หยุดทั้งทีก็อยากมีเวลาสุนทรีย์ไปกับธรรมชาติบ้าง วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปใช้ชีวิตสไตล์สโลว์ไลฟ์กันที่ "หมู่บ้านแม่กำปอง" ที่เที่ยวเมืองหนาวแต่กับอบอุ่นหัวใจ ชวนฟังเสียงน้ำไหล ระหว่างจิบกาแฟหอมกรุ่น หรือจะนอนดูทางช้างเผือกบนฟ้าก็ดี เรียกได้ว่าทั้งใกล้ชิดกับธรรมชาติ สูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ ชาร์จพลังกายและใจ ให้พร้อมกลับไปลุยงานได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง
การเดินทางทริปแม่กำปอง
สำหรับการเดินทางไป "หมู่บ้านแม่กำปอง" บอกเลยว่าไม่ยาก อาจจะหลายต่อนิดหน่อย แต่รับรองเลยว่าไปถึงแล้วจะรู้สึกว่าคุ้มค่ากับแรงและเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน ฉะนั้นสำหรับใครที่ไม่เคยไปเที่ยวแม่กำปองก็ไม่ต้องกลัวจะหลงทางจนเสียเวลา เพราะเราได้สรุปวิธีเดินทางไปเที่ยวแม่กำปองมาให้เรียบร้อยแล้ว จะมีวิธีไหน ทางใดบ้าง ไปดูกันเลยย~
- รถขนส่งสาธารณะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ เริ่มต้นจาก รถทัวร์จากกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ราคาประมาณ 823 บาท และต่อรถจากท่ารถตู้เชียงใหม่-น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยจะมีทั้งหมด 4 รอบต่อวัน ตั้งแต่ 07:40-14:30 น. หรือถ้าใครต้องการความไว โดยเฉพาะใครที่ไปเที่ยวแม่กำปองกันแบบยกแก๊ง ขอแนะนำให้เหมารถสองแถวจากเชียงใหม่-แม่กำปองได้เลยจ้า
- รถยนต์ส่วนตัว เมื่อเราเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงตัวเมืองเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังน้ำพุร้อนสันกำแพง เส้นถนนตัดใหม่ ตามป้ายสันกำแพง-แม่ออน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็เข้าสู่บ้านแม่กำปองแล้ว

เที่ยวแม่กำปองวันที่ 1

1ชมกล้วยไม้หลากสีที่ "โครงการหลวงตีนตก"
วันแรกหลังจากลงจากเครื่องบิน ก่อนไปที่เที่ยวแม่กำปองเราตัดสินใจแวะเที่ยวเชียงใหม่ให้พอเป็นน้ำจิ้มก่อนกันที่ "โครงการหลวงตีนตก" และ ร้านกาแฟยอดฮิตอย่าง "The Giant Chiang Mai" เพราะร้านนี้อยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านแม่กำปองเลย พิกัดคือหาไม่ยาก เพราะเพื่อน ๆ จะได้สะดุดตากับโรงเรือนที่ปลูกกล้วยไม้พันธุ์ต่าง ๆ ที่มีสีสันสวยงามสะดุดตามาแต่ไกลมาก ใครที่ชอบกล้วยไม้นี่บอกเลยว่าต้องแวะ ที่นี่มีอาหารเครื่องดื่ม แถมยังเป็นที่พักแม่กำปองสวย ๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยนะ


เจอแบบนี้ต้องถ่ายรูปรัว ๆ

ใครชอบกล้วยไม้ต้องมาที่นี่เลย
2จิบเครื่องดื่ม โหนสลิงที่ "The Giant Chiangmai"
เป้าหมายต่อไปคือ "The Giant Chiangmai" ที่เคยได้ยินชื่อเสียงมาว่าเป็นร้านกาแฟที่อยู่บนต้นไม้จึงขอแวะเข้าไปเช็กอินให้เห็นกับตาสักหน่อย บรรยากาศร้านนี้ต้องบอกว่าถ้ามาต้องร้องว้าวแน่นอน ยิ่งสายถ่ายรูปทั้งหลายต้องแวะเลยจริง ๆ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต้อนรับนักท่องเที่ยวเยอะมาก โดยเฉพาะไฮไลต์ตรงทางเดินที่เป็นสะพานลิงและกิจกรรมโหนสลิงให้ไปเล่นได้ด้วย ถูกอกถูกใจสายผจญภัยแน่นอน ใครมาเที่ยวแม่กำปองบอกเลยว่าห้ามพลาด


พื้นที่กว้างมาก ๆ

สถานที่เที่ยวเชียงใหม่สุดมันส์
3นอนดูดาวที่ "บ้านอิงดอย"
จุดหมายในการพักผ่อนของเราในครั้งนี้เราเลือกพัก "บ้านอิงดอย" ที่พักแม่กำปองสุดชิล ที่มาในรูปแบบของบ้านพัก 2 ชั้น มีที่จอดรถสะดวกสบาย และมีบ้านเป็นหลังสำหรับครอบครัวอีกประมาณ 3 หลัง ที่พักแม่กำปองแห่งนี้มีค่าใช้จ่ายประมาณ 650 บาท / คน จะนอนกี่คนในห้องก็ได้นะ ถือว่าคุ้มสุดอะไรสุด!

นอกจากนี้ "บ้านอิงดอย" ที่พักแม่กำปองแนวมีการตกแต่งให้ออกมาแนวบ้านไม้เก่าล้อไปกับสถาปัตยกรรมในหมูบ้านแม่กำปอง ห้องพักกว้างขวาง ผ้าปูเตียง หมอน ผ้าห่มสะอาดมากครับ ที่นี่ไม่มีแอร์ ไม่มีตู้เย็น ไม่มีทีวี เพราะอยากให้แขกที่มาพักได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ของที่เที่ยวแม่กำปองอย่างเต็มที่

ที่พักเชียงใหม่ที่ให้คุณได้กลับมาอยู่กับธรรมชาติแบบเต็ม ๆ

เป็นบ้านไม้ที่น่ารักมากกก
แถมวันนี้โชคดีเราได้เห็นการคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่ "บ้านอิงดอย" พอดี ซึ่งนอกจากจะเป็นที่พักแม่กำปองสุดชิลแล้ว ยังมีร้านกาแฟไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดจะเน้นทำกาแฟดริปจากเมล็ดกาแฟสายพันธ์ุอะราบิกา นำมาจากหมู่บ้านแม่กำปองชาวบ้านที่ปลูกกาแฟนั่นเอง

เมล็ดกาแฟสายพันธ์อราบิก้า

หอมกรุ่น ถูกใจคอกาแฟครับ
และอีกหนึ่งไฮไลต์สำหรับของที่พักและที่เที่ยวแม่กำปองก็คือ เราสามารถถ่ายดาวหรือภาพทางช้างเผือกได้ โดยบริเวณของที่พักเลยแต่อาจจะต้องดึกสักหน่อย เตือนก่อนเลยว่าอากาศหนาวมาก ถ่ายกันอยู่ครึ่งชั่วโมงก็ต้องกลับเข้าห้องพักแล้ว แต่ประทับใจมากเช่นกัน

4ชมอาทิตย์ตกดินที่ "กิ่วฝิ่น"
มาเที่ยวแม่กำปองทั้งทีก็ต้องแวะมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิว "กิ่วฝิ่น" เนินผาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,517 เมตรและยังเป็นรอยต่อของจังหวัดเชียงใหม่และลำปาง ซึ่งจากที่เที่ยวแม่กำปองนี้ ถ้าเรามองไปทางด้านในจะเห็นเป็นทางเดินเข้าไปก็สามารถเดินเข้าไปชมพระอาทิตย์ตกดินได้อีกฝั่ง ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที แต่ทางอาจจะเดินลำบากสักหน่อยก็จะเจอวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามสุด ๆ ไปเลย!


ทางเดินก็จะมีต้นไม้สองข้างทาง

พระอาทิตย์กำลังจะลับหายไปในชั้นภูเขา
เที่ยวแม่กำปองวันที่ 2

1เล่น "น้ำตกแม่กำปอง"
เช้าวันรุ่งขึ้นเราออกจากที่พักแม่กำปองมาที่น้ำตกในหมู่บ้าน ที่เที่ยวแม่กำปองที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "น้ำตกแม่กำปอง" ซึ่งเป็นต้นน้ำของที่ไหลไปยังรอบหมู่บ้านแม่กำปอง ไม่ว่าจะเดินไปตรงจุดไหนก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา น้ำตกแห่งนี่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวทางด้านบนได้ด้วยนะทางอาจจะเป็นบันไดชันสักหน่อยแต่ก็เดินได้สะดวกอยู่เหมือนกัน แอบกระซิบให้ไปช่วงหน้าฝน จะชุ่มฉ่ำหัวใจเป็นที่สุด!

ฟังเสียงน้ำไหลเพลิน ๆ

มากับแฟนก็ดี มากับครอบครัวก็เหมาะ
2เที่ยวอุโบสถกลางน้ำ "วัดคันธาพฤกษา"
อีกหนึ่งไฮไลต์ของหมู่บ้านแม่กำปองที่ห้ามพลาดคืออุโบสถกลางน้ำที่ "วัดคันธาพฤกษา" ซึ่งที่เที่ยวแม่กำปองแห่งนี้เป็นวัดเดียวในหมู่บ้านที่มีอายุกว่า 86 ปี ถูกสร้างตามหลักพุทธหลักการคือให้มีสายน้ำล้อมรอบเขตพัทธสีมา และจะสังเกตได้เลยว่าไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนในวัดก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอด ร่มรื่นตลอดแทบจะทุก ๆ ที่เลยทีเดียว

3แวะ "ร้านชมนก ชมไม้"
มาเที่ยวแม่กำปองถ้าใครไม่มา "ร้านชมนก ชมไม้" กับ "ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง" บอกเลยว่าเหมือนมาไม่ถึง เพราะที่เที่ยวแม่กำปองแห่งนี้ถือเป็นซิกเนเจอร์ องหมู่บ้านไปแล้ว ทั้ง 2 ร้านนี้เป็นร้านที่ขายเครื่องดื่มทั้งกาแฟและขนมในบรรยากาศน่ารัก ใกล้ชิดธรรมชาติ ในส่วนของร้านแรก "ร้านชมนก ชมไม้" จุดเด่นของร้านนี้คือการได้ไปนั่งถ่ายภาพบริเวณระเบียงร้านที่ด้านหลังเป็นบรรยากาศมุมสูงของหมู่บ้านแม่กำปอง แนะนำว่าให้มาช่วงเช้าและเย็น แดดกำลังสวย แสงไม่แรง ภาพด้านหลังจะได้ไม่สว่างเกินไป

4ลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง
ส่วน "ร้านลุงปุ๊ด & ป้าเป็ง" ร้านนี้ส่วนตัวชอบขนมต่าง ๆ ของที่ร้านมาก โดยเฉพาะวาฟเฟิล ส่วนบรรยากาศในร้านร่มรื่น เย็นสบาย มีที่นั่งด้านหลังร้านติดลำธารน้ำไหลที่มาจากน้ำตกแม่กำปอง เย็นสบาย บรรยากาศน่านอนมาก ส่วนด้านหน้าร้านก็จะเป็นจุดถ่ายรูปที่หลายคนมาแล้วต้องแวะมาถ่ายรูปสวย ๆ ก่อนจะโบกมือลาที่เที่ยวแม่กำปองแสนชิลแห่งนี้

สรุปค่าใช้จ่าย
- ค่ารถสาธารณะ 800-2,800 บาท
- ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซด์ 200 บาท
- ค่าที่พักบ้านอิงดอย 650 บาท
- ค่าอาหาร 800 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 4,450 บาท

เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะ? กับ ทริปที่เที่ยวแม่กำปอง ชมทางช้างเผือกสุดโรแมนติกฉบับปี 2020 ที่เรานำมาฝาก ทั้งได้ชิลไปกับอากาศแสนบริสุทธิ์แล้ว ยังได้ภาพสวย ๆ กลับไปอัปโซเชียลอีกเป็นกระบุง นอกจากสารพัดที่เที่ยวแม่กำปองที่เราขนมากางในวันนี้แล้ว จังหวัดเชียงใหม่ยังมีที่เที่ยวดี ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติให้ไปตามรอยอีกเพียบกับ 50 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ห้ามพลาด 2020 และสำหรับคนที่หลงใหลในการเที่ยว อย่าลืมกดติดตามเพจ Wongnai Travel กันด้วยจะเจ้า~
ตามไปอ่านบทความที่เที่ยวเมืองหนาวกันต่อได้ที่