณลุงอัมพร ปานกระโทก วัยเก๋า Gen B (Baby Boomer Generation) จะมาสาธิตวิชากางเต็นท์ Like a Pro พร้อมวิวสุดเพอร์เฟกต์ เที่ยวสระบุรีคนเดียวไม่เหงาถ้าเรากางเต็นท์เป็น ไปลุยกันเล้ยย !!
ขอบอกเลยว่า "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า" มีทั้งบ้านพักและจุดกางเต็นท์ แนะนำว่าถ้าจะมากางเต็นท์ต้องมาถึงก่อน 20.00 นะจ๊ะ เพราะต้องลงทะเบียนกับคุณพี่เจ้าหน้าที่เสียก่อน และใครอยากได้ฟีล Excusive นอนบ้านพักบรรยากาศดี แนะนำให้โทรมาติดต่อจองห้องพักกันก่อนจะได้ไม่เสียเที่ยวกัน ส่วนค่าบริการบำรุงสถานที่ลานกางเต็นท์ก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคนเลย การเดินทางมา "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า" ไม่ยากเลย ขับรถเปิดเพลงชิล ๆ เดินทางจากกรุงเทพฯ ระยะทางรวมประมาณ 130 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แยกขวาไปทางจังหวัดนครราชสีมา (ถนนมิตรภาพ) ประมาณ 20 กม. กลับรถหน้าเทศบาลทับกวาง อีก 1 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 20 กม. แท่น แท่น แท้น เพื่อน ๆ ก็จะถึง "เจ็ดคต" กันแล้ว มาตามลุงอัมพร วัยเก๋า Gen B สอนวิชากางเต็นท์ ลมแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่น มีครบทุกเทคนิคตามมาเลย
ขั้นตอนที่ 1
เริ่มแรก ขอเจ้าป่าเจ้าเขา จุดธูปให้พร้อมแล้ว ขอฝากเนื้อฝากตัวที่จุดกางเต็นท์ที่เที่ยวหน้าหนาวไว้ในอ้อมเขาสักสองสามวัน แอบส่องมองหาบริเวณที่เราจะกางเต็นท์กันก่อน
ขั้นตอนที่ 2
หาพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำหรับกางเต็นท์ "เจ็ดคต"แห่งนี้มีพื้นที่กางเต็นท์ให้เลือกหลากหลาย เลือกวิวธรรมชาติที่ชื่นชอบสังเกตดี ๆ ห้ามมี หิน, มด เคลียร์พื้นที่ให้เกลี้ยงไม่มีอะไรมาเกะกะ พื้นที่กางเต็นท์ที่ดีต้อง มีความราบ ไม่มีก้อนหิน,เศษไม้ ไม่ขวางบริเวณทางเดิน ไม่มีก้อนหินนูนขึ้นมาตอนนอนจะได้ไม่มีอะไรมาทิ่มหลังยังไงล่ะ หรือรังมด ตอนเข้านอนจะได้ไม่โดนมดกัดคันคะเยอ
ขั้นตอนที่ 3
อุปกรณ์สำหรับเต็นท์ที่ลุงเลือกมาในทริปนี้เป็นเต็นท์โดม มีน้ำหนักเบา กางง่าย ตัวพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยม ทำให้มีพื้นที่กว้าง นอนได้หลายคน แถมมีที่ให้วางของด้วย และข้างบนยังมีช่องระบายอากาศ บางรุ่นมาพร้อมกับฟลายชีทและกราวนด์ชีทสำหรับกันน้ำค้างและปูเป็นพื้นที่ใช้สอยด้านหน้าด้วย พร้อมแล้วก็แยกชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นส่วน ๆ จะได้ไม่งงกันนะ ปกติเต็นท์โดยทั่วไปจะมี เต็นท์ สมอบก เสา เชือก พร้อมแล้วเริ่ม! ค่อย ๆ ทำ ตามลุงอัมพรได้เลย นำเสาเต็นท์ออกมากาง ต่อเป็นเส้นยาวทั้งสองเส้น แล้วนำเสาเต็นท์มาร้อยผ่านรูตรงกลางของตัวเต็นท์จะได้เป็นรูปกากบาท ถ้าเป็นแบบนี้คือมาถูกทางแล้ว
ขั้นตอนที่ 4
แยกมุมเต็นท์ มองหา Pin ที่มุมของเต็นท์ (Pin มีลักษณะเป็นแท่งเดือยเล็ก ๆ อยู่ตรงมุม) เสียบ Pin เข้ากับเสาแต่ละด้านที่เราประกอบไว้แล้วยกตัวเต็นท์ขึ้น แท่น แทน แท้น !!! เราก็จะได้เต็นท์โดมทรงสูง ติดคลิปรอบ ๆ ตัวเต็นท์เข้ากับเสาทุกอัน จัดรูปแบบทรงเต็นท์ให้เข้าที่ ปักสมอบกลงดินทำมุม 45 องศา ทุก ๆ มุมของเต็นท์ แล้วตอกด้วยหินหรือของแข็งให้ลึกสักหน่อย เช็กให้ชัวร์ว่าสมอบกของเราแข็งแรงพร้อมปะทะแรงลม ไม่งั้นเต็นท์ปลิวนะ ขอบอก
ขั้นตอนที่ 5
ภูมิใจกับผลงาน เช็กความเรียบร้อย ตรวจดูสมอบกของเราว่าแข็งแรงดีมั้ยนะ ดีมั้ยนะ ~ พร้อมแล้วก็เก็บของเข้าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวพักผ่อน ที่สำคัญ อุปกรณ์แคมปิงตัวช่วยที่ต้องมีเวลาไปแคมปิง ตัวช่วยเสริมที่ควรมีติดตัวไปเผื่อ ลุงอัมพรขอแนะนำ สมอบก ควรใช้เป็นสมอบกอะลูมิเนียมที่มีขายทั่วไป แต่หากดินบริเวณที่เราไปกางเต็นท์มีลักษณะค่อนข้างร่วนซุย แนะนำให้ใช้กิ่งไม้ขนาดกลางมาทำเป็นสมอจะแข็งแรงต่อสู้กับแรงลมได้ดีกว่า เชือก ควรมีเผื่อไว้ โดยปกติเต็นท์จะมีเชือกแถมมาให้ด้วยอยู่แล้วแต่อาจจะพกเชือกไปเผื่อในกรณีฉุกเฉินอาจจะต้องใช้ เผื่อไว้ไม่เสียหายนะ ฟลายชีท ควรมีติดเผื่อไว้เผื่อเจอสภาพอากาศฝนฟ้ากระหน่ำฟลายชีทจะมาช่วยรับดาเมจให้เต็นท์เราในกรณีนี้ได้นะ
ขั้นตอนที่ 6
เท่านี้เต็นท์ของเราก็จะแข็งแรง พร้อมรับแรงลม ถึงเวลาพักผ่อนใช้ธรรมชาติเยียวยา เหนื่อยมาทั้งวันาพักผ่อนใช้ธรรมชาติเยียวยา เหนื่อยมาทั้งวัน บรรยากาศดี ๆ นั่งชิล ริมอ่างเก็บน้ำ ขอลุงอัมพรถ่ายรูปสักหน่อยรอเวลาเข้านอน !!!
อย่าลืมตื่นเช้ามาพบกับธรรมชาติวิวดี ๆ ที่ไม่ได้พบกันง่าย บรรยากาศสุดฟินไปกับทิวทัศน์ของต้นไม้และทิวเขาโดยรอบแสนสวยงามสุด ๆ สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับ "เจ็ดคต" คือ การเดินทางศึกษาเส้นทางธรรมชาติ เดินล่าหาเห็ดแชมเปญเป็นภารกิจสนุก ๆ ก็ได้อีกเช่นกัน เพราะที่นี่ "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า" มีเส้นทางน้ำตกเจ็ดคตเหนือ ระยะทางไป-กลับ เฉลี่ย 2.4 กิโลเมตร สั้น ๆ ชิล ๆ เดินเพลิน ๆ ลองแวะเวียนเข้าไปในตัวเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็จะเจอ เห็ดแชมเปญ ลักษณะเป็นถ้วยสีแดงสดใส เติบโตเกาะอยู่บริเวณขอนไม้ประปรายตามเส้นทาง และแวะเล่นน้ำตก น้ำเย็น ๆ พักเหนื่อย สดชื่นสุด ๆ หรือถ้ายังไม่สะใจพอ เพื่อน ๆ สามารถติดต่อพี่เจ้าหน้าที่เพื่อนำทางเดินเส้นทางรอบใหญ่ : น้ำตกเจ็ดคตเหนือ-กลาง-ใต้ และน้ำตกเจ็ดคตใหญ่ ระยะทาง 4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. เดินชมธรรมชาติกันให้เพลิดเพลินเลยนะ เชื่อลุงอัมพร
เป็นยังไงบ้างกับ "ลุงอัมพร พาเที่ยวสระบุรี สอนวิชากางเต็นท์ เดินเล่นสัมผัสธรรมชาติ" ในทริปนี้ อย่าปล่อยให้อากาศหนาวระยะสั้น ๆ ผ่านพ้นไป เล็งวันหยุดให้ดี ๆ แล้วพาตัวเองไปสัมผัสธรรมชาติแบบลุงอัมพรได้ที่ "เจ็ดคต" จุดกางเต็นท์ที่เที่ยวหน้าหนาว หรือถ้าใครสนใจที่เที่ยวอื่น ๆ เราขอแนะนำนี่เลย ที่เที่ยวภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน กินหมูกระทะ ล่าทะเลหมอก ลุยไร่กะหล่ำปลี แต่ถ้ายังไม่จุใจ เราขอฝากเพจ Wongnai Travel เอาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามข่าวสารสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ กันได้เลยน้า หรือถ้าใครอยากมาแชร์ทริปของคุณ เราก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง!
ติดตามบทความที่เที่ยวแบบอื่น ๆ ได้ที่นี่
12 ที่เที่ยวหน้าหนาว ถ่ายรูปสวยเวอร์!!
20 ที่เที่ยวหน้าหนาว คัดมาแล้ว 5 จังหวัด หน้าหนาวปีนี้ต้องไปเยือน!
ที่เที่ยวภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน กินหมูกระทะ ล่าทะเลหมอก ลุยไร่กะหล่ำปลี
วันเดียวเที่ยวเขาค้อ ไม่ต้องรอหน้าหนาว กรุ่นไอดิน หอมกลิ่นฝน
