ญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศแล้ว แล้วทุกคนพร้อมรึยังที่จะกลับไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกครั้ง! บอกเลยว่า 2-3 ปีที่เราไม่ได้บินไปญี่ปุ่นกันนั้น เขามีอะไรอัปเดทเยอะมาก ๆ ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป สำหรับทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยว “โอซาก้า” กัน ซึ่งสายเที่ยวรู้ว่าเมืองทางใต้ของญี่ปุ่นแห่งนี้มีครบทุกมิติ แถมวันนี้ Thai Vietjet Air เปิดเที่ยวบินตรงจาก “เชียงใหม่” ไปเลยจ้า ไม่ต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ แล้ว พร้อมแล้วตามไปเที่ยวกันเลยจ้า
เริ่มต้นเที่ยวสบาย ๆ กันในเมืองกับย่าน Namba-Dontonburi ที่มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และร้านอาหารมากมาย ที่อยู่กันได้ตั้งแต่เช้ายันมืดค่ำ
คาเฟ่แพนเค้กเจ้าดังที่มีเมนูแพนเค้กหลากหลายทั้งคาวหวานหน้าตาน่ากินจนจิ้มกันไม่ถูก ทีเด็ดของร้านนี้คือความนุ่มของเนื้อแป้งแพนเค้ก สั่งกินคู่กับเครื่องดื่มร้อน ๆ สักแก้ว รับรองว่าเป็นอีกหนึ่งมื้อเช้าที่ได้ประทับใจกันแน่นอน
ถ้าใครที่แวะไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะยอดฮิตแล้ว ลองเดินเท้ามาอีกสักหน่อย ก็จะเจอกับศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ ที่มีความโดดเด่นด้วยหัวสิงโตหน้าดุขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ถามว่าใหญ่แค่ไหน ก็แค่ 17 เมตรเท่านั้นเอง! งานไม่ใหญ่แน่นะวิ
เมื่อนึกถึงซีฟู้ด ต้องยกให้ตลาดคุโรมงแห่งนี้ เป็นตลาดที่อยู่กลางใจเมือง มีร้านขายอาหารทะเลมากมาย ที่พร้อมปรุงกุ้ง หอย ปู ปลาแบบสด ๆ ให้กินได้ทันที นอกจากนี้ก็ยังมีผักผลไม้ และของใช้ต่าง ๆ ให้ช้อปอีกด้วย เดินกันไปยาว ๆ ครึ่งโลจ้า
ร้านราเมงตัวท็อปของโอซาก้า ที่คิวยาวจนไม่ต้องสงสัยว่ารสชาติอยู่ในระดับไหน โดยเมนูเด็ดของที่ร้านคือ จูกะโซบะ ซึ่งเป็นราเมงตำรับท้องถิ่น ที่มีรสชาติอ่อน ๆ มีความเปรี้ยวหวานที่ปลายลิ้น ซึ่งนอกจากนี้อีกสิ่งที่ต้องสั่งก็คือซูชิปลาซาบะ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินของบ้านเกิดเจ้าของร้านที่เมืองวากายามะนั่นเอง
หมู่บ้านอเมริกา เป็นที่เที่ยวสุดฮิปของวัยรุ่นโอซาก้า ซึ่งมีร้านค้าเก๋ ๆ ร้านอาหารเจ๋ง ๆ มากมาย แบรนด์นอกมากันเพียบ อย่างร้าน Flying Tiger ที่ฝั่งยุโรปคุ้นตากันเป็นอย่างดี ในความถูกและดีของสินค้าลุคเก๋ของร้าน หรือจะเป็น Asoko ของฝั่งญี่ปุ่นเองก็ชวนเสียทรัพย์ไม่แพ้กัน
หนึ่งในร้านยอดฮิตของคนไทย ที่รวมเอาสินค้าอุปโภคบริโภคแบรนด์ญี่ปุ่นราคาดีไว้ในที่เดียว มีตั้งแต่ขนมของฝาก ไปจนถึงนาฬิกา รองเท้า และกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง และความพิเศษของสาขานี้คือ ด้านหน้าร้านเป็นชิงช้าสวรรค์ ที่สามารถขึ้นไปชมวิวย่าน Dotonburi ได้
สายขนมหวานพลาดไม่ได้กับร้านนี้ ซึ่งเป็นร้านที่ขายแค่ชีสเค้ก ซึ่งเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นไปที่ความนุ่มฟู ไม่เลี่ยนเหมือนชีสเค้กของฝั่งตะวันตก โดยที่ร้านจะมีการอบเป็นรอบ ๆ เมื่ออบเสร็จ ทางร้านก็จะสั่นกระดิ่ง คนก็จะมายืนต่อคิวกันเพื่อซื้อชีสเค้กอบสดใหม่
หนึ่งในร้านอิซากายะทะเลย่างที่คนไทยต่างไปกินแล้วก็ติดใจในเมนูมันปูย่าง และไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่ชื่นชอบ คนญี่ปุ่นก็เช่นกัน! ทำให้อาจจะมีคิวเยอะสักหน่อยสำหรับร้านนี้ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะว่าจริง ๆ แล้วร้านนี้มีหลายสาขาทั่วญี่ปุ่น และเปิด 24 ชั่วโมง
ถ้าใครมีแผนจะไปเที่ยว Universal Studio แล้ว ต้องอุทิศวันทั้งวันให้กับที่นี่ที่เดียว ด้วยความใหญ่โตอลังการ มาพร้อมกับโซนใหม่อย่าง Super Nintendo World เพราะฉะนั้นร้านอาหารก็จะต้องหากินแบบใกล้ ๆ เลยอยากจะแนะนำเป็นร้านอาหารที่อยู่ในโซนของ Universal Citywalk Osaka ซึ่งมีร้านค้าร้านอาหารมากมาย ซี่งอยู่ด้านหน้าของสวนสนุก
ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันที่เปิดเช้ากันตั้งแต่ 7 โมง เหมาะสำหรับใครที่ต้องการข้าวเช้า หากาแฟกินก่อนเข้าสวนสนุกให้ทันเวลาเปิด ซึ่งบางวันสวนสนุกก็จะเปิด 08.30 น. บ้าง 09.30 น. บ้างแล้วแต่ช่วง ที่ร้านมีทั้งเมนูกาแฟมากมาย อาหารเช้าแบบง่าย ๆ พวกขนมปังต่าง ๆ นานา
ถ้าพูดถึงโอซาก้าแล้ว Universal Studio Japan ก็เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่า ห้าม พลาด ด้วยประการทั้งปวง! เพราะมันเป็นสวนสนุกระดับโลกที่รวบรวมเอาเครื่องเล่นจากภาพยนตร์ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น Harry Potter, Jurasic Park, Minion หรือโซนใหม่อย่าง Super Nintendo World
เมื่อนึกถึงโอซาก้าแล้ว ทาโกะยากิก็เป็นหนึ่งในอาหารประจำจังหวัดที่ใครมาแล้วต้องลอง ซึ่งที่นี่จะเป็นคล้าย ๆ กับศูนย์อาหารที่รวมร้านทาโกะยากิหลากหลายร้านมาไว้ในที่เดียว ใครที่คิดว่าทาโกะยากิเป็นแค่อาหารกินเล่น เปลี่ยนความคิดได้เลยถ้าได้มาที่นี่ เพราะจะร้านไหนก็ดูน่ากินไปซะหมด ชิมกันจนท้องตึงหนังตาหย่อนกลับที่พักแน่นอน
กลับมาตั้งต้นกันที่สถานีใหญ่อย่าง Osaka พร้อมแพลนครึ่งเช้าไปเช็คอินสถานที่ที่เรียกได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองโอซาก้านั่นก็คือ “ปราสาทโอซาก้า” ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีออกไปหน่อยหนึ่ง ก่อนจะวกกลับเข้ามาเที่ยวใกล้ ๆ สถานี และปิดท้ายด้วยร้านซูชิสุดฟินที่ใครกินเป็นต้องฝันหวาน
อีกหนึ่งร้านอาหารเช้าที่มีเมนูห้ามพลาดเป็นแพนเค้กวิปครีมพูน ๆ ที่เหล่า Instgramer อยากจะถ่ายรูปไว้ประทับ Profile กันสักแช๊ะ แล้วก็ยังมีเมนูอาหารเช้าอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น Egg Benedict หรือ Scrambled Egg และเครื่องดื่มร้อนต่าง ๆ
ถ้ามาโอซาก้าแล้ว ไม่ได้มาปราสาทโอซาก้าก็เหมือนมาไม่ถึง! ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่มาก! แล้วมาตั้งอยู่กลางเมืองด้วยนะ เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยเราสามารถเดินขึ้นไปบนปราสาทเพื่อชมวิวเมืองโอซากาได้อีกด้วย
ตังค์พร้อม ใจพร้อม ออกไปล่าดาวกัน กับร้านอาหารหรูระดับ Fine-dining ที่เสิร์ฟอาหารยุโรป ที่แน่นอนว่าถ้าอยากกินจะต้องทำการจองล่วงหน้า เพราะที่ร้านมีเพียง 16 ที่เท่านั้น โดยเชฟจะคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ ตามฤดูกาล นำมาปรุงโดยการดึงรสของวัตถุดิบออกมาให้มากที่สุด
สวนสาธารณะขนาดใหญ่แห่งแรกของเมืองโอซาก้า ที่ห้อมล้อมด้วยแม่น้ำโดจิมะกาวะและแม่น้ำโทซาบาริกาวะ มีสวนกุหลาบ (ที่ไม่ใช่โรงเรียน แฮร่!) ที่มีมากกว่า 3,700 ต้น ซึ่งจะสวยมากในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม
นักเรียนนักศึกษาฟังทางนี้ ถ้าอยากได้ดิบได้ดี มาขอพรกันได้ที่ศาลเจ้าเทนมานกุ ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของโอซาก้า ที่เด็ก ๆ นิยมมาขอพรเรื่องการเรียน เพราะตามความเชื่อที่นี่มีเทพแห่งปัญญาสถิตอยู่ แล้วในวันที่ 24-25 ก.ค. ของทุก ๆ ปีก็จะมีงานเทศกาลที่มีการจุดดอกไม้ไฟอีกด้วย
ร้านซูชิหน้าล้นที่ใครเห็นเป็นต้องอยากกินกันทั้งนั้น เพราะแต่ละเมนูนั้นให้เครื่องให้หน้ากันมาแบบจุก ๆ จนมองแทบไม่เห็นข้าว แถมยังมาในราคาที่สมเหตุสมผลไม่เว่อร์วังจนต้องขายรถขายบ้าน และแน่นอนว่าคุณภาพวัตถุดิบดีสดใหม่ไม่มีคาว
ยังวนเวียนอยู่กับแถวสถานี Osaka เพราะแถวนี้มีสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และร้านอาหารอีกมากมายที่ยังต้องเก็บให้ครบ
ร้านอาหารกันตายที่เหมือนจะสิ้นคิด แต่บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะที่ร้านนี้มีเมนูอาหารญี่ปุ่นหลากหลายเท่าที่เราจะนึกออก จัดมาเป็นเซ็ตกินง่ายกินไวราคาประหยัด แถมยังมีให้กินกันตั้งแต่เช้ายันดึก และถึงแม้จะมีสาขาที่เมืองไทย แต่บอกเลยว่ารสชาตินั้นปังกว่าแน่นอน
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญของโอซาก้าก็คือนึกรูปทรงล้ำตึกนี้ ซึ่งภายในตึกนั้นมีทั้งสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่จัดงาน โรงภาพยนตร์ ด้านบนเป็นจุดชมวิวเมืองโอซากาที่สวยงาม ทำให้เป็นสถานที่ที่มีความคึกคักอยู่เสมอ
ร้านโอโคโนมิยากิที่มีลักษณะเป็นเคาน์เตอร์บาร์ แล้วมีเตาร้อน ๆ อยู่ตรงหน้าเรา โดยเชฟจะทำโอโคโนมิยากิมาให้เรา แล้ววางบนเตาให้ร้อนอยู่เสมอ บอกเลยว่ากินหนาว ๆ คือฟินเว่อร์ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูยากิโซบะ แล้วก็ของย่างอีกด้วย
ต้องบอกว่า LOFT ที่เมืองไทยและญี่ปุ่นนั้น มาในคอนเซปต์ที่เหมือนกัน คือการขายเครื่องเขียน และของสารพัดสิ่ง แต่ต้องมีไอเดียล้ำ จนเห็นแล้วต้องอยากช้อป และแน่นอนว่าสินค้าญี่ปุ่นนั้น มีความคิดสร้างสรรค์อันแน่นอยู่มากมาย ทำให้เป็นอีกหนึ่งร้านค้าที่ขาช้อปไม่ควรพลาด
ชิงช้าสวรรค์สีแดงขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งเช็คพอยท์สำคัญที่มาโอซาก้าแล้วจะต้องเห็นแล้วอดยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้ ซึ่งถ้าใครได้มีโอกาสขึ้นไป ก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองโอซากาอย่างเต็มตาแบบ Panorama สวยงามประทับจิตประทับใจแน่นอน
ปิดท้ายด้วยร้าน Kushikatsu หรืออาหารเสียบไม้ทอด ที่มีสารพัดวัตถุดิบนำไปชุบแป้งแล้วทอดกรอบ ๆ กันไม้ต่อไม้ กินพร้อมเครื่องดื่มมีฟองเย็น ๆ รับรองว่าฟินสบายตัวแน่นอน ถามร้านยังเปิดดึกถึงห้าทุ่มด้วยอีกนะเออ
วันสุดท้ายเผื่อเวลาเดินทางไปสนามบินกันสักนิด เลยจะขอเที่ยวไม่หนักมาก แต่ยังคงได้กินร้านดี ๆ ที่ไม่ควรพลาด แล้วก็เก็บอีกหนึ่งจุดเช็คอินยอดฮิตที่ต้องมีรูปถ้ามาเที่ยวโอซาก้า
ใครที่เคยวางแผนหาที่เที่ยวที่กินในญี่ปุ่น คงจะเคยผ่านตากับร้าน “ราเม็งข้อสอบ” กันมาบ้าง ซึ่งถามว่าทำไมถึงเอาร้านราเม็งขึ้นมาเป็นสถานที่ที่แรกของวัน เพราะว่าร้านราเม็งข้อสอบนี้เขาเปิด 24 ชั่วโมง! ใช่ มันแปลว่าเราสามารถกินราเม็งเป็นอาหารเช้าได้จ้า แถมกิมมิกสนุก ๆ อย่างการเลือกราเม็งผ่านการทำข้อสอบ แล้วก็ระบบการเสิร์ฟที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ทำให้รู้สึกสดใสกันได้ตั้งแต่เช้า
หนึ่งในสถานที่ที่มีคนมาถ่ายรูปมาที่สุดจุดหนึ่งของโอซาก้านั่นก็คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังแห่งนี้ ซึ่งมีทั้งโซนอุโมงค์ปลามุมมหาชน โซนป่าจำลอง แล้วก็ไฮไลต์สุดปังคือ ปลาฉลามวาฬ ซึ่งเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกให้ดูกันอีกด้วย
ชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ชมวิวริมอ่าวโอซาก้า ที่ถ้ามาที่อควาเรียมแล้วก็จะต้องเห็นสิ่งนี้ ซึ่งความพิเศษของชิงช้าสวรรค์แห่งนี้คือ จะมี 8 กระเช้าจาก 60 กระเช้าที่เป็นแบบใส มองทะลุได้ทุกด้าน ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการหมุนให้ครบหนึ่งรอบ แถมกลางคืนก็ยังตกแต่งไฟไว้อย่างสวยงาม
แล้วถ้าเรารออยู่ดูไฟที่ชิงช้าสวรรค์ เราก็อาจจะพลาดการมากินกิวคัตสึ หรือเนื้อชุบแป้งทอดที่ร้านนี้ ซึ่งไม่อยากให้พลาดเลย เพราะร้านนี้เด็ดมาก ๆ ด้านนอกเขาจะมีความกรอบ แต่ด้านในยังเป็นเนื้อแดง ๆ นุ่ม ๆ อยู่ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองยังต้องมาต่อแถวรอกินเหมือน ๆ กับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ
เห็นที่เที่ยวแบบนี้แล้วเกิดอาการอยากกดตั๋วไปเที่ยว “โอซาก้า” กันรึยัง ถ้าหัวใจสั่งมาแล้ว ก็เข้าไปจองตั๋วได้ที่ VietJetAir.com และติดตามไฟลท์บินหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official @Thaivietjet และที่ Facebook VietJetThailand
