กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แต่ถ้าท้องเริ่มร้องก็ต้องหาของกิน! วันนี้ซังจะพาทุกคนมาบุกที่เที่ยวฝั่งธน ย่านที่ได้รับการร่ำลือว่าของกินเด็ด ตั้งแต่ปากซอย ยันท้อยซอย ไม่มีเหงาหงอย เพราะมีของกินเพียบอย่าง “บางขุนนนท์” ทางเราก็ไม่อยากจะทนกับคำร่ำลือ ขอไปพิสูจน์เองด้วย ตา (และปาก) บอกเลยว่าเขามีตั้งแต่ร้านอาหารบางขุนนนท์ระดับตำนาน หาบเร่ฝีมือระดับพระกาฬ ร้านรถเข็นที่เด็ดจนพูดกันแบบปากต่อปาก ที่สำคัญคือราคาไม่แรง พกเงินไปแค่ 500 บาท ก็อิ่มจนต้องหิ้วกลับบ้าน ได้สบาย ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ตามซังมาเที่ยวตลาดบางขุนนนท์กันเลยค่ะทุกโคนนน Let’s eat!! Go Go

อย่างที่บอกว่าวันนี้เรามีหมุดหมายคือการตะลุยกิน ถึงถิ่นตลาดบางขุนนนท์ ที่ใครหลายคนต่างร่ำลือว่ามีของดี ของกินบางขุนนนท์เด็ด ๆ แต่นี่ก็ไม่คิดว่าจะได้เริ่มกินตั้งแต่ยังไม่ทันเดินไปไหน ฮ่า ๆ ๆ เดินไปก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปได้กลิ่นกุยช่าย หอม เตะจมูก เลยขอหยุดแวะซื้อก่อนเลย กุยช่ายร้านนี้ถามคุณพี่แม่ค้าว่ามืชื่อไหม เขาบอกว่าไม่มี แต่เราว่าหาไม่ยาก อยู่ใกล้ ๆ ปากซอยถนนบางขุนนนท์เลยค่ะ รูปร่างหน้าตาดี เลยสั่งมาชิม 3 ชิ้น “กุยช่าย” ราคาชิ้นละ 10 บาท (3 ชิ้นไม่น่าเรียกว่าชิม) บอกให้คุณพี่ราดน้ำจิ้มมาเลย ลองชิมแล้วบอกได้คำเดียวว่า “ร้อน!!” ไม่ใช่! ถือว่ารสชาติโอเคเลยค่ะ กินร้อน ๆ ราดน้ำจิ้ม เข้ากั๊น เข้ากัน



หลังจากได้กุยช่ายมากินเล่น เดินต่อมาไม่ถึง 2 ก้าว (ห้ะะะะ) ก็เจอขนมถังทองหน้าตาน่ากิน (อีกแล้ว) อดใจไม่ไหว สั่งมาชิม 1 ชิ้น “ขนมถังทอง” (ราคา 10 บาท) ไส้มะพร้าวข้าวโพดงาดำ สารภาพตามตรงว่าตั้งแต่กินมา ยังไม่ค่อยเจอขนมถังทองที่ถูกใจ แต่สำหรับร้านนี้รสชาติดีงามกว่าร้านอื่น ๆ ที่เคยกินมา แถมไส้แน่น กินได้เต็มปากเต็มคำ แต่บอกเลยว่าแค่กุยช่าย กับขนมถังทอง ยังไม่เป็นการตัดกำลังเรา! เพราะฉะนั้นเราจะเดินไป (หาของกิน) ต่อ ระหว่างที่เดินมุ่งหน้าตรงไป ตาเราก็เหลือบไปเห็น ร้านซาลาเปา วาสนาเข้าให้ เลยไม่รอรี รีบข้ามถนนไปตามล่าชิมซาลาเปาอย่างด่วน

1ซาลาเปาวาสนา
เอาละค่ะ เริ่มปักหมุดที่ร้านแรก? ที่เป็นกิจจะลักษณะกันที่ร้าน “ซาลาเปาวาสนา” อบกันร้อน ๆ สีขาวนวล ชวนให้สั่งมากิน เลยสั่ง “ซาลาเปาไส้หวาน” (ราคา 15 บาท) “ซาลาเปาไส้หมูสับ” (ราคา 15 บาท) และ “ซาลาเปาฮ่องเต้” (ราคา 25 บาท) 1 ลูก เครื่องแน่น มีทั้งหมูสับหมัก ไส้กรอก ไข่เค็ม เห็ดหอม หลังจากได้ซาลาเปาที่สั่งมาครบแล้ว ก็ไม่รอช้า รีบคว้าซาลาเปานุ่ม ๆ ขาว ๆ มาชิม ผลปรากฏก็ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเนื้อแป้งซาลาเปานุ่ม เนียน~ ไส้เยอะใช้ได้เลย ใครที่ชอบกินขนมจีบ ซาลาเปา มาบางขุนนนท์แนะนำให้มาลองชิมที่ร้าน ตอนออกจากเตาสด ๆ ใหม่ ๆ รับรองว่าถูกใจแน่นอน


รองท้องไปเบาะ ๆ กับซาลาเปากันแล้ว ขอไปหาข้าวกินสักหน่อย มองไปตรงข้ามเห็นร้าน “ฮกซ้วง ข้าวมันไก่” เห็นเป็ด ไก่ ห้อยอยู่ ราวกับว่ามันเรียกเราให้เข้าไปกิน ไม่รอช้าค่ะ ข้ามถนนไปหาเป้าหมายใหม่ของเรา


2ฮกซ้วง ข้าวมันไก่
ข้าวมันไก่ร้านดังประจำตลาดบางขุนนนท์ ดูจากลูกค้าที่แวะเวียนมาซื้อกันแบบไม่ขาดสาย แถมยังมีคนสั่งไปกินที่บ้านเพียบ! ถ้าให้เลือกไฮไลต์ของร้าน คงตัดสินใจยากพอสมควร T^T เพราะว่าชิมอะไรก็ดีไปหมด แนะนำให้มาลองชิมเอง เริ่มจากตัวข้าวที่เขามีทั้งข้าวธรรมดาและข้าวมันให้เลือก แต่เราจะขอให้เกียรติความเป็นร้านข้าวมันไก่ด้วยการสั่งข้าวมัน ฮ่า ๆ และด้วยความที่เลือกชิมไม่ถูก เลยเลือก "เมนูข้าวรวม" (ราคา 50 บาท) คือมีทั้ง ไก่ต้ม เป็ดย่าง หมูกรอบ และหมูแดง ในจานเดียว จะได้ชิมให้หมด


เริ่มจากเนื้อไก่ ซิกเนเจอร์ของทางร้าน เนื้อไก่นุ่มค่ะ กินคู่น้ำจิ้มสูตรเด็ดคือเข้ากันดีมากกก ใครชอบข้าวมันไก่ล้วน ๆ สามารถสั่งได้เลย ทางเราแนะนำ ต่อมาที่หมูแดง ถือว่าสอบผ่าน ต่อด้วยเนื้อเป็ด คุณคะ บอกเลยว่าเป็ดเขาไม่ใช่เป็ดแห้ง ๆ หน้าตาเศร้า ๆ แต่เป็นเนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ใครที่ชอบเป็ดก็จัดไปเดี่ยว ๆ ได้เช่นกันกับไก่ ฮ่า ๆ และมาถึงอีกหนึ่งสิ่งที่เราอยากมอบมงให้กับร้าน ฮกซ้วง ข้าวมันไก่ นั่นก็คือ “หมูกรอบ” เพราะทันทีที่เราเคี้ยวหมูกรอบก็สัมผัสได้ถึงความกรอบของหนัง ที่กรอบสู้ฟันมาก ๆ บอกเลยว่าทางเราประทับใจ ขอยกนิ้วให้ร้านอาหารบางขุนนนท์ ฮกซ้วง ข้าวมันไก่ ที่ได้รับการการันตีจากการเปิดร้านมากว่า 20 ปี! ใครมาเยือนซอยบางขุนนนท์ ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่เราไม่อยากให้คุณพลาด ด้วยประการทั้งปวง

3ผลไม้นายสุง
กินคาวเสร็จ เริ่มอยากกินของหวานขึ้นมา นึกขึ้นมาได้ว่ามีอีก 1 ร้านในตำนาน เป็นร้านผลไม้แช่อิ่ม ของกินบางขุนนนท์ที่ใครพูดถึงบางขุนนนท์ก็มักจะพูดถึงร้านนี้กันอย่างเป็นเอกฉันท์กับร้าน “ผลไม้นายสุง” ร้านผลไม้เก่าแก่ในย่านบางขุนนนท์ พิกัดร้านก็จะอยู่เยื้องซอยทางเข้าวัดศรีสุดาราม ตัวร้านก็ยังคงคอนเซปต์ความเก่า มีตู้ใส่ผลไม้นานาชนิดตั้งอยู่ มีทั้งผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม และผลไม้สด เจ้าของร้านก็ไม่ใช่ที่ไหนค่ะ คุณลุง คุณป้า ที่ยังดูแข็งแรง หยิบผลไม้ตามที่ลูกค้าสั่งอย่างกระฉับกระเฉง

อย่างที่บอกค่ะว่ามีผลไม้ให้เลือกอยู่เต็มตู้จนเราแทบเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี เลยสั่งฝรั่งแช่อิ่ม มะม่วงดอง มะกอกดอง (ราคา 65 บาท) มาชิม (ใช้คำว่าชิมอีกแล้ววว) ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามน้ำหนัก ตั้งแต่ 1 ขีด 2 ขีด ครึ่งกิโลฯ หรือ 1 กิโลฯ เลือกสั่งได้ตามความต้องการเลยค่ะ หลังจากสั่งผลไม้มาเรียบร้อย ระหว่างที่รอคุณลุงหั่น และรอคุณป้าใส่ถุงจัดแจงให้เรา ก็ได้พูดคุยกับคุณลุงคุณป้า แกบอกว่าขายมากว่า 50 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ก็ลูกค้าประจำที่กินแล้วติดใจกลับมากินกันเป็นประจำ หรือแม้กระทั่งคนในรั้ว ในวัง ก็มีสั่งไปกินกัน คงไม่ต้องพูดถึงรสชาติใช่มั้ยคะ

ถ้าเป็นของดองก็เป็นดองแบบไทย ๆ คือรสชาติเปรี้ยวนำ หวานอ่อน ๆ ส่วนผลไม้สดก็มีให้เลือกทั้งสับปะรด ฝรั่ง มะม่วง หรือจะเป็นแบบอบแห้งก็มี เอาเป็นว่าใครผ่านมาหรือชอบกินผลไม้ล่ะก็ ต้องแวะมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้า แล้วหิ้วผลไม้กลับบ้านไปกินให้ชื่นใจกันค่ะ

4ร้านตั้งเลียกเส็ง
หลังจากหิ้วผลไม้กลับบ้านแบบชุดใหญ่ และบอกลาคุณลุงคุณป้า ก็ได้เวลาที่เราจะต้องออกไปหาของกินบางขุนนนท์ต่อ เดินไปอีกสองก้าว ก็ได้เจอกับร้าน “ร้านตั้งเลียกเส็ง” ร้านนี้ก็ถือเป็นร้านอาหารบางขุนนนท์ที่มีชื่อเสียงย่านบางขุนนนท์ร้านหนึ่งเลยนะคะ มีเมนูให้เลือกกินหลากหลาย แต่เมนูไฮไลต์คงหนีไม่พ้น “บะหมี่เนื้อปู” (ราคา 60 บาท) เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ลวกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมเนื้อปูสด กินพร้อมน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม หอม คล่องคอ ตามด้วยเมนู “เปาะเปี๊ยะปู” (ราคา 50 บาท) เปาะเปี๊ยะสดไส้ปู ราดน้ำซอสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน พิกัดก็อยู่ริมถนนบางขุนนนท์ ใกล้ ๆ กับร้าน ผลไม้นายสุง เลยค่า อยู่เยื้อง ๆ กับทางเข้าวัดศรีสุดาราม ใครที่ชอบกินบะหมี่ อย่าลืมแวะมาชิมกันที่ ร้านตั้งเลียกเส็ง ได้เลยค่ะ

5ส้มตำปูม้า บางขุนนนท์
หลังจากที่ได้ของร้อน ๆ มาซดกินให้คล่องคอแล้ว ทางเราขอไปต่อด้วยการหาอะไรแซ่บ ๆ กินกระแทกปากกันสักหน่อย เดินมาจาก ร้านตั้งเลียกเส็ง ก็จะเจอกันร้าน “ส้มตำปูม้า บางขุนนนท์” ร้านอาหารบางขุนนนท์อีกร้านหนึ่ง เลยคิดว่ายังไงก็ต้องลอง! แม้ท้องจะเริ่มอิ่ม แต่ซังขอทำหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรี ด้วยการสั่ง “ส้มตำปูม้า” (ราคา 60 บาท) ที่ตำกันมากว่า 15 ปี เรียกได้ว่าเข้าเนื้อทั้งรสชาติอาหาร ที่ผสมผสานกับรสฝีมือ ที่ตำกันมาอย่างยาวนาน


นอกจากส้มตำยังมีเมนู ต้ม ผัด แกง อีกเพียบค่ะ เราเลยสั่ง “เนื้อย่างติดมัน” (ราคา 80 บาท) มากินแกล้ม ย่างมาหอมกำลังดีเชียว สั่งมาจกพร้อม "ข้าวเหนียว" 1 ห่อ (ราคา 10 บาท) ร้านนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องความแซ่บ ราคาสบายกระเป๋า ขวัญใจข้าราชการในย่านนี้ จนแวะเวียนมาเป็นลูกค้าประจำ หลังจากทางเราได้ชิมแล้ว ก็บอกเลยว่าสมคำร่ำลือค่ะ แซ่บถึงใจ ใครที่เป็นคออาหารอีสาน ต้องห้ามพลาดมาเช็กอินที่ร้านอาหารบางขุนนนท์ ร้านส้มตำปูม้า บางขุนนนท์ เด็ดขาด!!
6ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ
กินส้มตำเสร็จเหมือนจะยกธงขาว พักของคาวเอาไว้ แต่ใจมันสั่งมาว่ายังไหว ให้ไปต่อ.. ทางเราก็เลยขอมุ่งมั่นไปหาร้านอาหารบางขุนนนท์เด็ด ๆ เพิ่มอีก เดินมาไม่กี่ก้าวก็เจอร้านที่ชวนชิมสุด ๆ กลิ่นน้ำซุปหอม ๆ เตะจมูก รีบเลี้ยวเข้าร้านอย่างทันควัน แค่เห็นชื่อร้านก็พอรู้แล้วละค่ะว่าจะเด็ดแค่ไหน “ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ” ลูกชิ้นปลาเจ้าเก่า ย่านบางขุนนนท์ คิดว่าใครที่อยู่บางขุนนนท์ไม่น่ามีใครไม่รู้จัก ร้านลูกชิ้นปลาร้านนี้แน่นอน

ที่นี่ถือเป็นร้านต้นตำรับของกินบางขุนนนท์ ขึ้นชื่อเรื่องความสะอาด ใครที่เป็นสาวกลูกชิ้นปลาต้องหลงรัก “ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ” แน่นอน เพราะเขามีลูกชิ้นปลาต่าง ๆ ทั้งลูกชิ้นปลากลม เหลี่ยม เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นกุ้ง บอกเลยว่าลูกชิ้นปลาร้านนี้ รสชาติมาตรฐานไม่เคยเปลี่ยน แถมการบริการคือดีงามมมม เลยขอสั่ง “เกาเหลา” (ราคา 65 บาท) มาชิม ว่าดีอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า พอได้ชิมเท่านั้นแหละค่ะ น้ำตาแทบไหล รสชาติเหมือนก๋วยเตี๋ยวที่เรากินตอนเด็ก ๆ แล้วลูกชิ้นปลาเขาก็เด็ดอย่างที่ลือกันจริง ๆ ส่วนน้ำซุปก็หวานกำลังดี กินพร้อมกันคือแจ่มมาก ๆ กินกันมาถึงจุดนี้ต้องบอกเลยว่า กระเพาะของคาวเราเริ่มไม่ไหวแล้ว แต่! กระเพาะของหวานเรายังว่างอยู่ เพราะฉะนั้นเราจะต้องไปต่อค่ะ แต่ไม่ได้ไปไหนไกล เดินออกจากร้าน ถอยหลังหนึ่งก้าวก็เจอร้าน “ขนมเบื้องแม่ประภา บางขุนนนท์"
7ขนมเบื้องแม่ประภา บางขุนนนท์
“ขนมเบื้องแม่ประภา บางขุนนนท์” ขนมเบื้องสูตรโบราณที่เป็นที่หนึ่งในใจใครหลาย ๆ คน ที่มีต้นตำรับที่บางลำพู ร้านชื่อดังที่มาเปิดที่บางขุนนนท์ ทำให้เราเข้าใกล้ความฟินมากขึ้น อิอิ ขนมเบื้องแม่ประภาของกินบางขุนนนท์ ที่เด่นเรื่องเครื่องเครา ที่จัดมาแน่น ๆ ฝอยทองไข่แดงล้วน ๆ เส้นสวย หอม หวาน กับมะพร้าวหอม ๆ ที่กวนจนเหนียวเข้าเนื้อ ห่อด้วยแป้งขนมเบื้องที่หอมบาง กรุบกรอบ สั่ง"ขนมเบื้อง" 3 ชิ้น (ราคา 12 บาทต่อชิ้น) ชิมเข้าไปทั้งแป้ง ทั้งเครื่อง เต็มปากเต็มคำ กลิ่นหอมเตะจมูก เทกซ์เจอร์ดี ไม่หวานมากจนเกินไป รสชาติที่ชวนฝัน 1 ชิ้นนี่หมดไวจนต้องกินอีกชิ้น แฮะ ๆ


หลังจากที่ฟินกับขนมเบื้องแล้ว เดินตรงไปอีกนิดนึง ตรงข้ามสำนักงานเขตบางกอกน้อย เราก็เจออีกร้านเด็ดบางขุนนนท์ ที่เราเคยเห็นในรีวิว งั้นขอเลือกปิดท้ายที่ร้าน “กล้วยปิ้งนายกอล์ฟ” เลยค่ะ ถือเป็นการปิดทริปที่งดงาม และอิ่มมากกกก~

8กล้วยปิ้งนายกอล์ฟ
อีกร้านเด็ดย่านบางขุนนนท์ที่ใครหลายคนแนะนำคงหนีไม่พ้นร้าน “กล้วยปิ้งนายกอล์ฟ” ที่นอกจากกล้วยปิ้งที่เลิศแล้ว ที่พีคคือน้ำจิ้มสูตรเด็ด เด็ดจนมีคนแวะเวียนมารอพี่กอล์ฟเจ้าของร้านเขาปิ้งแบบไม่พัก จะเลือกกินแบบแยกน้ำก็ได้ หรือกินแบบราดน้ำจิ้มมาเลยก็เด็ดไม่แพ้กัน ทางเราขอเลือกแบบราดน้ำจิ้มมาเลย จะได้ชิมแบบทันท่วงที “กล้วยปิ้ง” (ราคา 25 บาท/ไม้) ยืนกินร้อน ๆ หน้าร้านถือเป็นการปิดท้ายทริปเที่ยวย่านบางขุนนนท์ได้ดีสุด ๆ ไปเลยค่ะ แต่ขอบอกเลยว่านี่เป็นแค่ส่วนเดียวของร้านเด็ดย่านบางขุนนนท์นะคะ เพราะยังมีของกินบางขุนนนท์ อีกหลายเมนูที่เรายังไม่ได้ลองชิม ถ้ามีโอกาสล่ะก็ บอกเลยว่าต้องมาเก็บของกินบางขุนนนท์ให้ครบแน่นอน >_____< เต็มใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง



หลังจากเดินตั้งแต่หัวถนนบางขุนนนท์ ยันท้ายถนนบางขุนนนท์ ก็ขอบอกทุกคนเลยว่า อิ่มมากกกก~ และที่สำคัญใช้เงินไปไม่ถึง 500 บาท ใครอยากจะตามรอยซังมา เที่ยวกรุงเทพฯ เดินเล่นบางขุนนนท์ สวรรค์ของคนชอบกิน! ฟินด้วยงบหลักร้อย ก็ตามกันมาได้เลย ขอบอกก่อนเลยว่ายังมีของกินบางขุนนนท์อีกเพียบ ที่บางร้านก็ปิด บางร้านก็กินต่อไม่ไหวจริง ๆ ยังไงคราวหน้าซังจะลองมาเก็บตกย่านบางขุนนนท์อีกสักที สำหรับวันน้ีขอตัวกลับไปเดินย่อย แล้วสำหรับใครที่ยังไม่จุใจ อยากหาที่เที่ยวกรุงเทพฯ หรือที่เที่ยวฝั่งธนเพิ่มเติมอีกก็ไปตามอ่านกันได้ที่ เที่ยวกรุงเทพฯงบหลักร้อย สนามหลวง 2 - ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต ของเด็ดฝั่งธน และ ตะลุยกิน เที่ยว ถ่าย 1 วันชิค ๆ ตามเส้น BTS ฝั่งธนฯ แล้วอย่าลืมกดไลก์เพจ Wongnai Travel ไว้ รับรองว่ามีทั้งที่เที่ยว ที่กินครบ ถูกใจทุกคนแน่นอนค่าา~