สวัสดีครับวันนี้กระผมนาย ยิมมี่ พี่หมีสายเปย์ จะขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง แต่มีเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปกันจนเมมกล้องเต็มกันอีกด้วย แน่นอนว่าสถานที่ผมพูดถึงนี้นั่นก็คือ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่” หรือที่หลายคนเรียกกันจนติดปากกว่า “พืชสวนโลก เชียงใหม่” นั่นเอง

การเดินทางไป อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ ง่ายมาก ๆ เลย ถ้าเรามาจากสี่แยกสนามบินให้ขับมุ่งหน้าตรงไปทางหางดงเรื่อย ๆ ผ่านสี่แยกบิ๊กซี และปั้มปตท. เมื่อถึงสามแยก ให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปประมาณ 3 กม. ก็จะถึงที่หมาย
สำหรับราคาค่าบำรุง และค่าบริการรถชมสวน ก็จะมีดังต่อไปนี้เลย
- คนไทย เด็กต่ำกว่า 100 ซม. ไม่เสียค่าใช้จ่าย / 100 - 140 ซม. 70 บาท / ผู้ใหญ่ 100 บาท
- ชาวต่างชาติ เด็ก 150 บาท / ผู้ใหญ่ 200 บาท
- ข้าราชการ / นักเรียน-นักศึกษา / ผู้สูงอายุ แสดงบัตรคนละ 70 บาท
- สมาชิกรายปี 400 บาท

เอาละเมื่อเข้ามาถึงในงานเราก็เลือกได้เลยว่าจะชมงานด้วยวิธีการไหน
- วิธีที่ 1 :: นั่งเพลิน ๆ ไปกับ “รถชมสวน” การชมสวนด้วยวิธีนี้ก็..ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ สามารถขอแวะลงไปเดินเที่ยว ถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ ระหว่างทาง และกลับขึ้นมานั่งอีกกี่รอบก็ได้ตามความพอใจ
- วิธีที่ 2 :: ถ้าใครที่มาเป็นครอบครัว, หมู่คณะ หรือมีผู้สูงอายุมาด้วย แล้วอยากออกไปเที่ยวชมตามจุดต่าง ๆ แบบส่วนตั๊วส่วนตัว อยากถ่ายรูปตรงไหนก็แวะจอดได้ตลอดเวลา ก็แนะนำเป็น “รถกอล์ฟ” อันแสนสบาย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 800 บาท / ชั่วโมง เท่านั้นเอง
- วิธีที่ 3 :: สำหรับคนที่ชอบไปตามเส้นทางของตัวเอง ก็แนะนำการชมสวนด้วยวิธี “ปั่นจักรยาน” ที่สามารถพาทุกคนออกไปกินลมชมวิวได้ทุกจุดตามต้องการ แถมยังได้สุขภาพที่ดีด้วยนะ โดยในการเช่าจักรยานก็จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 60 บาท / ครั้ง
- วิธีที่ 4 :: วิธีสุดท้ายนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสนุก มันส์ แปลกใหม่ และท้าทาย กับเจ้าอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า "Segway" พาหนะชิค ๆ ติด 2 ล้อ ที่จะพาเพื่อน ๆ เคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูงสุด 20 กม. / ชม. โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,399 บาท / ชั่วโมง และ 700 บาท / ครึ่งชั่วโมง



ด้านในอุทยานหลวงราชพฤกษ์นั้นก็จะมีจุดเที่ยวชม จุดให้ความรู้ และจุดถ่ายรูปสวย ๆ เพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ สวนนานาชาติ (International Gardens) บริเวณที่มีประเทศต่าง ๆ กว่า 22 ประเทศ อาทิ โมร็อกโก, ภูฏาน, ญี่ปุ่น, จีน, เนเธอร์แลนด์, ลาว และเวียดนาม เป็นต้น มาจัดสวนในแบบของตัวเอง ทั้งเรื่องของสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้าง และสไตล์การจัดสวนในแบบของประเทศนั้น ๆ ซึ่งทำออกมาได้สวยงามมาก แค่เดินเข้าไปก็รู้สึกเหมือนวาร์ปไปอยู่ในต่างประเทศเลย





เอาใจผู้หลักผู้ใหญ่ที่มาด้วยกับการพาทัวร์ “เรือนกล้วยไม้” ศูนย์รวมกล้วยไม้อภิมหาหลากหลายสายพันธุ์ เยอะจนชนิดที่ว่าไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ก็เห็นแต่ดอกกล้วยไม้สวย ๆ บานสะพรั่งอยู่ตลอดทาง งานนี้จะถ่ายรูปคู่ดอกแบบสวย ๆ ก็ดี หรือถ่ายแต่ดอกไม้เอาไว้ส่งไลน์ “สวัสดีวันจันทร์-อาทิตย์” กันในกลุ่มแชทครอบครัวก็ได้นะครับ 5555



ถัดจากเรือนกล้วยไม้มาเล็กน้อยก็จะเจอกับ “เรือนไม้ดอก” ที่เป็นสถานที่ปลูกไม้ดอกประเภทต่าง ๆ ที่คนในเมืองร้อนอย่างเราไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น ทั้งจากบนดอยสูงก็ดี หรือจากเมืองหนาวก็ใช่ เรียกว่าเป็นเรือนที่เดินถ่ายรูปเพลินสุด ๆ เลยแหละ

จุดถ่ายรูปสำหรับสายฮิปก็คงหนีไม่พ้น “เรือนพืชทะเลทราย” อย่างแน่นอน เพราะจุดนี้เป็นสถานที่รวมกระบองเพชรต่าง ๆ ทั้งเล็กและใหญ่มาไว้ในที่เดียวกัน ให้เพื่อน ๆ ได้ถ่ายรูปสุดฮิปกันให้จุใจ เหล่าฮิปสเตอร์ทั้งหลายต้องไม่พลาด!

สำหรับ “เรือนปลูกพืชไร้ดิน” ฟังดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้ถ่ายรูปเล่น แต่จริง ๆ แล้วมันมีให้ถ่ายนะคุณ กับธีมการถ่ายรูปแบบอยู่ในสวนเมลอน นั่นไงไม่ธรรมดาอีกแล้ว คราวนี้ชอบมุมไหนก็มุด ๆ ต้นเมลอนโผล่มาถ่ายกันได้เลยนะเธอ (แต่อย่าไปเด็ดผลเมลอนของเขาล่ะ)


นอกจากถ่ายรูปกับต้นไม้-ดอกไม้แล้ว ต้องบอกว่าอุทยานหลวงราชพฤกษ์ก็ยังมีมุมสวย ๆ ให้เราได้ครีเอทมุมถ่ายรูปอีกเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น “Sky Walk” จุดเดินกินลมชมวิวสุดชิลล์ “หอคำหลวง” แลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไม่พลาด “ห้องสมุดอุทยานหลวงราชพฤกษ์” มุมพักผ่อนในห้องแห่งความรู้ บางทีก็มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อยู่ด้วยนะ “อ่างเก็บน้ำแห่งอุทยาน” มุมชิค ๆ บนสันอ่างเก็บน้ำ ที่หลายคนยังไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นต้น




ในช่วงระหว่างวันถ้าใครหิวข้าว หรือถ่ายรูปมาเหนื่อย ๆ อยากหาน้ำเย็น ๆ มาดื่มให้ชื่นใจ ก็สามารถแวะมาที่ ครัวโครงการหลวง กันได้ ที่นี่เขามีบริการทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม ในราคาที่ไม่ได้แพงไปกว่าด้านนอก แต่เต็มไปด้วยคุณภาพด้วยการใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ที่ส่งตรงมาจากโครงการหลวง

นอกจากการมาเที่ยวเฉย ๆ แล้ว ในทุกวันเสาร์ที่นี่ก็จะมีความพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีกนั่นก็คือ "ตลาดนัดชาวดอย" ที่เป็นศูนย์รวม ผัก ผลไม้จากเกษตรกรบนพื้นที่สูง ขนลงมาขายถึงมือของเราแบบสดใหม่ สะอาด ปลอดภัย ในราคาแบบไม่แพงเลยครับ โดยตลาดนัดชาวดอยนี้ก็จะเปิดขายตั้งแต่ช่วงเวลา 09:00 - 17:00 น. ทุกวันเสาร์ ถ้าใครว่างก็ลองแวะไปกันดูนะครับ

สำหรับวันนี้ผมคิดว่า อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ หรือ พืชสวนโลก เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยว เชียงใหม่ ที่มาจัดทริปถ่ายรูปได้แบบเพลินมาก ๆ อีกที่หนึ่งเลย บรรยากาศก็ดี มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ก็เยอะ แถมยังมีความแปลกใหม่จากพรรณไม้ต่าง ๆ ที่สลับกันออกดอก ผลัดใบ โชว์ความสวยของตัวเองกันตลอดทั้งปีอีกด้วย งานนี้ถ่ายแช๊ะตัวจริงต้องไม่พลาด! ก่อนจากกันไป เพื่อน ๆ สามารถติดตามร้านอาหารดี ๆ ที่เที่ยว เชียงใหม่สวย ๆ และของจังหวัดใกล้เคียงกันได้ง่าย ๆ เลยนะ เพียงกดไลก์แฟนเพจ น้าอ้วนชวนหิว (กดสิ กดเลย อย่าช้า!)