งบน้อยก็เอาอยู่! นั่งรถไฟเช็กอินที่เที่ยวราชบุรี 2 คน ในงบ 1,500 บาท กินเที่ยวครบ แถมยังเหลือเงินทอนอีกด้วย! เรียกว่ากระแสดีไม่มีตกกับบทความกินเที่ยวฉบับประหยัดงบ เพื่อน ๆ ชาว Wongnai ให้ความสนใจกันมากจริง ๆ วันนี้หนุ่ม “แวนเฮลซิ่ง” ขออาสา พาสาวหมวย “น้องโอ” เที่ยวเมืองรองอย่างที่เที่ยวราชบุรี เมืองรองสุดอาร์ตแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่เพื่อน ๆ สามารถนั่งรถไฟเที่ยวกันได้สบาย ๆ “รออะไรอยู่...ไปกันเลย!
1สถานีรถไฟสามเสน
ครั้งนี้เราเริ่มต้นทริปกันที่ “สถานีรถไฟสามเสน” ที่นี่จะมีขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านคือ รถไฟสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สายใต้ และขบวนรถชานเมือง เราได้ตั๋วรอบ 09.33 น. “ตั๋วรถไฟ 2 ใบ” (ราคา 48 บาท) ซึ่งจะพาเราเดินทางไปถึงราชบุรีเวลาประมาณ 11.43 น. แอบสายนิดนึงแฮะ แต่ไม่เป็นไรฮะ เราจะใช้เวลาและเงินที่มีเที่ยวราชบุรีให้คุ้มที่สุด!
นั่งรถไฟเที่ยวราชบุรีครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะมีคนใจดีมอบเครื่องดื่มฟรี ๆ ช่วยดับร้อนให้กับเรา ‘เป๊ปซี่เต็มที่กับชีวิต’ สปอนเซอร์ก็มา! วันนี้เราสองได้กินเที่ยวได้เต็มที่แน่นอน!
2สถานีรถไฟราชบุรี
นั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็มาถึง “สถานีรถไฟราชบุรี” ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องพวกเราตั้งแต่เช้า เรียกว่าหิวโซกันพอสมควรเลยฮะ เดี๋ยวไปหาร้านอาหารราชบุรีเด็ด ๆ กินกันดีกว่า ถ้าเราเดินออกมาจากสถานีรถไฟก็จะจ๊ะเอ๋กับพี่วินมอเตอร์ไซค์เลย ไม่รอช้านั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปหาร้านข้าวเด็ด ๆ กันโลดดด~
3ร้านอาตี๋ โกปี๊
“นั่งวินมอเตอร์ไซค์สองคน” (ราคา 80 บาท ) ไม่ถึง 10 นาที เราก็มาถึง “ร้านอาตี๋ โกปี๊” ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ราชบุรี ตกแต่งบรรยากาศแนวไทยจีนสไตล์โบราณ ในร้านมีข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ประดับประดาคลาสสิกสุด ๆ มีเมนูให้เลือกกินเพียบ ทั้งชากาแฟ ติ่มซำ ข้าวต้ม ปาท่องโก๋ ไข่กระทะ ขนมปังหน้าหมู เครื่องดื่มต่าง ๆ รวมไปถึงเมนูธรรมดา ๆ อย่างหมูทอดกระเทียม ข้าวไข่เจียว ก็มีให้กิน
เราสองคนสั่งมาทั้งหมด 4 เมนู เริ่มด้วย “ไข่กระทะจอมพลัง” (ราคา 49 บาท) เมนูอาหารเช้าที่ใครหลายคนชื่นชอบ เสิร์ฟต่อด้วย “ข้าวต้มหมูตอกไข่” (ราคา 40 บาท) เมนูข้าวต้มอุ่น ๆ กินแล้วชุ่มคอ ต่อด้วยเมนูเครื่องดื่ม “พั้นซ์ทับทิม” (ราคา 40 บาท) และ “ชาชักฟองนม” (ราคา 40 บาท) ดื่มแล้วสดชื่น ช่วยดับกระหายได้ดีทีเดียว สำหรับใครที่อยากแวะมาชิมมาได้ตั้งแต่ 06.00-15.30 น. (ร้านปิดทุกวันพุธ)
4Tao Hong Tai d’kunst
เดินจากร้านอาตี๋ โกปี๊ไม่ถึง 10 นาที เราก็มาอยู่กันที่ “Tao Hong Tai d’kunst” เป็นหอศิลป์ร่วมสมัยผสมผสานกับร้านกาแฟ ถูกรีโนเวทจากบ้านไม้เก่าแก่ เป็นบ้านไม้ทรงมะนิลา ถูกสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนนี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและตกแต่งใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 สวยเก๋มาก ๆ มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้น 1 จัดทำเป็นห้องสมุด ชั้น 2 เป็นโซนคาเฟ่ และโชว์งานศิลป์ ส่วนชั้นที่ 3 เปิดเป็นแกลเลอรีหมุนเวียนที่สลับสับเปลี่ยนผลงานของศิลปินดัง ๆ มาจัดแสดงให้ชมกันนั่นเอง
มาที่นี่เราสามารถสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ เดินชมงานศิลป์ ถ่ายรูปกันได้แบบชิลล์ ๆ แถมไม่เสียค่าเข้าชมด้วย ผมสั่งเมนูกาแฟ “เอสเปรสโซ่เย็น” (ราคา 55 บาท) ของน้องโอเลือกเมนู “โกโก้เย็น” (ราคา 55 บาท) จิบเครื่องดื่มชมงานศิลป์ก็เพลินดีเหมือนกันนะ เดินออกจากร้าน บริเวณด้านข้าง Tao Hong Tai d’kunst จะมีอาคารไม้เก่า ๆ ที่บนผนังจะมีลายกราฟฟิตี้สวย ๆ ให้เราถ่ายรูปเล่นกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ฮะ ว่าเมืองนี้อาร์ตขนาดไหน!
5เถ้าฮ่งไถ่
“โบกรถตุ๊ก ๆ” (ราคา 100 บาท) เที่ยวราชบุรีต่อกันที่ “เถ้าฮ่งไถ่” เป็นโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่เก่าแก่คู่เมืองราชบุรี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 ปัจจุบันด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจากโรงทำโอ่งมังกรที่เราใช้ไว้เก็บน้ำ ปรับตัวเป็นโรงงานเซรามิกที่มีชื่ออันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
นั่งรถมากันเหนื่อย ๆ ขอแวะจิบเครื่องดื่มเติมความสดชื่นกันหน่อยดีกว่า ขอแนะนำเมนู “อัญชันมะนาว” (ราคา 55 บาท) และ “บ๊วยโซดา” (ราคา 55 บาท) เครื่องดื่มถูกเสิร์ฟในภาชนะแก้วเซรามิกทรงโอ่ง น่ารักมาก ๆ ภายในเถ้าฮ่งไถ่จะเป็นสวนสีเขียวกว้าง ๆ มีงานเซรามิกสวย ๆ ให้เราถ่ายรูปเล่นเพียบเลยฮะ
มาถึงเถ้าฮ่งไถ่ที่เที่ยวราชบุรีสุดอาร์ตทั้งที มือไม่เปื้อนสีแล้วไม่สบายใจเท่าไหร่ฮะ ซึ่งที่นี่ก็มี Workshop เพนต์โอ่งไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวมือไม่ว่างอย่างเราสองคนด้วย “Workshop เพนต์โอ่ง 1 ใบ” (ราคา 300 บาท) วันนี้มาแบบประหยัดงบใบเดียวละกันนะ ฮ่า ๆๆ เอ้า! อย่ารอช้าลงมือละเลงสีกันเลยจ้า
ว้าว...เป็นไง โอ่งของเราสองคนน่ารักใช่ม้าา~ เพนต์เสร็จแล้วยังเอากลับบ้านเลยไม่ได้นะจ๊ะ ต้องทิ้งไว้สัก 1 คืน ที่นี่เขาก็บริการส่งให้ถึงบ้าน โดยมี “ค่าจัดส่ง” (ราคา 100 บาท) อันนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางที่ส่งด้วยนะ บ้านไกลก็แพงหน่อย หรือใครมีแพลนเที่ยวราชบุรีสัก 2-3 วัน ค่อยแวะมาเอาขากลับก็ได้เหมือนกัน จะได้ไม่เสียค่าส่งนะจ๊ะ รอบ ๆ จะมีบรรดางานเซมามิกวางโชว์เยอะมาก ซึ่งเราสามารถติดต่อสั่งซื้อกลับบ้านได้ด้วย บอกเลยว่าสวยงามทุกชิ้น ซื้อไปแต่งบ้านได้อยู่นะ
6เด่นไทยไอศครีม
ขากลับกรุงเทพฯ เราต้องมาขึ้นรถในเมืองราชบุรี ซึ่งต้องบอกว่าการเดินทางแบบไม่มีรถจากเถ้าฮ่งไถ่เข้าเมืองนี่ยากพอสมควรเลยฮะ ชาวบ้านแนะนำให้นั่งรถตุ๊ก ๆ เหมือนเดิม “โบกรถตุ๊ก ๆ” (ราคา 100 บาท) มาลงที่ตลาดข้างหอฯนาฬิกา “เด่นไทยไอศครีม” ร้านไอศกรีมราชบุรีเจ้าเด็ด การันตีด้วยรางวัล User Choice 2019 จาก Wongnai เชียวนะ ไม่ธรรมดา!
จัดเลย “ไอศกรีมไข่หมก” (ราคา 20 บาท) จะมีไข่แดงสด ๆ ซ่อนอยู่ในไอศครีมกะทิลูกกลม ๆ และเมนู “ไอศกรีมฝอยทอง” (ราคา 20 บาท) ท็อปด้วยถั่วและฝอยทองหวาน ๆ ราคาถูกแต่บอกเลยว่ารสชาตินั้นเด็ดสมคำร่ำลือ แถมคุณป้าก็ใจดีและน่ารักมาก ๆ ฮะ สำหรับใครอยากตามรอย ก็มาได้ทุกวันนะจ๊ะ แต่ร้านจะเปิดช่วงเย็น ๆ ประมาณ 16.00 น. เป็นต้นไป
7ริมแม่น้ำแม่กลอง
แวะเดินชมวิวยามเย็นกันต่อที่ “ริมแม่น้ำแม่กลอง” เดินออกมาจากตลาดก็เจอเลย ช่วงเย็นบรรยากาศดีมากกก~ ใต้ทางเดินจะมีบริการนวดจากคุณลุงคุณป้าอยู่หลายร้าน เห็นแล้วเกิดอาการเมื่อยขึ้นมาทันที! แวะนวดเท้าให้สบายตัวก่อนกลับซักหน่อยแล้วกัน “นวดเท้าครึ่งชั่วโมงสองคน” (ราคา 120 บาท) นั่งนวดขารับลมเย็น ๆ ชมวิวแม่น้ำสวย ๆ ฟินเกินบรรยายเลย
8ท่ารถทัวร์กลับกรุงเทพฯ (หน้าโรงแรมนำสิน)
เดินจากริมแม่น้ำแม่กลองประมาณ 6 นาที ไปที่หน้า “โรงแรมนำสิน” เป็นจุดขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ “ค่าโดยสารอยู่ที่คนละ 90 บาท 2 คน” (ราคา 180 บาท) ใช้เวลาเดินทางถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง
เที่ยวราชบุรี 2 คน งบ 1,500 บาท เราสองคนใช้เงินไปทั้งหมด 1,457 บาท เหลือเงินกลับบ้านตั้ง 43 บาท เยอะไม่ใช่เล่น ใช้เงินใช้เวลาคุ้มค่าสุด ๆ ได้กินเที่ยวทำกิจกรรมสนุก ๆ ครบอีกด้วย สำหรับใครอยากลองเปลี่ยนบบรรยากาศนั่งรถไฟเที่ยวราชบุรีจะทำตามทริปนี้หรือเอาไปปรับใช้ก็ได้ ก็ไม่ว่ากัน จะไปเที่ยวไหนขอให้เตรียมพร้อม อย่าลืมเช็ครอบรถไฟ วางแพลนเที่ยวกันดี ๆ นะ จะได้เที่ยวครบทุกสถานที่ที่เราตั้งเป้าไว้นั่นเอง สำหรับใครยังไม่จุใจเรายังมี “10 ที่เที่ยวราชบุรี ไปง่ายไม่เสียเวลา” หรือ “10 ร้านต้องไปในเมืองราชบุรี” คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวตามงบที่ไหนอีก ติดตามได้ที่เพจ “Wongnai Travel” กันเลย!
เรายังมีทริปเที่ยวสำหรับคนงบน้อยอีกเพียบ!