สวัสดีครับผม “แวน เฮ้วซิ่ง” จะพาทุกคนบุกตะลุยที่เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ด้วยงบ 400 บาท ย่านเก่าแก่ในตำนาน ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย อย่างเสาชิงช้า และอาคารทรงยุโรปกระทรวงกลาโหม ที่ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปเช็กอิน และที่ห้ามพลาด แวนเอาใจสายกินด้วยร้านเด็ดเจ้าดังอย่าง ก๋วยเตี๋ยวมันสมองหมูไทยทำ เดินแวะกินกันหลากหลายร้านย่านแพร่งภูธรไปเลยจุก ๆ สายบุญสายมูก็มีครบ ทั้งวัดจีนวัดฮินดู เรียกได้ว่าทริปเดียวได้ครบทุกรสชาติ ขอรับรองเลยครับว่าทริปนี้ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน!

1กระทรวงกลาโหม
และที่แรกของทริปนี้ เราเริ่มกันที่ “กระทรวงกลาโหม” ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญ เรียกได้ว่าใครที่มาเที่ยวย่านสนามหลวงหรือวัดพระแก้วฯ ต้องไม่พลาดแวะมาถ่ายรูปเช็กอินอาคารทรงยุโรปที่ออกแบบตกแต่งสีสันสวยงาม เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายรูปชิค ๆ อยากอัปรูปสวย ๆ ลงอวดในโซเชียล ก็ขอแนะนำที่นี่เลยครับ การเดินทางก็มาง่ายมาก ๆ นั่ง MRT ลงสถานีสนามไชย เดินมานิดหน่อยก็ถึงแล้ว


2ลูกชิ้น - มันสมองหมู ไทยทำ
เดินออกมาอีกนิดเดียวก็จะเจอกับ ชุมชน “แพร่งภูธร” ชุมชนเก่าแก่ซึ่งเป็นย่านการค้าที่มีอายุกว่าร้อยปี ที่แห่งนี้เป็นที่รวบรวมร้านเด็ดชื่อดังไว้มากมาย รู้แบบนี้ ผมก็เดินตามหาร้านเก่าแก่ชื่อดังกันเลยครับ ได้ยินมาว่าที่นี่มีร้าน “ลูกชิ้น - มันสมองหมู ไทยทำ” อยู่ ไม่รอช้า ได้เวลาหาของเด็ด ๆ ลงกระเพาะกันแล้ว

เข้ามาภายในร้าน บรรยากาศอบอวลไปด้วยควันจาง ๆ จากหม้อน้ำซุป เดินถัดเข้าไปอีกนิดก็จะเจอกับคุณยายที่นั่งบรรจงปั้นลูกชิ้นปลาทำเองอยู่ สัมผัสแรกที่ได้รับคือกลิ่นหอมน้ำซุปอ่อน ๆ เข้ากับบรรยากาศร้านที่ดูแล้วรู้เลยว่า ตั้งขายกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผมเลือกสั่ง “เกาเหลารวม” (ราคา 100 บาท) ซึ่งจะได้ชิมทั้งมันสมองหมู และลูกชิ้นปลาได้ในชามเดียวกัน และสั่ง “กุนเชียงตับ” (ราคา 25 บาท) ซึ่งร้านนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนร้านอื่น ๆ ขอยอมรับตรง ๆ เลยครับว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้ทาน “มันสมองหมู” และ “กุนเชียงตับ”


คำแรกที่ได้รสสัมผัสคือ ละลายในปาก ไม่น่าเชื่อว่ากำลังกินสมองหมูอยู่ สัมผัสนุ่มละมุน เบาบาง แต่รสชาติเข้มข้น ไม่มีกลิ่น ไม่คาว มีรสเค็ม ๆ มัน ๆ ในตัว รสชาติดี ประทับใจมากครับ กินคู่กับกุนเชียงตับก็ให้รสสัมผัสหนึบกำลังดี โดยรวมแล้ว ขอบอกเลยว่าต้องตามมาโดนกันครับทุกคน มื้อนี้ผมใช้ไปแค่ 125 บาท
3ลูกชิ้นหมูแพร่งนรา
เดินออกมาจากซอยแพร่งภูธร ทะลุมาได้สักพัก ก็จะเจอกับ “ลูกชิ้นหมูแพร่งนรา” ที่แม่ค้าน่ารัก อัธยาศัยดี กำลังยืนปิ้งอย่างขะมักเขม้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ โชยมาเตะจมูก ทำให้ไม่รอช้าที่จะสั่ง “ลูกชิ้นหมู” (ราคา 30 บาท) ลูกชิ้นหมูของร้านนี้ ปลอดภัยไร้สารบอแร็กซ์ แถมลูกชิ้นหมูที่นี่ยังเป็น ลูกชิ้นเนื้อหมูแท้ กัดทีนึงได้หมูเต็มปากเต็มคำแน่นอนครับ~


4ศาลเจ้าพ่อเสือ
เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ชื่อดัง ตั้งอยู่บนถนนตะนาว ใกล้กับเสาชิงช้าครับ ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพและนับถือ “ศาลเจ้าพ่อเสือ” มาก ซึ่งชาวจีนจะเรียกศาลเจ้านี้ว่า “ตั่วเหล่าเอี้ย” โดยปกติผู้คนจะนิยมมาเสี่ยงเซียมซีและไหว้พระขอพรท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล และผมก็ต้องไม่พลาดแวะไหว้ขอพรสักหน่อย

5เจ๊นี เผือกหิมะ
เดินเลยศาลเจ้าพ่อเสือมาหน่อย ก็ผ่านร้าน “เจ๊นี เผือกหิมะ” ร้านนี้เป็นร้านขายเผือกทอดหลากหลายรสชาติให้ได้เลือกซื้อ แต่ที่พลาดไม่ได้ต้องลองชิมกันเลยก็คือ “เผือกหิมะ” (ราคา 70 บาท) เผือกหิมะสไตล์จีนดั้งเดิม ที่คลุกเคล้าใบหอมและเคลือบน้ำตาล กลิ่นน้ำมันงาที่หอมเป็นเอกลักษณ์ ทำให้รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป กินเพลินมาก ๆ ครับ ผมติดใจจนต้องซื้อห่อใส่กล่องเก็บไว้กินระหว่างทางด้วย


6น้ำปากแดงกาแฟโบราณ
เดินกินเดินเที่ยวกันมาสักพัก ก็รู้สึกอยากนั่งพักจิบน้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจกันสักหน่อย เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับ “น้ำปากแดงกาแฟโบราณ” เป็นร้านกาแฟโบราณชื่อดัง ที่ไม่มีใครในย่านนี้ไม่รู้จัก ป้านิด หรือป้าปากแดง ฉายานี้ได้มาจากการที่ป้านิดใช้ลิปสติกสีแดงสดในทุก ๆ วันของการขายกาแฟ ทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้าง ป้านิดขายกาแฟโบราณราคาเป็นกันเองมาก ๆ ผมเลือกสั่ง “โกโก้นมสดเย็น” (ราคา 30 บาท) ซึ่งจุดเด่นของร้านป้านิดจะอยู่ที่เครื่องดื่มของร้านจะใช้นมสดที่มาจากนมวัวแท้ ต้มในหม้อแยกต่างหาก และที่ประทับใจที่สุดคือ ป้านิดจะราดฟองนมบนโกโก้ของเราเพื่อเพิ่มความหอมเข้มข้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยก็พร้อมออกเดินทางต่อกันแล้วครับผม~


7เสาชิงช้า
และก็มาถึงแลนด์มาร์กที่สำคัญของทริปนี้ มาเที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ทั้งที ไม่แวะถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง “เสาชิงช้า” สถาปัตยกรรมโบราณ ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้าในพระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีลักษณะเป็นเสาสูงสีแดง เป็นจุดเช็กอินสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่านักท่องเที่ยวชนชาติไหนก็ต้องแวะมา

8วัดเทพมณเฑียร
“วัดเทพมณเฑียร” เป็นวัดของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนภารตวิทยาลัย ซึ่งเมื่อเดินขึ้นไปที่ชั้น 3 ก็จะเจอกับโบสถ์ที่ภายในมีเทวรูปหินอ่อนประดิษฐานอยู่หลายองค์ด้วยกัน โดยมี พระวิษณุ และ พระแม่ลักษมี เป็นองค์ประธาน นอกจากนี้ยังมีเทวรูปองค์อื่น ๆ ให้ได้สักการะกันอีกด้วย ผมได้บริจาคเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นค่าทำนุบำรุง 20 บาท พร้อมสักการะขอพรเทพฮินดู ในเรื่องของความรักและครอบครัว เพราะเทพฮินดูของที่นี่จะขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน การงาน การเงิน หรือความรัก สำหรับใครที่แวะมาย่านนี้ก็แนะนำให้แวะเข้ามาเยี่ยมชมสักการะกันได้ครับผม



9ชุมชนบ้านบาตร
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนที่อยากแนะนำ “ชุมชนบ้านบาตร” ชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติการทำบาตรด้วยมือแบบถูกกฎพระธรรมวินัยมาอย่างยาวนาน สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งปัจจุบันนี้ยังคงหาดูกันได้จากชุมชนบ้านบาตรแห่งนี้ บอกเลยครับว่า ที่นี่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยได้ดีเลยทีเดียว


สำหรับชุมชนบ้านบาตรแห่งนี้ เป็นชุมชนเล็ก ๆ แต่มีความมหัศจรรย์ซ่อนอยู่ เพราะตลอดทางที่เข้ามาในชุมชน จะได้ยินเสียงเคาะบาตร ตอกบาตรอยู่ตลอดทาง ให้ความรู้สึกเหมือนว่าได้เข้าใกล้วิถีชีวิตที่มีมาแต่โบราณทุกที ๆ แต่ละซอกซอยในชุมชนนี้ ก็มีเรื่องราวแตกต่างกันออกไป แต่ละบ้านจะทำบาตรกันคนละขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนก็จะมีช่างฝีมือประจำในแต่ละกระบวนการ เรียกได้ว่า กว่าจะได้บาตรออกมาแต่ละใบไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ สำหรับใครที่สนใจอยากจะซื้อหรืออุดหนุนบาตร แนะนำว่าติดต่อเข้ามาก่อนครับ เพราะบาตรแต่ละใบนั้นค่อนข้างใช้เวลาในการทำ


10โตซาลาเปา
หลังจากทัวร์บ้านบาตร ศึกษาเรียนรู้วิธีการทำบาตรแล้ว ผมก็รู้สึกเริ่มหิวเล็กน้อย แวะมาซื้อ “ขนมจีบ ซาลาเปา” (ราคา 50 บาท) ที่ร้าน “โตซาลาเปา” ร้านนี้มีทั้งขนมจีบและซาลาเปาไส้ต่าง ๆ ขอบอกเลยว่าเด็ดมาก ๆ แป้งเหนียวนุ่ม ไส้ทะลักให้มาเต็ม ๆ รสชาติดี งานนี้ผมจองคนเดียว กินเพลินไม่หยุดเลยครับ ฮ่า ๆ


เดินเที่ยวเพลิน ตระเวนกินอิ่มแบบจุก ๆ กับทริป เดินเล่น เช็กอิน กินชิล ชุมชนย่านเก่า ลุยที่เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ทริปนี้ผมใช้เงินไปเพียง “325 บาท” เท่านั้น เหลือเงินกลับบ้านตั้ง “75 บาท” ทริปนี้นอกจากจะได้ไหว้พระ กินของเด็ดแล้ว ยังได้เรียนรู้ศิลปะของคนไทย ที่ไทยคิดไทยทำอีกด้วยครับ เป็นทริปที่อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งท้อง แล้วก็อิ่มทั้งใจ สำหรับใครที่อยากติดตามทริปสนุก ๆ แบบเที่ยวตามสั่ง ก็อย่าลืมติดตามเพจ Wongnai Travel ทริปนี้ลาไปก่อน เจอกันใหม่ทริปหน้าสวัสดีครับผม~