“บางกอกน้อย” ย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่า แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาวฝั่งธนฯเลย มีทั้งที่เที่ยวที่กินเด็ด ๆ เพียบ อย่ารอช้าเลย วันนี้เราขอกำเงินเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้น ถ้าพร้อมแล้วออกไปตะลุยหาที่เที่ยวบางกอกน้อยพร้อม ๆ กันเลย!
ตั้งเลียกเส็ง
เอาละ! เรามาเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่า จุดเริ่มต้นของเราในวันนี้เราขอเริ่มกันที่ “บางขุนนนท์” เขตบางกอกน้อยกันก่อน บอกเลยว่าเส้นนี้เนี่ยของกินเพียบตั้งแต่ต้นถนนยันท้ายถนน ไม่เป็นการรอช้า เราขอมาเติมพลังกันก่อนเดินทางที่ร้าน “ตั้งเลียกเส็ง” ร้านบะหมี่ปูเจ้าดัง วันนี้เราได้สั่งเมนู “บะหมี่เนื้อปู ใส่ก้ามปู” (100 บาท) จริง ๆ แล้วมีราคาตั้งแต่ 100-200 บาท ขนาดของก้ามปูก็จะใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามราคาเลย บอกเลยว่าร้านนี้ต้องห้ามพลาด
ผลไม้นายสุง
เพียงแค่เลี้ยวซ้ายออกจากร้านบะหมี่ เดินถัดมาอีกแค่เพียงไม่กี่ก้าวก็จะมีร้านผลไม้เจ้าเก่าที่เปิดมานานกว่า 50 ปี “ผลไม้นายสุง” ที่นี่ก็จะมีทั้งผลไม้สด มะม่วง สับปะรด ฝรั่งแช่อิ่ม มะม่วงดอง มีให้เลือกกันเยอะแยะมาก แวะมาซื้อผลไม้กินกันให้ชื่นใจก่อนเดินทางต่อกัน
Laau Cafe
อากาศร้อน ๆ แบบนี้ เดินมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางซอยบางขุนนนท์เราก็จะเจอร้านคาเฟ่เล็ก ๆ น่ารัก ๆ อย่าง “laau cafe” จากการที่ถามเจ้าของร้านมา ชื่อร้าน laau เป็นภาษาฮาวายแปลว่าต้นไม้ และภายในร้านคาเฟ่แห่งนี้ก็ตกแต่งได้อย่างอบอุ่น มีต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยประดับประดาอยู่ภายในร้าน ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาและสดชื่นเลยทีเดียว ที่สำคัญทางร้านยังมีของแฮนด์เมดและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกขายอีกด้วย เราจึงขอนั่งพักจิบกาแฟคลายร้อนกันสักหน่อย วันนี้เราสั่งเป็นเมนู “กาแฟดริป” (125 บาท) กาแฟคั่วจากเชียงใหม่ รสชาติหอมนุ่ม จริง ๆ ทางร้านยังมีเมล็ดกาแฟให้เลือกอีก เพื่อน ๆ สามารถคุยกับเจ้าของร้านเลือกรสชาติกาแฟที่ต้องการได้เลย
สถานีรถไฟธนบุรี
ไม่รอช้าเราไปกันต่อที่ “สถานีรถไฟธนบุรี” หรือเดิมทีชื่อสถานีรถไฟบางกอกน้อย ที่นี่ยังมีจุดที่สำคัญอยู่ด้านในสถานีรถไฟนั่นก็คือ “โรงรถจักรธนบุรี” เป็นที่จัดเก็บและซ่อมรถไฟทั้งรถจักรดีเซลและรถจักรไอน้ำที่ปัจจุบันมีเหลือให้เห็นในประเทศไทยเพียงแค่ 5 คันเท่านั้น เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่หรือเข้าไปศึกษาดูงานกันได้ จะมีเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้กัน แต่จะต้องติดต่อขอเข้าสถานที่กันก่อนนะ เพราะที่นี่ยังมีรถไฟวิ่งและเข้ามาซ่อมที่อู่กันอยู่ตลอดทั้งวัน การเข้าไปเยี่ยมชมต้องระมัดระวังอาจจะเกิดอันตรายได้
พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
โบกสองแถวมาลงกันต่อที่โรงพยาบาลศิริราช เดินมุ่งตรงมาบริเวณริมน้ำก็จะเจอ “พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน” ที่นี่จะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของการก่อตั้งโรงพยาบาลศิริราช และโรงเรียนการแพทย์แห่งแรก และยังมีการเล่าวิถีชีวิตของชุมชนบางกอกน้อยอีกด้วย ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่เราอยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้มากัน เพราะมีหลายจุดให้ได้เดินชมกัน พร้อมทั้งยังมีที่ถ่ายรูปอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกที่ที่สนุกและได้ความรู้ไปพร้อม ๆ กันเลย
ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน
- ต่างชาติ 200 บาท
- ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 80 บาท
- เด็ก (อายุไม่เกิน 18 ปี) 25 บาท
- เปิดให้บริการวันจันทร์, พุธ-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. (หยุดทุกวันอังคารและวันนักขัตฤกษ์)
เดินออกมาด้านนอกพิพิธภัณฑ์บริเวณโรงพยาบาลศิริราช ก็ยังมีพื้นที่สงบ ๆ ให้ได้ถ่ายรูปชมวิวคลองบางกอกน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
ตลาดวังหลัง
และที่สุดท้าย หากมาเที่ยวบางกอกน้อยแล้วไม่แวะมาเดิน “ตลาดวังหลัง” ก็เหมือนจะขาดอะไรไป ที่นี่ถือว่าเป็นตลาดดัง หากใครแวะเวียนมาโรงพยาบาลก็ต้องแวะมาเดินเล่น ชอปปิงหาของกินกันอยู่สักหน่อย ที่นี่มีเสื้อผ้ามือสองสวย ๆ ราคาถูกเพียบเลย แถมของกินก็ยังเด็ด ราคาไม่แพงอีกด้วย ก่อนจะจบทริปเราก็แวะซื้อเสื้อผ้า และฝากท้องกันก่อนที่ ร้านอรทัย ร้านซูชิเจ้าดังราคาแสนถูก เราได้สั่งเมนู “ราเมนโชยุ” (89 บาท), ทาโกะยากิ (50 บาท) บอกเลยว่าอิ่ม ฟินได้ในราคาไม่แรงเลย
สรุปค่าใช้จ่าย
- บะหมี่ปู ร้านตั้งเลียกเส็ง 100 บาท
- ผลไม้ ร้านผลไม้นายสุง 30 บาท
- กาแฟ ร้าน laau cafe 125 บาท
- ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน 80 บาท
- ค่าอาหาร ร้านซูชิอรทัย 139 บาท
- ค่ารถสองแถว 16 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างกับทริป เที่ยวบางกอกน้อย งบ 500 ก็เอาอยู่! กิน เที่ยว ชอปปิง ถ่ายรูป บอกเลยว่าถูกและดีมีอยู่จริง วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ออกไปเที่ยวจำกัดงบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เสียเงินไม่เยอะ ได้เที่ยว ได้กิน ได้ถ่ายรูปแถมยังได้ชอปปิงอีก เป็นอะไรที่ดีจริง ๆ ถ้าหากเพื่อน ๆ กำลังมองหาที่เที่ยวแบบนี้อีกก็ตามไปดูกันเลยได้ที่ เที่ยวกรุงเทพฯย่านเมืองเก่า ใกล้สถานีสนามไชย โฮสเทลกรุงเทพฯสุดอาร์ต เราจะไปที่ไหนต่อกันอีก กดไลก์และติดดาวเพจ Wongnai Travel ไว้ได้เลย แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าจ้า
ติดตามบทความอื่น ๆ กันได้ที่
