#วงในบอกมา
- การตั้งชื่อห้องอาหารนามว่า ALATi (อะ-ลา-ตี้) มาจากภาษากรีกที่มีความหมายว่า “เกลือ” ซึ่งถือเป็นสินค้ามีมูลค่าในการค้าขายขนส่งทางเรือผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และถือเป็นเครื่องปรุงที่ทั่วโลกใช้กัน
- เชฟคาร์โล วาเลนเซียโน Executive Chef ชาวอิตาเลียน ได้แรงบันดาลใจจากการท่องเที่ยวสู่การสร้างสรรค์อาหารเมดิเตอร์เรเนียนแบบสมัยใหม่ที่ผสานรูปแบบอาหารของแต่ละประเทศในแถบนั้น
- ห้องอาหาร ALATi นำเข้า “น้ำมันมะกอก” จาก 4 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี สเปน ตุรกี และฝรั่งเศส ด้วยความพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่าง รวมถึง “เกลือ” จากหลายหลายที่มาทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถดูดวงจากกากกาแฟกันได้อีกด้วย

เราเชื่อว่าหนึ่งในแพลนการท่องเที่ยวของใครหลายคน คือการได้ลิ้มลองอาหารตามถิ่นฐานที่ได้ไปเยือนซึ่งถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมของถิ่นนั้น ๆ อย่างชัดเจน แต่ครั้งนี้เราจะขอย่นย่อทั้งเส้นทาง และเวลาให้สะดวกกันมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวสำหรับการเดินทางไปลิ้มลองอาหารแบบฉบับเมดิเตอร์เรเนียนกันที่ใจกลางกรุงเทพฯ
ALATi ตั้งอยู่ในโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ พร้อมเสิร์ฟอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งสร้างสรรค์โดย เชฟคาร์โล วาเลนเซียโน Executive Chef ชาวอิตาเลียนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางท่องเที่ยวในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และนำประสบการณ์มาถ่ายทอดให้เราสัมผัสมนต์เสน่ห์ผ่านอาหารให้เราได้ลิ้มลองกัน ภายใต้การใส่ใจ และคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันด้วยการนำเข้าวัตถุดิบต่าง ๆ ทั้งเนื้อสัตว์ เครื่องเทศ หรือเครื่องปรุงต่าง ๆ อย่าง “น้ำมันมะกอก” จาก 4 ประเทศ ได้แก่ อิตาลี สเปน ตุรกี และฝรั่งเศส ด้วยความพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันทั้งพันธุ์ของมะกอกและพื้นที่การปลูก รวมถึง “เกลือ” จากหลากหลายทั่วโลกที่ต่างกันทั้งรูปลักษณ์และรสชาติ


เมื่อมาเยือนที่ ALATi ความประทับใจแรกเริ่มจากการต้อนรับด้วยเซตขนมปังโฮมเมดเสิร์ฟพร้อมกับ “น้ำมันมะกอก” และ “เกลือ” ที่จะสับเปลี่ยนให้ลิ้มลองไม่ซ้ำกันทุกสัปดาห์ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงไฮไลต์กับการได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ลิ้มลองอาหารในแถบเมดิเตอร์เรเนียนแบบสมัยใหม่ ที่ผสานรูปแบบอาหารของแต่ละประเทศในแถบนั้น ๆ ได้อย่างน่าสนใจ
มาเริ่มกันที่ Snack กันก่อนกับ “Pide” (พีเด) โดย เชฟศานิต ปัจฉิมะศิริ Senior Head Chef บอกเราว่า “Pide” คืออาหารสไตล์ตุรกีที่คล้ายพิซซ่า เป็นรูปทรงคล้ายเรือโดยที่นี่จะทำแป้งโฮมเมดเองในสไตล์ Flatbread ที่ไม่หนาและหนักจนเกินไป เราได้ลอง “Black Truffle and Cheese Pide” (450 บาท) ผสานรสชาติของซอสทรัฟเฟิลสูตรเฉพาะและชีส เสิร์ฟพร้อมเลมอนที่บีบเพิ่มความเปรี้ยวก่อนลิ้มลอง


ตามมาติด ๆ ด้วย Appertiser กับอาหารสไตล์ซีเรียอย่าง “Muhammara (มูฮัมมารา)” (ราคา 380 บาท) เพสวอลนัทผสมกับพริกหยวกแห้งสีแดง Burrata หรือชีสสด น้ำมันมะกอก และซีรัปทับทิม ก่อนกินให้หั่นชีสสด และคลุกเคล้าทุกส่วนผสมให้เข้ากันจึงจะได้สัมผัสรสชาติที่หลากหลายแต่เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ มากันที่เมนูตระกูลพาสต้ากันบ้าง เริ่มจากจานแรกแบบสไตล์อิตาเลียนกับ “Truffle Gnocchi” (550 บาท) Gnocchi คือก้อนพาสต้าไส้มันฝรั่งโฮมเมดพร้อมทรัฟเฟิลครีมซอสสูตรเฉพาะของทาง ALATi


อีกจานแวะไปฝั่งเลบานอนกันบ้างกับ “Shish Barak” (520 บาท) ราวิโอลีสอดไส้สตูว์เนื้อแกะ เพิ่มกลิ่นและรสชาติให้มีมิติอีกขั้นด้วย Labneh (ลาเบิน) ชีสโยเกิร์ต Sumac (ซูแมค) สมุนไพรของแถบตะวันออกกลาง มินต์ และถั่วไพน์นัท ก่อนจะเข้าสู่ช่วง Main แบบฉบับสเปนกับ “Iberico Lamb Rack” (1,250 บาท) เนื้อลูกแกะย่างเสิร์ฟพร้อมกระเทียมย่าง มันฝรั่งโรสแมรี และพาสลีย์ เสิร์ฟพร้อมซอส Gremolata หรือซอสพาสลีย์



ปิดท้ายเป็นของหวานจากฝีมือเชฟชาวฝรั่งเศสกับเมนูสไตล์ฝรั่งเศสตอนใต้กับ “Lemon” (380 บาท) เสิร์ฟพร้อมความอลังการด้วยชั้นวาง 3 ชั้นปกคลุมด้วยฝาแก้วสีใส ด้านในมีทั้งเลมอนสปันจ์ มูสส้ม และเลมอนซอร์เบต์ และถ้าใครเป็นคอกาแฟ เราไม่อยากให้พลาดดื่มด่ำรสชาติสไตล์ตุรกีกับ “Turkish Coffee” (290 บาท) โดยทางร้านนำเข้าทั้งเมล็ดกาแฟ และอุปกรณ์การชงจากตุรกี โดยจะชงในหม้อใบเล็กแก้วต่อแก้ว เสิร์ฟให้เราได้ลองเทและค่อย ๆ จิบรสชาติ และเมื่อกาแฟหมด เรายังสามารถดูดวงได้จากกากกาแฟที่เหลืออยู่ตามพิธีของชาวตุรกีได้อีกด้วย


ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้เปิดประสบการณ์ผ่านหลากหลายเมนูแบบฉบับเมดิเตอร์เรเนียนใจกลางกรุงเทพฯ กับ ALATi ที่นอกจากจะพร้อมเสิร์ฟอาหารที่ล้วนน่าสนใจทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ทางห้องอาหารยังพร้อมจัดกิจกรรมดี ๆ ที่เหมือนพาเราท่องเที่ยวในแถบเมดิเตอร์เรเนียนผ่านเรื่องราวของวัตถุดิบต่าง ๆ โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านทาง อินสตาแกรมของห้องอาหาร ALATi @alati_bkk ได้เลยค่ะ
ลิงค์เมนูอาหารมื้อกลางวัน มื้อค่ำและเครื่องดื่ม คลิก
การเดินทาง
ชวนมาเปิดประสบการณ์พร้อมสัมผัสหลากหลายเมนูอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนกันที่ ALATi ห้องอาหารโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม ทางออก 3 หรือ 5 เดินทะลุสยามพารากอน ชั้น M ซึ่งมีทางเชื่อมติดกับโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โดยร้านอาหาร ALATi ตั้งอยู่ที่ชั้น G บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมฯ