แปดริ้ว = ฉะเชิงเทรา, ฉะเชิงเทรา = แปดริ้ว ว่ากันว่าชื่อ “แปดริ้ว” น่ะมีที่มาจากเมืองซึ่งมีแม่น้ำบางปะกงไหลผ่านแห่งนี้สมบูรณ์มาก มีปลาช่อนชุกชุม ตัวของพวกมันใหญ่เสียจนเวลาแล่นั้นต้องแล่ถึงแปดริ้ว แต่ทริปนี้เราไม่ได้จะมาหาปลาช่อนกันหรอกครับ จะพามาไหว้พระ ดูนกแก้วพันธุ์แท้หายากในสวนปาล์ม ปั้นดินเหนียว ชิมนมควาย กันต่างหาก… อ้อ มีพาไปแวะจิบกาแฟกินของหวานที่ริมแม่น้ำบางปะกงด้วยครับ ชักไม่แน่ใจแล้ว เราอาจได้เจอปลาช่อนตัวใหญ่แถวนั้นก็ได้เนอะ มาเริ่มที่แรกกันเลยดีกว่า
1วัดโสธรวรารามวรวิหาร
ที่ตั้ง ถ.เทพคุณากร ต.หน้าเมือง อ.เมือง
ที่เที่ยวแปดริ้วแห่งแรกที่ใครก็ใครต่างก็รู้จักกันดี คือ วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือที่เราเรียกกันคุ้นปากว่า “วัดหลวงพ่อโสธร” วัดนี้อยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา ตามประวัติเล่าว่าพระพุทธรูปองค์นี้ลอยน้ำมาอย่างปาฏิหาริย์ จากนั้นมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัด
โบสถ์สวยงามหลังใหญ่โตของวัดหลวงพ่อโสธรมียอดมณฑปสูงถึง 85 เมตร เหนือยอดเป็นฉัตรทองคำ 5 ชั้น ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ถูกสร้างขึ้นครอบโบสถ์หลังเดิมเพื่อรองรับผู้คนที่มาสักการะหลวงพ่อโสธรเป็นจำนวนมาก
มีเรื่องเล่าน่าสนใจบอกว่า ตำแหน่งที่ประดิษฐานองค์พระนั้นเป็นตำแหน่งที่ทำให้บ้านเมืองฉะเชิงเทราเจริญรุ่งเรือง ในการก่อสร้างจึงห้ามขยับเขยื้อนองค์พระ (ทั้งหลวงพ่อโสธรและพระพุทธรูปอื่นอีก 18 องค์) เด็ดขาด เรียกว่าต้องใช้เทคนิคและระมัดระวังกันมาก กว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้น
ภายในส่วนกลางของโบสถ์หลังใหม่เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรองค์จริง (มีโบสถ์ข้าง ๆ เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์จำลอง ไว้สำหรับคนที่จะกราบไหว้ จุดธุป บอกกล่าวเพื่อแก้บน) มีภาพ จิตรกรรมฝาผนังอยู่ทั่ว ทั้งบนพื้น เสา ผนัง และเพดาน เรื่องราวที่ปรากฏในภาพนั้นเกี่ยวกับมหาสมุทรสีทันดร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาล
ไปเที่ยววัดหลวงพ่อโสธรแล้วอย่าลืมเหลือบมองข้างบนเพดาน จะเห็นภาพดาวที่กำหนดตำแหน่งตามดาราศาสตร์ตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นวันยกยอดฉัตรทองคำ
2กำแพงเมืองฉะเชิงเทรา
ที่ตั้ง ถ.มรุพงษ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง
กำแพงเมือง หรือ “ป้อมเมืองฉะเชิงเทรา” ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูรุกรานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2337 กรมหลวงรักษ์รณเรศร์เป็นแม่กองก่อสร้าง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการใช้กำแพงเมืองนี้เป็นที่ตั้งมั่นกองทัพในการปราบกบฏอั้งยี่ ซึ่งเป็นพ่อค้าฝิ่นชาวจีนที่ก่อความวุ่นวายปล้นสะดมชาวเมือง
ตั้งแต่ พ.ศ. 2497 กำแพงเมืองฉะเชิงเทราได้รับการบูรณะ และขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ และจัดเป็นสวนสาธารณะ ชื่อ “สวนมรุพงษ์” เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ ชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำบางปะกง บริเวณกำแพงเมืองยังเหลือปืนใหญ่ให้ชมกันได้
3ท่าน้ำคาเฟ่
ที่ตั้ง ถ.มรุพงษ์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง โทร. 08-3114-9333
“ท่าน้ำคาเฟ่” ร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่บรรยากาศดีเวอร์ ด้านหลังร้านมีที่นั่งติดริมแม่น้ำบางปะกงด้วยนะ! แถวบริเวณท่าน้ำคาเฟ่เรียกกันว่าซอยท่าแห มีร้านขายอุปกรณ์และเครื่องมือด้านการประมง รวมถึงร้านจักสานต่าง ๆ อยู่ ตัวอาคารเหล่านั้นเป็นเรือนไม้เก่าซะด้วย ถ้าขับรถมาเอง เลยร้านไปประมาณ 600 เมตรจะมีที่จอดรถอยู่บริเวณริมน้ำใต้สะพานเลย
การตกแต่งท่าน้ำคาเฟ่ออกแนวโมเดิร์นวินเทจ ใช้ไม้เป็นส่วนประกอบเสียเยอะ มีที่นั่งทั้งในร้านแอร์เย็นและนั่งนอกแบบ Open air ลุยที่เที่ยวแปดริ้วแห่งอื่นมาเหนื่อย ๆ เปลี่ยนมานั่งคุยพร้อมสูดกลิ่นกาแฟหอม ๆ ละมุน ๆ เจอมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ก็แชะ เช็กอิน แชร์รูปเบา ๆ เป็นการพักที่เพลินดี
สำหรับใครที่ชอบกินไอศกรีมหรือขนมเค้ก มาร้านท่าน้ำคาเฟ่แนะนำเลย เค้กมะพร้าวอ่อนเสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวแยกมาให้เพิ่ม พร้อมด้วยไอศกรีมกะทิไข่แข็ง บอกเลยฟินมาก หวานมัน กลมกล่อมเข้ากันดี
4สวนปาล์มฟาร์มนก
ที่ตั้ง ต.บางตลาด อ.คลองเขื่อน โทร. 08-0587-1911, 08-1868-1174, 08-1372-1196
“สวนปาล์มฟาร์มนก” มีเนื้อที่มากกว่า 100 ไร่ ที่เที่ยวแปดริ้วแห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้และอนุรักษ์สายพันธุ์นกแก้วมาคอร์ รวมทั้งสัตว์ปีกสวยงามสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่หาดูได้ยากจากทั่วโลก และมีปาล์มหลายสายพันธุ์จัดเป็นสวนร่มรื่นให้เดินชม
เข้ามาด้านหน้าเราจะพบกับสวนหย่อมเล็ก ๆ ที่มีนกมาคอร์สีสันสดใสคอยต้อนรับอยู่ ฝูงหงส์ดำในพื้นที่ทะเลสาบก็น่ารักมาก ๆ เราสามารถให้อาหารหรือถ่ายรูปกับพวกมันก็ได้นะ
ต่อไปเป็นโซนนกและสัตว์ปีก เราจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ทางด้านล่าง ให้ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ จากตรงนี้สามารถนั่งดูนกแก้วมาคอร์ในกรงนกใหญ่ได้ด้วย
กรงนกใหญ่ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่! เพราะเป็นที่ที่เหล่านกจะบินไปมาได้เป็นอิสระ และให้ผู้ที่อยากเข้าไปใกล้ชิดกับเจ้าพวกนกน่ารักเหล่านี้เข้าไปข้างในได้ โดยต้องแจ้งเจ้าหน้าด้านหน้าเสียก่อน และเขาจะให้มีการล้างมือทำความสะอาดเรียบร้อยก่อน นกแก้วมาคอร์ในกรงใหญ่นี้เป็นสายพันธุ์ ไฮยาซินพันธุ์แท้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งนกแก้ว” ปกติแล้วแต่ละตัวมีมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทเชียวนะ
ขึ้นไปบนชั้น 2 เป็นศูนย์อนุบาลลูกนก ทางฟาร์มมีห้องแล็บที่ได้มาตรฐานสำหรับเพาะเลี้ยงลูกนก ซึ่งส่วนหนึ่งจะนำมาจัดแสดงในฟาร์มเอง บางส่วนจำหน่ายให้แก่ผู้ที่สนใจนำไปเลี้ยง บนนี้อาจจะมืดสักหน่อยเพราะแสงไฟมีผลต่อการฟักของไข่นกครับ ถ้ามาได้จังหวะดี เราจะได้เห็นการป้อนนมลูกนกด้วย มีสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือ ถ่ายรูปบริเวณนี้ห้ามใช้แฟลชนะครับ
5คุ้มวิมานดิน
ที่ตั้ง ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน โทร. 08-7825-1338
“คุ้มวิมานดิน” สถานที่ผลิตและจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาที่เปิดให้คนภายนอกเข้าชม พื้นที่กว้างขวางถึง 8 ไร่ เป็นที่เที่ยวแปดริ้วอีกแห่งที่เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนและวันสบาย ๆ ของทุกคนในครอบครัว บริเวณด้านหน้าจะเป็นจุดจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผา อะไรที่แขวนหรือวางอยู่ สามารถซื้อกลับได้ทุกชิ้นนะครับ
ถ้าใครสนใจทำกิจกรรมสนุก ๆ จะลองปั้นดินเหนียวด้วยตัวเองก็ได้ ดินปั้นเป็นดินเหนียวของคุ้มวิมานดินผสมกับทรายละเอียดในสัดส่วนที่พอดี ปั้นไม่เป็นหรือไม่เคยลองมาก่อนก็ไม่เป็นไร เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ปั้นเสร็จสามารถนำกลับบ้านได้เลย หรือจะฝากไว้ให้ทางคุ้มวิมานดินเผาเพื่อให้ดินเซตตัวก็ได้ครับ แต่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครับ ก่อนเขาจะส่งกลับคืนไปยังเจ้าของชิ้นงานให้
จุดเด่นของคุ้มวิมานดินอีกอย่างที่น่าจะโดนใจนักท่องเที่ยวคือบรรยากาศโดยรวมซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนมาก ๆ เพราะทุก ๆ มุมดูจะเต็มไปด้วยงานศิลปะ ทั้งบ้านดิน ซุ้มเรือนไม้ริมน้ำ ห้องน้ำเก๋ ๆ หรือมุมร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เตรียมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเพียบพร้อม เรียกได้ว่าอยู่กันเพลิน ๆ นั่งเล่นกันยาว ๆ ได้สะดวกเลยทีเดียวสำหรับที่นี่
6วัดปากน้ำ (โจ้โล้)
ที่ตั้ง ต.บางคล้า อ.บางคล้า
ที่ "วัดโจ้โล้" นี้เราจะได้ชมโบถส์หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ทาสีทองทั้งหลัง ทองไปหมดทั้งในและนอกโบสถ์ งดงามตระการตาเป็นอย่างมาก ในอดีต วัดปากน้ำโจ้โล้เป็นสำนักสงฆ์ เคยเป็นบริเวณที่ตั้งของทัพพม่าสมัยปลายอยุธยา ซึ่งได้ยกทัพบกทัพเรือเข้าปะทะกับกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสิน ต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงมีชัย จึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของที่นี่! คือลอดใต้ฐานพระประธานในโบสถ์สีทอง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตครับ
7มินิ มูร่าห์ ฟาร์ม
ที่ตั้ง ถ.หนองแบน-ท่าข้าม ต.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ โทร. 08-1819-2819
“มินิ มูร่าห์ ฟาร์ม” ฟาร์มควายนมสายพันธุ์มูร่าห์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่นี่มีการสาธิต จำลองกระบวนการเลี้ยงควายนมสายพันธุ์มูร่าห์ในรูปแบบปศุสัตว์อินทรีย์ (Organic Farming) ให้แก่ผู้ที่สนใจ รวมถึงเปิดนักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อน สัมผัสบรรยากาศฟาร์มแบบชนบท
ที่เที่ยวแปดริ้วแห่งนี้มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลงไม้ลงมือมากมาย ทั้งการทำพิซซ่าแบบโฮมเมด ทำนา ปลูกผัก ทำไอศกรีม และการให้อาหารสัตว์ต่าง ๆ มุมถ่ายรูปก็เยอะ ร่มรื่นมาก ๆ นี่ถ้ามากันเป็นครอบครัวน่าจะเหมาะ
ไฮไลต์หนึ่งของที่นี่ ที่เห็นเด็ก ๆ กับคุณพ่อคุณแม่ชอบมาเล่นด้วยกัน สไลเดอร์ดินบริเวณที่แสดงการทำนาครับ น่าสนุกทีเดียว
มา มินิ มูร่าห์ ฟาร์ม ทั้งทีก็ต้องชมหรือชิมผลิตภัณฑ์จากนมความกันสักหน่อยครับ จุดจำหน่ายจะอยู่ด้านใน มีให้เลือกดูหลายอย่างมาก ทั้งชีสมอสซาเรลลา โยเกิร์ตนมควาย ลิปมัน โลชั่น สบู่ ไม่รู้จะหยิบอะไรลองจัดนมควายดูก่อนก็ได้ นมควายเนี่ยมีสารอาหารสูงกว่านมวัว ทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ สีนมขาวเนียนชวนดื่ม ไม่มีกลิ่นคาว ดื่มง่ายกว่านมแพะ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสในน้ำนมวัวครับ
แนะนำที่เที่ยวฉะเชิงเทราหรือแปดริ้วมาครบทั้ง 7 แห่งแล้ว มาดูเส้นทางสรุปอีกครั้งกันเนอะว่ามีที่ไหนบ้าง ตามแผนที่ข้างล่างนี้
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเที่ยวแปดริ้วหรือฉะเชิงเทรา 1 วัน เที่ยวจัดเต็มขนาดนี้ก็ยังไม่แพงด้วย ขนาดขึ้นด่วนมอเตอร์เวย์นะ
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมันรถ 400 บาท
ค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ 100 บาท
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 500 บาท
One Day Trip เที่ยวแปดริ้วหรือฉะเชิงเทราที่ยกมาฝากกันนี้เหมาะสำหรับมาเที่ยวเป็นกลุ่ม แก๊งเพื่อนก็ดี มากันเป็นครอบครัวก็สนุก มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย มุมถ่ายรูปคูล ๆ ก็เยอะ ที่สำคัญอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย เดินทางแค่ชั่วโมงหรือชั่วโมงครึ่งก็ถึง อ้อ! แล้วก็เสน่ห์อีกอย่างอยู่ที่ระหว่างทางครับ ทริปนี้ต้องบอกว่า บรรยากาศข้างทางนั้นสวยงามไม่แพ้ปลายทางเลย ผ่านทั้งทุ่งนา คลองส่งน้ำ สวนมะม่วงต่าง ๆ จะว่าไปแล้วที่เที่ยวใกล้กรุงไปเช้า-เย็นกลับได้นี่มีเยอะนะครับ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะไปไหน อยากชวนมาไลก์เพจ Wongnai Travel ไว้ ที่เที่ยวใกล้ ๆ ดี ๆ มีมาแนะนำเพื่อน ๆ เรื่อย ๆ แน่นอน
