ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวติดกันเยอะมาก ๆ เชื่อว่าหลายคนก็อดใจไม่ไหวที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว และยานพาหนะยอดฮิตอย่าง “รถไฟ” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทาง วันนี้เลยอยากจะพาทุกคนมาจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ที่มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยาก จะเป็นยังไงไปดูกันค่า~

1สมัครสมาชิก
เริ่มจาก สมัครสมาชิก กันก่อนค่ะ สำหรับการสมัครสมาชิกก็ง่ายแสนง่าย มีเพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น เริ่มจาก
- เข้าเว็บไซต์ https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/ คลิก สมัครสมาชิก
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน อ่านขั้นตอนการจองและข้อตกลงการใช้บริการ ใส่เครื่องหมายถูกเพื่อยืนยันว่าท่านได้ศึกษาขั้นตอนใช้งานระบบเรียบร้อยแล้ว และยอมรับข้อตกลงการใช้บริการ จากนั้นกดปุ่มตกลงเพื่อสมัครสมาชิก
- เมื่อกดปุ่มตกลงแล้ว ระบบจะส่ง Verification Code ไปที่อีเมลของท่านที่ได้สมัครสมาชิกไว้ ให้นำ Verification Code ใส่ในช่องรับข้อมูล แล้วกดปุ่มยืนยัน
- เมื่อสมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว จะกลับมาที่หน้าแรก แสดงชื่อผู้ใช้ทางมุมขวาของหน้าจอ



2จองตั๋วรถไฟ
สำหรับการ ซื้อตั๋วรถไฟ ก็ไม่ยากค่ะ มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- ตรวจสอบขบวนรถ โดยเลือกเส้นทางการเดินทาง ต้นทางและปลายทาง ระบุวันเดินทาง และจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการ
- เลือกขบวนรถ
- เลือกตู้
- ระบุข้อมูลผู้โดยสารและเลือกที่นั่ง ซึ่งการเลือกที่นั่งมี 2 แบบคือ ให้ระบบเลือกที่นั่งให้อัตโนมัติ หรือเลือกที่นั่งเอง
- ชำระเงิน
- เลือกช่องทางการชำระเงิน
- ตรวจสอบข้อมูลการเดินทางและค่าโดยสารที่ต้องชำระ แล้วยืนยันการชำระเงิน
- ชำระเงินผ่าน BBL Payment Gateway
- เมื่อขั้นตอนการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะกลับมาที่หน้าเว็บ https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/ พร้อมแสดงข้อความว่าการสำรองที่นั่งเรียบร้อย / Booking Success
- พิมพ์ตั๋ว
- เมื่อทำการสำรองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว ระบบจะ Pop-up ตั๋วเป็นไฟล์ PDF ขึ้นมาให้ พร้อมทั้งส่งไฟล์ไปทางอีเมลที่ท่านสมัครสมาชิกไว้ และเมื่อปิดหน้า Pop-up ตั๋ว จะปรากฏหน้าจอการสำรองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว





3ยกเลิกตั๋วรถไฟและขอคืนเงิน
- ผู้โดยสารสามารถยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินผ่านระบบ e-TSRT โดยจำนวนเงินที่ได้คืน ระบบจะทำการคืนเข้าสู่บัญชีบัตรเครดิต/เดบิตที่ใช้ในการซื้อ
- ผู้โดยสารสามารถนำตั๋วไปยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินได้ที่สถานีรถไฟทุกสถานี โดยเจ้าหน้าที่ที่สถานีจะทำการรับเรื่องไว้ และจะทำการคืนเงินเข้าสู่บัญชี บัตรเครดิต/เดบิตที่ใช้ในการซื้อ
- ยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินค่าโดยสาร จะต้องเสียค่าบริการเพิ่ม ดังนี้ ชั้น 1 ค่าบริการ 40 บาทต่อ 1 ที่นั่ง ชั้น 2 ค่าบริการ 30 บาทต่อ 1 ที่นั่ง และชั้น 3 ค่าบริการ 20 บาทต่อ 1 ที่นั่ง







เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ วิธีการจองตั๋วรถไฟเที่ยวง่าย ๆ ฉบับมือใหม่ ปี 2020 ต้องขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย บอกเลยว่าสะดวกแล้วก็ทำได้รวดเร็วมาก ๆ เหมาะกับคนที่อยากจะออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ และอยากจองตั๋วล่วงหน้า เพราะนอกจากเราจะจองตั๋วได้แล้ว เรายังสามารถยกเลิกตั๋วและขอคืนเงินได้ด้วย และใครที่เรียนรู้วิธีการจองตั๋วแล้ว ก็อย่าลังเลที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวกันนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเที่ยวที่ไหน สามารถติดตามทริปท่องเที่ยวดี ๆ ได้ที่เพจ Wongnai Travel และตอนนี้ต้องขอตัวไปจองตั๋วก่อนค่า อยากเที่ยวแล้ววว~