สำหรับชาวกรุงย่านฝั่งธนจะรู้กันดีว่า “ตลาดพลู” ถือเป็นแหล่งรวมความอร่อยที่มีร้านอาหารตลาดพลู เจ้าดัง ร้านเด็ดตลาดพลู และร้านเก่าแก่ตลาดพลูที่ขายกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสืบต่อกันมาหลายรุ่น ราว ๆ 40-60 ปี บางร้านเนี่ยมีอายุถึง 130 ปีเลยก็มี อยู่กันมายาวนานขนาดนี้ก็ถือเป็นการการันตีความเด็ดแล้วใช่ไหมล่ะคะ อีกอย่างคือได้ยินข่าวมาว่าแฟน ๆ อยากให้พี่แวนกินเยอะ ๆ ทางเราก็ขอเอาใจทั้งแฟนคลับพี่แวน และเอาใจพี่แวนด้วย บอกเลยว่าวันนี้เรากินไป 8 ร้าน! ทั้งคาว ทั้งหวาน ให้ครบจุก ๆ ไปเลยจ้ะแม่!
งานนี้เราเลี้ยงพี่แวนทั้งทริป! แต่ขอแถมภารกิจ (เล็ก ๆ น้อย ๆ อิอิ) ให้พี่แวนทำ แลกกับการกินฟรีทั้งวัน ได้หมดทั้งร้านขนมหวานตลาดพลู ร้านอาหารตลาดพลู โดยภารกิจก็คือให้พี่แวนถ่ายรูปกับเจ้าของร้านอาหารตลาดพลู ร้านเด็ดตลาดพลู โดยใช้กล้องฟิล์ม.. ตามมาดูกันค่ะ ว่าแต่ละรูป แต่ละร้าน จะเป็นอย่างไร จะสนุกสนานแค่ไหน พร้อมแล้วไปลุยเดินเล่นตลาดพลูกับพี่แวนกันเลยจ้า!
1กระเพาะปลาขันน้ำ
แวะถ่ายรูปที่ชานชาลารถไฟตลาดพลู พออิ่มแล้วก็ถึงเวลาหาอะไรมาอิ่มท้อง มาเริ่มกันที่ร้านอาหารตลาดพลู ร้านแรกเลย “กระเพาะปลาขันน้ำ” เลียบทางรถไฟใกล้ป้ายตลาดพลู จะเจอคุณลุงคุณป้าน่ารักรอตัก “กระเพาะปลาน้ำข้น ใส่เส้นหมี่ และไข่” (ราคา 50 บาท) รสชาติเข้มข้นถึงเครื่อง
เสิร์ฟพร้อมน้ำด้วยขันชิค ๆ ซึ่งถือเป็นกิมมิกของทางร้านมาหลายยุคหลายสมัย กับบรรยากาศร้านที่เป็นโต๊ะไม้ เก้าอี้นั่งยอง ให้กลิ่นอายของความเก่าแก่สมกับเป็นร้านเก่าแก่ตลาดพลูที่เปิดมา 50 ปี แถมยังมีเพลงเก่า ๆ จากวิทยุใครที่อยากย้อนเวลา กลับไปหาบรรยากาศเก่า ๆ ทางเราก็แนะนำให้มาที่ร้าน “กระเพาะปลาขันน้ำ” เลยค่ะ เพราะดูท่าพี่แวนจะฟินไม่แพ้เราเลย กินไปมีรถไฟวิ่งผ่าน ได้ฟีลร้านอาหารตลาดพลูของจริง
2เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู
ต่อไปเป็นร้านเก่าแก่ตลาดพลูในตำนาน อยู่มากว่า 60 ปี มาเอาใจคนรักเนื้อกันกับ “เกาเหลาเนื้อเปื่อย” (ราคา 60 บาท) แค่เดินผ่านหน้าร้านพี่แวนก็แทบสะดุด เพราะโดนกลิ่นน้ำซุปหอม ๆ เตะจมูกเข้าอย่างจัง ถ้าถามคนแถวนี้ถึงร้านอาหารตลาดพลูแล้วล่ะก็ ต้องมีไม่น้อยเลยค่ะที่แนะนำร้าน “เกาเหลาเนื้อเปื่อยตลาดพลู”
เมนูที่ใช้เนื้อวัวส่วนท้อง ทั้งเนื้อและไขมัน ตุ๋นเข้ากันกับเครื่องเทศจนหอมและเปื่อยนุ่ม พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ซดน้ำซุปหอม ๆ กินแล้วคล่องคอ เชง ๆ เหมือนที่คนจีนเขาว่ากันค่ะ การันตีโดยคนที่แวะเวียนเข้าร้านกันแบบไม่ขาดสาย ใครอยากจะมากินตามพี่แวนก็ตามมาได้เลยค่ะ หาไม่ยาก ร้านอยู่แถวหน้าสถานีรถไฟเลยค่ะ ที่นี่เปิดทุกวัน 09:00-18:00 น. เอาใจคนรักเนื้อไปเลย ต้องห้ามพลาดร้านเด็ดตลาดพลูร้านนี้แล้ว!
3ขนมเบื้องไทย สรินทร์ทิพย์
กินของคาวกันไปแล้ว เรามาต่อที่ของหวานกันที่ร้านขนมหวานตลาดพลู “ขนมเบื้องไทย สรินทร์ทิพย์” ขายอยู่ใต้สะพานตลาดพลู ร้านนี้ขายมายาวนาน ส่งต่อความหอมหวานแบบรุ่นสู่รุ่นเลยค่ะ แค่เดินผ่านร้านพี่แวนก็ขอแวะชิมแบบเบรกแทบไม่อยู่ ความพิเศษของร้านนี้คือแป้งที่เรียบเนียน บางกรอบ หอมยั่วใจจนต้องซื้อกิน ขนมเบื้องมี 2 รสชาติ (ชิ้นละ 15 บาท) "ไส้หวาน" หวานหอมไปด้วยฝอยทองกับมะพร้าวแก้ว และ "ไส้เค็ม" ใส่มะพร้าวขูดคั่วกับกุ้งแห้ง กินแล้วจะหอมกลิ่นเครื่องพริกไทยรากผักชี เลือกได้ดูได้ตามความชอบเลยค่า บอกเลยว่าไม่ว่าจะไส้ไหนก็เนื้อแน่นเต็มคำ ฟินจนพี่แวนเอ่ยปากชม เพราะว่าขนมเบื้องร้านนี้เขาไม่หวานมาก แถมยังหอมกรอบกำลังดี
4สุริยากาแฟ
เดินถัดมาจากร้าน “ขนมเบื้องไทย สรินทร์ทิพย์” เราก็แวะหาน้ำดื่มดับร้อนกันที่ร้าน "สุริยากาแฟ" ร้านกาแฟโบราณ 100 ปี ราคาย่อมเยาแต่คุณภาพเต็มเปี่ยมไปด้วยความอร่อย เข้มข้นทุกเมนู (ราคาเริ่มต้นเพียง 10 บาท) จะเห็นว่ามีลูกค้าหลายคนซื้อกลับไปตั้ง 10-20 ถุง เลยค่ะ แปลว่าของเขาดีจริง บรรยากาศร้านให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยก่อน เพราะยังมีลูกค้ารุ่นเก่ามานั่งดื่มชาร้อนชิล ๆ อ่านหนังสือพิมพ์ คุยกันแบบเก๋า ๆ ใครอยากลองมากินกาแฟกับบรรยากาศย้อนยุค โดยร้านนี้จะเปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่ม อยากกินน้ำเย็น ๆ ชื่นใจก็มากันได้เลยจ้า
5เปาะเปี๊ยะสดเจ๊บิ
หลังจากกินของหวานกันมา 2 ร้านแล้ว พี่แวนแกก็บ่นอยากหาร้านอาหารตลาดพลูกินอีก (แหม พอทีมงานเลี้ยงนี่เจริญอาหารเชียวนะพ่อคุณ) ร้านนี้เราได้คำแนะนำจากพี่ ๆ ที่ร้าน “ขนมเบื้องไทย สรินทร์ทิพย์” แนะนำ ร้านเด็ดตลาดพลูอย่างร้านเปาะเปี๊ยะสดที่พี่ ๆ เขากินเป็นประจำ ถึงเวลาชิมอาหารที่มีกลิ่นอายของเมืองจีนที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ยาวนานกว่า 60 ปี "เปาะเปี๊ยะสดเจ๊บิ" ตลาดพลูนั้นเอง
ร้านนี้เปิดทุกวัน 09:00-19:00 น. เสน่ห์ของความอร่อยจากร้านนี้คือ เครื่องเคียงแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยเฉพาะกุนเชียงสูตรเด็ดของเจ๊บิ ที่เจ๊บิทำเอง ทำให้ความฟินเพิ่มขึ้นอีก (พูดแล้วอยากไปกินอีกเลย) กินพร้อมกับน้ำจิ้มบ๊วยสูตรพิเศษจากเมืองจีน (ราคาเริ่มต้นที่ 40-60 บาท) นอกจากเมนูที่เราอยากให้ทุกคนได้มาลองถึงความอร่อย พี่ ๆ ที่ร้านยังน่ารักและเป็นกันเอง ที่สำคัญยังเป็นแฟนคลับรายการเที่ยวตามสั่งด้วย ร้านนี้ Recommend ค่ะ พี่แวนรับประกันว่าเป็นร้านเด็ดตลาดพลู ฮ่า ๆ
6ผัดไทบางสะแก
เดินถัดจากร้านร้านอาหารตลาดพลูอย่างร้าน “เปาะเปี๊ยะสดเจ๊บิ” ก็ได้กลิ่นหอม ๆ ของผัดไทตลาดพลูโชยมา ทำให้พี่แวนได้เจอร้านอาหารตลาดพลู “ผัดไทบางสะแก” ร้านผัดไทยชื่อดัง ที่ใช้เตาถ่านในการทำผัดไทย ทำให้อาหารมีความหอมจากเตาถ่าน เป็นการทำที่ต้องใช้ความฝึกฝนอย่างยาวนาน เพราะการทำอาหารจากเตาถ่านจะมีความยากในการควบคุมไฟ ประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน ร้านเก่าแก่ตลาดพลูที่มีอายุกว่า 60 ปีทำให้ร้านนี้อยู่คู่ตลาดพลูมานาน
คนที่ผ่านมาก็ต้องแวะมาชิมกันทุกคน พี่แวนเขาสั่ง "ผัดไทย" แบบธรรมดา (ราคา 40 บาท) แต่เมนูยอดนิยมของที่นี่จะเป็น “ผัดไท L.A” เป็นผัดไทยที่มีเบคอน เส้นหนึบหนับไม่เละไป รสชาติเข้าถึงตัวเนื้อเส้น เปรี้ยวหวานกำลังดี อร่อยได้โดยไม่ต้องปรุง ร้านเปิดตั้งแต่ 10:00-20:30 น. หยุดทุกวันอังคารและวันศุกร์ มาให้ถูกวันน้า เดี๋ยวจะพลาดอะไรดี ๆ จะหาว่าพี่แวนไม่เตือน
7กุยช่ายหนุ่มผมยาว
มาถึงร้านที่กำลังเป็นที่นิยมทั้งในตลาดพลู และบนโซเชียล ลูกค้าจะมาจับจองรอต่อคิวพ่อค้าผมยาวมาขายเหมือนแจกฟรี จะเป็นร้านไหนไปไม่ได้ กุยช่ายหนุ่มผมยาว เปิดตอน 12:00-12:30 น. ร้านเด็ดตลาดพลูร้านนี้ ใครก็บอกว่าต้องพกดวงมาด้วย
ร้านนี้จะขายแค่ไส้กุยช่ายไส้เดียว ลูกค้าประจำจะบอกว่ากุยช่ายเจ้านี้จะใช้เนื้อแป้งทำมือ ไม่หนาไม่บางเกินไป นุ่มและหอม ทำให้ต้องกลับมาซื้อใหม่ ทางร้านจะทำกุยช่ายเพียงแค่ 500 ชิ้นต่อวัน และหมดเร็วเหมือนแจกฟรีจริง ๆ แล้ววันนี้พี่แวนของเราไม่ได้พกดวงมาเลยอดกิน หมดก่อนที่จะถึงคิว สำหรับใครที่อยากกินกุยช่ายหนุ่มผมยาว เราแนะนำให้โทรมาจองกับพ่อค้าไว้ก่อนเลย จะได้ไม่ต้องลุ้นแบบนี้ เราเชื่อเลยว่าต้องอร่อยแน่นอนดูจากจำนวนลูกค้าแต่ละวัน
8ขนมหวานตลาดพลู
มาตลาดพลูทั้งที ถ้าไม่ได้มากินขนมหวานสูตรโบราณที่ร้านขนมหวานตลาดพลูอย่างร้าน “ขนมหวานตลาดพลู” ถือว่ามาไม่ถึง! ขนมหวานทีเด็ดของที่นี่จะเป็น ขนมชั้น มีหลากหลายรสชาติให้ได้ลิ้มลองโดยเฉพาะ “ขนมชั้นรสกาแฟ” ที่หนึบหนับ ผสมกับความขมปนหวานของกาแฟ (ราคาชิ้นละ 7 บาท) ห่อขนมหวานด้วยใบตองรักษาความเป็นไทย แถมยังลดโลกร้อนอีกด้วย ด้วยความที่ร้านขนมหวานเจ้านี้เป็นที่โปรดปรานของคนที่มาเที่ยวตลาดพลู ทำให้จะมีคนมาต่อคิวรอซื้อขนมหวานอย่างหนาแน่น แต่รสชาติที่อร่อยก็คุ้มที่จะรอเลยค่ะ เดินเข้าไปให้หยิบบัตรคิวอยู่ที่กำแพงแถว ๆ หน้าร้านก่อนนะจ๊ะ ห้ามไปเดินงง ๆ ไม่งั้นอดกินไม่รู้นะ
9กิมเอ็ง กล้วยเชื่อม
เหมือนจะจบ.. แต่ยังไม่จบค่ะคุณ พี่แวนเขาอยากลองลิ้มชิมรสของหวานตลาดพลูเป็นการปิดท้าย เพราะได้ยินแว่ว ๆ ว่าเป็นร้านเด็ดตลาดพลู ต้องห้ามพลาดอย่างร้าน “กิมเอ็ง กล้วยเชื่อม” ที่เชื่อมตั้งแต่สมัยแม่สู่ลูกกว่า 40 ปี สูตรเด็ดเคี่ยวน้ำตาลแบบไม่มีกั๊ก คัดกล้วยพันธุ์เฉพาะจากเพชรบุรี เนื้อแน่น! แค่ประวัติก็ชวนฝันแล้วค่ะ แต่! ตอนเราไปถึงก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว พอถึงร้านปุ๊บ คุณป้าที่ดูแลร้านก็บอกว่า กล้วยเชื่อมหมด (แง้) เหลือแค่ฟักทองเชื่อมถุงสุดท้าย แหม ดูสิคะ ของเขาคงเด็ดจริง แต่ก็ยังดีที่เหลือ “ฟักทองเชื่อม” (ราคา 50 บาท) ให้พี่แวนได้ชิมไปพลาง ๆ ให้หายอยาก แล้วก็ประจวบกับพี่แวนแกท้องตึง อิ่มพอดี เลยขอจบการเดินทางของอาหารเพียงเท่านี้ ฮ่า ๆ ๆ
อิ่มหมีพลีมันทั้งวัน ทั้งพี่แวน และทีมงาน ฮ่า ๆ ช่วยกันกินจนพุงกาง แต่อย่างที่บอกค่ะว่ามีอีกหลายร้าน ทั้งร้านอาหารตลาดพลูในตำนาน และร้านเด็ดตลาดพลูที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ เสียดายที่อิ่มกันซะก่อน แต่ถ้ามีโอกาสทางเราจะชวนพี่แวนไปกินกันต่อแน่นอนค่า ใครที่ยังอยากหาทริปเที่ยวกรุงเทพฯก็ไปอ่านกันได้เลยที่ เที่ยวกรุงเทพฯย่านบางแคและ เที่ยวกรุงเทพฯ เดินเล่นบางขุนนนท์ ที่สำคัญที่สุดคือ กดไลก์ กดแชร์ให้พี่แวนทางเพจ Wongnai Travel ด้วยน้าาาา ถือกำลังใจให้พี่แวนของเรา <3