ตะลุย! “ที่เที่ยวภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน” แพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปพร้อมกับ ‘พฤท แพ็คเกอร์’ จุดหมายปลายทางการไปเยือนที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวหรือที่เที่ยวหน้าหนาว ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ยอดฮิต! อย่างที่เที่ยวภูทับเบิกของพฤทในคราวนี้.. พฤทตั้งใจจะไปล่าทะเลหมอกสวย ๆ เอาหน้าปะทะไอหมอกฟิน ๆ โดยเริ่มจากนอนเต็นท์ชิลที่ กินหมูกระทะท่ามกลางอากาศหนาว ตื่นเช้ามาล่าทะเลหมอก เก็บกะหล่ำปลีสด ๆ จากไร่ และลงมือปรุงอาหารกินเองครั้งแรก! ทริปนี้จะสมหวังดั่งใจพฤทหรือไม่ เอาใจช่วยพฤทกันด้วยน้า~
DAY 1
เริ่มต้นทริปเท่ียวภูทับเบิก ผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯเวลาประมาณ 09.00 น. ขับรถชิล ๆ แวะกินข้าว เข้าห้องน้ำระหว่างทาง กว่าจะเดินทางไปถึงที่เที่ยวภูทับเบิกก็ราว ๆ 16.00 น. ระหว่างทางขับรถขึ้นเขาจะมีบางจุดที่เขากำลังซ่อมถนนอยู่เล็กน้อย (ขับระมัดระวังกันด้วยน้า) ผมเดินทางมาที่ “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก” ซึ่งที่นี่จะมีบริการให้เช่าเต็นท์ เครื่องนอน มีห้องน้ำ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ครบเลย “ค่าเช่าเต็นท์” (ราคา 900 บาท) เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่สำหรับ 4 คน รวมเครื่องนอน 4 ชุด ซึ่งทางชุมชนก็บอกว่ามีให้เช่าขนาดเดียวเท่านั้นนะจ๊ะ
ชำระเงินค่าเช่าเต็นท์เสร็จ ผมก็ขนเครื่องนอนทั้ง 4 ชุด ไปยังโซนจุดกางเต็นท์ของชุมชน เราสามารถเลือกเต็นท์ที่ชอบได้เลย (เลือกจากหลังที่ว่างนะครับ!) ซึ่งทางชุมชนจะกางเต็นท์เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ชิลสุด ๆ เลยคุณเอ้ย! ใครกางเต็นท์ไม่เป็นอย่างผมก็มาเที่ยวภูทับเบิกได้หายห่วงเลย ฮ่าๆๆ จัดแจงสัมภาระเสร็จก็ได้เวลาเดินทัวร์รอบ ๆ แล้ว~
ซึ่งจุดกางเต็นท์ภูทับเบิกของเราอยู่ติดกับที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิกด้วยนะ มีพื้นที่กว้างขวางและวิวสวยไม่แพ้ที่อื่นเลย จุดเด่นของที่นี่คือ บริเวณรอบ ๆ จุดกางเต็นท์ของเราจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหมูกระทะ และตลาดม้ง ที่รวมของกินแก้หนาวอย่างพวก ไข่ต้ม มันเผา ปาท่องโก๋ และพืชผักผลไม้สด ๆ ที่ชาวบ้านปลูกเองกับมือเชียวนะ
ผมรองท้องด้วย“มันเผา” (ราคา 20 บาท) และ “ไข่ทรงเครื่อง” (ราคา 25 บาท) มันเผาหอม ๆ ร้อน ๆ ยิ่งกินท่ามกลางอากาศเย็น ๆ แบบนี้ มันฟินสุด ๆ แต่วันนี้เรามาเที่ยวถึงภูทับเบิก เราจะพลาดหมูกระทะ! ไม่ได้เด็ดขาดเลยครับ ซึ่งบริเวณจุดกางเต็นท์ของเราก็มีร้านหมูกระทะให้เลือกกินอยู่หลายเจ้า ผมเลือกร้าน “ช่อทิพย์” ร้านหมูกระทะภูทับเบิกที่อยู่ไม่ห่างจากเต็นท์เรามากนัก ผมสั่ง “หมูกระทะชุดเล็ก” (ราคา 299 บาท) และ “น้ำเปล่า” (ราคา 25 บาท) ชำระเงินเสร็จก็ไปนั่งรอที่เต็นท์ได้เลย เพราะทุกร้านจะมีบริการส่งหมูกระทะให้ถึงเต็นท์เลยครับ แค่เราบอกเลขที่เต็นท์ ที่ติดไว้หน้าเต็นท์ก็พอครับ กินเสร็จก็อาบน้ำนอน รอล่าวิวทะเลหมอกพรุ่งนี้เช้า คืนนี้ฝนตกหนัก พรุ่งนี้มีลุ้นว่าเราต้องเจอทะเลหมอกแน่นอน!
DAY 2
เช้านี้อากาศเย็นสบายสุด ๆ แต่โชคร้ายฝนดันตกไม่หยุด! ทำให้เรามองไม่เห็นทะเลหมอก เจอก็แต่หมอกฟุ้ง ๆ ขาว ๆ ที่กระจายอยู่รอบตัวผมตอนนี้.. แต่ผมยังไม่หมดหวัง! วันนี้ผมต้องสัมผัสทะเลหมอกภูทับเบิกให้ได้! (มุ่งมั่นสุด ๆ)
หลังจากผมนอนรออยู่ในเต็นท์ราว ๆ 2 ชั่วโมง ก็ลองออกมาเดินดูอีกที ต้องตะลึงกับภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า “ทะเลหมอกมาแล้ว~” วิวสวยมากกก คุ้มค่าแก่การเดินทางมาเยือนสุด ๆ ใครยังไม่เคยเที่ยวภูทับเบิก ต้องมาให้ได้สักครั้งเลยนะคุณ ที่นี่นับเป็นจุดชิมวิวทะเลหมอกภูทับเบิกที่สวยมาก ๆ อีกจุดหนึ่ง ไป...ไปเดินเกากีตาร์ชมวิวทะเลหมอกชิล ๆ กันสักหน่อยค้าบบ~
หลังจากถ่ายรูปที่จุดชมวิวทะเลหมอกภูทับเบิกกันจุใจแล้ว ก็ได้เวลาทำภารกิจเก็บกะหล่ำปลีสด ๆ จากไร่ ของดีภูทับเบิกนั่นเอง เราใช้เวลาขับรถหาแปลงกะหล่ำปลีที่ถูกใจกันพอสมควร ผมติดต่อชาวบ้านหน้างานเลย ฮ่า ๆๆ ซึ่งชาวบ้านที่นี่น่ารักและใจดีมาก จะไม่รับเงินสักบาท แต่ของซื้อของขายเราก็ให้เป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ “เก็บกะหล่ำปลี 2 หัว” (ราคา 50 บาท) เพื่อน ๆ คนไหนอยากเก็บกะหล่ำปลีแบบผม แนะนำว่าให้ขออนุญาติเจ้าของไร่กันก่อนนะครับ แต่ถ้าใครอยากไปเดินถ่ายรูปเล่นเฉย ๆ ก็เดินเข้าไปได้เลย แต่! เดินอย่างระมัดระวังอย่าเหยียบผลผลิตของชาวบ้านกันนะค้าบบบ~
ถึงเวลาทำภารกิจสุดท้ายของการมาเที่ยวภูทับเบิกของผมแล้วครับ คือการนำกะหล่ำปลีมาทำอาหารนั่นเอง ฮ่า ๆ ๆ บอกเลยว่าภารกิจนี้ยากกว่าล่าทะเลหมอกซะอีก! จากไร่กะหล่ำปลี ผมขับรถออกมาจนเจอร้านอาหารริมทาง แล้วขอยืมครัวทำอาหารกันสด ๆ เลย โชคดีที่เจ้าของร้านใจดีมาก ๆ ให้ผมใช้ครัวได้เลย ซึ่งเมนูที่ผมลงมือทำวันนี้ต้องเป็น ‘กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา’ อาหารขึ้นชื่อภูทับเบิกแน่นอนค้าบบบ~
3 สิ่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือนที่เที่ยวภูทับเบิก ที่เที่ยวหน้าหนาวแห่งนี้ คือ การกินหมูกระทะท้าลมหนาว ล่าทะเลหมอกยามเช้า และถ่ายรูปคู่กับแปลงกะหล่ำปลี เช็กอินครบ 3 สิ่งนี่บอกเลยว่าฟินมาก~ “เที่ยวภูทับเบิก 2 วัน 1 คืน” ผมทำภารกิจลุล่วงครบเลย เย้~ สำหรับเพื่อน ๆ ที่รักธรรมชาติ ชอบตั้งแคมป์แบบผม บอกเลยไม่ควรพลาด แวะมาบำรุงปอดกันสัก 2-3 คืน กำลังดีเลยนะ แล้วพบกับพฤทใหม่ในทริปหน้า ฝากติดตามพฤทได้ที่เพจ Wongnai Travel กันด้วยน้า~
