เตรียมตัวให้พร้อมก่อนบินไปเที่ยวต่างประเทศ "วิธีเลือกกระเป๋าเดินทาง ใบไหนที่ใช่สำหรับเรากันแน่นะ" กระเป๋าเดินทางเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทาง นอกจากจะช่วยเราแบกสัมภาระส่วนตัว ทั้งของกิน ของใช้ ของฝากต่าง ๆ แล้ว หากเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่เหมาะกับทริปที่เราไป ทริปดี ๆ ที่เตรียมไว้ก็มีโอกาสพังได้เช่นกัน อย่างลากกระเป๋าอยู่ดี ๆ ล้อดันหลุด! แล้วฉันจะลากยังไงต่อละยะ! หรือกระเป๋าแตก กระเป๋าโดนกรีด ด้ามจับหักบ้างละ! และปัญหาต่าง ๆ อีกเพียบ! วันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาดู “วิธีเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางอย่างไรให้คุ้มค่า ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราที่สุดกันค่ะ พร้อมแล้วตามมาเล้ยยย~
1วิธีเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับจำนวนวัน
เริ่มแรกให้เราคิดก่อนเสมอว่าเราต้องการกระเป๋าใบใหญ่ขนาดไหน หรือมีสัมภาระอะไรติดตัวไปบ้าง โดยทาง Wongnai Travel ก็ได้จำแนกขนาดกระเป๋าเดินทางมาให้เพื่อน ๆ แล้ว มาดูกันว่ากระเป๋าเดินทางแบบไหนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้บ้าง โดยปกติแล้วขนาดกระเป๋าเดินทางทั่วไปจะมีตั้งแต่ขนาด 16 นิ้ว, 18 นิ้ว, 22 นิ้ว, 24 นิ้ว, 26 นิ้ว, 28 นิ้ว และ 30 นิ้ว โดยกระเป๋าเดินทางขนาด 16-22 นิ้ว (ไซซ์เล็ก), 24-26 นิ้ว (ไซซ์กลาง), และ 28-30 นิ้ว (ไซซ์ใหญ่)
- เดินทาง 1-2 วัน ขอแนะนำกระเป๋าเดินทางขนาดตั้งแต่ 16-18 นิ้ว
การเดินทางแบบเร่งด่วน อาจจะไปทำงานหรือเดินทางไปทำธุระที่ด่วนมาก ๆ มีเวลาพักค้างคืนแค่ 1 คืนเท่านั้น เราแนะนำให้พกกระเป๋าเดินทางไซซ์เล็ก ๆ ขนาดไม่เกิน 18 นิ้วกำลังดี เพราะเรามีเวลาชอปปิงซื้อของฝากน้อย แถมยังถือหิ้วขึ้นเครื่องได้แบบชิล ๆ อีกด้วยนะ - เดินทาง 2-3 วัน ขอแนะนำกระเป๋าเดินทางขนาดตั้งแต่ 18-22 นิ้ว
ใครมีแพลนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ 2-3 วัน เราแนะนำให้ใช้กระเป๋าเดินทางขนาดตั้งแต่ 18 นิ้วไปจนถึง 22 นิ้ว ใส่สัมภาระพอดี ๆ ไม่มากไปไม่น้อยไป แต่สำหรับสายชอปฯ แนะนำให้ใช้ขนาด 24 นิ้วขึ้นไปได้ จะได้จุของได้เยอะขึ้นนั่นเอง - เดินทาง 4-6 วัน ขอแนะนำกระเป๋าเดินทางขนาด 24-26 นิ้ว
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีแพลนเดินทางไปเที่ยวหลาย ๆ วัน เราแนะนำให้ใช้กระเป๋าเดินทางขนาดตั้งแต่ 24-26 นิ้ว ใส่เสื้อผ้าได้หลายชิ้น ชอปปิงได้จุก ๆ ไปเลยจ้า~ - เดินทาง 7-10 วัน ขอแนะนำกระเป๋าเดินทางขนาด 28-30 นิ้ว
การเดินทางระยะยาว หรือเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น ควรใช้กระเป๋าไซซ์ใหญ่ตั้งแต่ขนาด 28-30 นิ้ว สำหรับจุเสื้อโค้ตสวย ๆ หนา ๆ ไปถ่ายรูปกัน

2วิธีเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับสายการบิน
ทราบขนาดกระเป๋าเดินทางกันไปแล้ว ทีนี้เราก็มาดูกันว่าขนาดกระเป๋าเดินทางของเราแต่ละใบนั้นสามารถขนสัมภาระขึ้นบนห้องโดยสาร หรือว่าต้องโหลดไปกันแน่ โดยปกติแล้วกระเป๋าที่เรานำขึ้นเครื่องบินจะมี 2 แบบ คือ Carry on Baggage (ถือขึ้นเครื่อง) และ Checked Baggage (โหลดขึ้นเครื่อง) นั่นเองค่ะ โดยสายการบินส่วนใหญ่จะให้น้ำหนักกระเป๋าที่เพื่อน ๆ สามารถถือขึ้นเครื่องได้ท่านละไม่เกิน 7 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังกำหนดถึงความกว้าง ความยาว ของกระเป๋าเอาไว้ด้วยนะ สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่ากระเป๋าเดินทางของเรานั้นมีขนาดและน้ำหนักตามที่สายการบินกำหนดไว้หรือเปล่า? และสามารถถือขึ้นเครื่องได้หรือไม่? เราสรุปมาให้แล้ว

3การเลือกประเภทและวัสดุของกระเป๋าเดินทาง
กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากที่เราคุ้นตาจะมีอยู่ 2 ชนิด คือระหว่าง Soft Case (แบบผ้า) กับ Hard Case (แบบแข็งที่ทำจากพลาสติก ABS, PC) นั่นเอง เพื่อน ๆ หลายคนอาจสงสัยเหมือนกับเราว่า กระเป๋าเดินทางแบบไหนดีกว่ากัน? เราจะมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของกระเป๋าทั้ง 2 แบบให้ดูกัน
Soft Case หรือกระเป๋าเดินทางแบบผ้า
- ข้อดี : รูปทรงสวยงาม มีความยืดหยุ่นได้ดี สะดวกต่อการใช้งาน และไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย
- ข้อเสีย : หากถูกโยนหรือกระแทกแรง ๆ สัมภาระด้านในอาจเกิดการแตกหักได้ (ไม่แนะนำให้ใส่กล้องหรือโน้ตบุ้ก) ถ้าถูกกดทับมาก ๆ รูปทรงกระเป๋าอาจเสียหายได้ง่าย หากฝนตกแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก นอกจากกระเป๋าจะเปียกโชกแล้ว ยังทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย
Hard Case หรือกระเป๋าเดินทางแบบแข็ง
- ข้อดี : รูปทรงสวยงาม ดีไซน์สวยเก๋ดูมีระดับ มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก น้ำหนักเบา ช่วยกันน้ำฝนได้ สัมภาระปลอดภัย เสื้อผ้าไม่ยับแม้จะถูกกดทับแค่ไหน! ซึ่งปัจจุบันบริษัทผลิตกระเป๋าเดินทางส่วนใหญ่ก็นิยมใช้ Polycarbonate ABS ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคงทนและความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขีดข่วนและแรงกระแทกได้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ
- ข้อเสีย : เป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่าแบบผ้า หากถูกกระแทกแรง ๆ กระเป๋าอาจเกิดการแตกหักได้
Tips > ควรเลือกกระเป๋าที่ล้อหมุนได้แบบ 360 องศา ยิ่งต้องลากเดินระยะทางไกล ๆ จะช่วยผ่อนแรงได้ดีมาก ๆ สามารถลากแบบแนบลำตัวหรือลากแบบ 2 ล้อก็ได้ สะดวกสบายสุด ๆ เลยค่ะ

4วิธีเลือกกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับสถานที่
วิธีเลือกกระเป๋าเดินทางนอกจากเราต้องกังวลเรื่องขนาด ชนิดวัสดุ และความสวยงามแล้ว เราควรคำนึงถึงสถานที่และสภาพอากาศที่ที่เราเดินทางไปกันด้วยนะ ว่าเหมาะกับการใช้กระเป๋าเดินทางแบบไหน? สำหรับเพื่อน ๆ ที่เดินทางไปชอปปิงเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ เวียดนาม จีน ทริประยะสั้น ๆ แบบนี้ก็สามารถใช้กระเป๋าล้อลากได้สบาย ๆ หรือเพื่อน ๆ คนไหนเดินทางไปเที่ยวกับทัวร์ก็สามารถเลือกใช้กระเป๋าเดินทางแบบล้อลากได้เช่นกัน เพราะมีรถทัวร์และพนักงานคอยบริการเรานั่นเอง ใครมีแพลนไปเที่ยวภูเขา เที่ยวป่า ในโซนภาคเหนือ หรือบินลัดฟ้าไปชมหิมะต่างแดน เราแนะนำให้ใช้เป็นกระเป๋าเป้สะพายแบบ Backpack เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะเราสามารถทำอะไรได้คล่องตัวกว่ามาก~ จะเดินลากกระเป๋าบนทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะ ดูไม่น่าจะรอด! ที่สำคัญไม่ควรเลือกใช้กระเป๋าแบบผ้า เพราะมันจะเปียกชื้นง่ายมาก ๆ แนะนำให้ใช้กระเป๋าเดินทางแบบกันน้ำเหมาะสมกว่าน้า~
Tips > กระเป๋าหนักไปใหญ่ไปก็ใช่ว่าจะดี! ควรเลือกขนาดกระเป๋าให้พอดี ที่เราสามารถลากหรือสะพายไปไหนต่อไหนได้สะดวกสบายด้วนะจ๊ะ

5เช็กให้ดีก่อนเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง
ดูวิธีเลือกกระเป๋ากันมาเยอะแล้ว คราวนี้เรามาดูวิธีเช็กกระเป๋าเดินทางก่อนซื้อกันบ้างดีกว่าค่ะ ก่อนซื้อเราต้องพิจารณาเรื่องอะไรบ้างมาดูกัน!
- ซิป : ควรเลือกกระเป๋าเดินทางที่มีซิปแบบ 2 ชั้น ช่วยป้องกันการโดนกรีดหรือซิปแตก
- คันชัก : ควรเป็นคันชักแบบ 2 แขน ลากได้ง่ายกว่าคันชักแบบแขนเดียว พังได้ยากกว่า อย่าลืมลองโยกเพื่อทดสอบความแข็งแรงทนทานด้วยนะ
- ความแข็งแรงทนทาน : ควรเลือกกระเป๋าเดินทางแบบแข็งที่ใช้วัสดุ ABS ซึ่งทนทานต่อแรกกระแทกและป้องกันของแตกหักได้ดีกว่าแบบผ้า
- หูหิ้ว : หูหิ้วควรยึดติดกับกระเป๋าเดินทางเลยจะดีมาก ป้องกันความเสียหายและการแตกหักได้ดี
- เลือกตามสไตล์ที่ชอบ : เลือกสีให้ปัง! เลือกทรงให้โดน! เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่มันกระเป๋าเดินทางของเราชัด ๆ ตัดสินใจให้ดีก่อนซื้อ ซื้อแล้วมาเสียดายทีหลังไม่ได้นะ!
- ช่องเก็บของ : ภายในช่องเก็บของควรมีสายรัดสัมภาระ นอกจากช่วยเรื่องความเป็นระเบียบแล้ว ยังช่วยให้สัมภาระในกระเป๋าไม่กระจัดกระจายอีกด้วย
- ล้อ : แนะนำกระเป๋าเดินทางแบบ 4 ล้อ สามารถเข็นได้ง่ายกว่า 2 ล้อ ประหยัดแรงไว้เที่ยวได้เยอะ ไม่หงุดหงิดระหว่างวัน ซึ่งไม่ควรสูงจากพื้นมากเกินไป ยิ่งสูงยิ่งเสี่ยงต่อการหักง่ายนะจ๊ะ
- การรับประกันสินค้า : ข้อนี้ห้ามลืม! ควรเลือกกระเป๋าที่มีการรับประกันสินค้า เพราะเวลาเดินทางกระเป๋าของเราอาจจะถูกโยนหรือถูกกระแทกขณะที่นำไปจัดเก็บ ถึงขั้นเกิดเหุการณ์ล้อหัก, ด้ามจับหลุด, หูหิ้วหัก, คันชักพัง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่กระเป๋าเดินทางราคาแพงมักจะมาคู่กับบริการและคุณภาพที่ดี ส่งเคลมได้สบายหายห่วง
Tips > ดูรีวิวแต่ไม่ต้องเชื่อรีวิวแบบ 100% แค่นำมาเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจก็พอค่ะ เราแนะนำให้ไปเลือกดูที่หน้าร้าน หรือสอบถามกับพนักงานโดยตรงทั้งเรื่องรับประกัน รุ่นกระเป๋า ยี่ห้อ หรือคุณสมบัติต่าง ๆ จะได้ตรงใจเราที่สุดนั่นเอง~

"Tips วิธีเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง" หวังว่าเราจะช่วยเพื่อน ๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางได้บ้างน้า~ เลือกใบที่คิดว่าใช่ ใช้แล้วสะดวกสบาย และดูเหมาะกับเรานั่นแหละดีที่สุดแล้วค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนมีแพลนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็ขอให้ Good Flights & Good Trip! นะค้า~ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่จุใจเรายังมีที่เที่ยวที่กินเด็ด ๆ ต่างแดนมาแนะนำเพียบ “12 ที่เที่ยวในลอนดอน” และ “10 ร้านอาหารสิงคโปร์เจ้าดัง รสฟินล้ำ”
เรายังมี Tips ที่น่าสนใจให้อ่านอีกเพียบ!