- หน้าแรก
/
- ประวัติบริษัท
Connect people to good stuff

เกี่ยวกับเรา
Wongnai ผู้นำด้านซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสัญชาติไทย ที่เชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้คนไทยด้วยการนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้จริงแบบครบวงจร ทั้งร้านอาหาร สูตรอาหาร ความสวยความงาม และท่องเที่ยว
ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Wongnai พร้อมทั้งคิดค้นและให้บริการด้าน O2O (Online-to-Offline) เพื่อเชื่อมต่อบริการต่างๆ
ในชีวิตประจำวันกับผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงระบบการจัดการร้านอาหาร (Wongnai POS) สำหรับเจ้าของธุรกิจ
ปัจจุบัน Wongnai มีจำนวนผู้ใช้กว่า 10 ล้านรายต่อเดือน และมีฐานข้อมูลร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไทยกว่า 430,000 ร้านทั่วประเทศ โดยได้ควบรวมกิจการกับ LINE MAN ในชื่อ "LINE MAN Wongnai" มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Food Platform ที่แข็งแกร่งที่สุดในไทย
Our Vision
“เชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้คนไทย”
Our Mission
“เป็นผู้นำด้านซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มสัญชาติไทย
ที่เชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้คนไทย ด้วยการนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลรีวิว จากผู้ใช้จริงแบบครบวงจร”
Our Core Values
Impact
กล้าทำงานใหญ่
ไม่กลัวแรงกดดัน
Speed
คิดแล้วทำทันที
เรียนรู้จากความผิดพลาด
และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
Grit
ไม่ย่อท้อ ไม่ยอมแพ้
มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
ที่จะบรรลุเป้าหมาย
Flexible
เต็มใจช่วยเหลือ
แม้ไม่ใช่งานของตน
เพราะรู้ว่าเหมาะสมและได้เรียนรู้
Our Services
- Wongnai Food
ค้นหาร้านอาหารและรีวิวจากผู้ใช้จริง - Wongnai Delivery
สั่งอาหารเดลิเวอรี่ออนไลน์ 24 ชั่วโมงผ่าน Wongnai จากร้านอาหารแนะนำทั่วกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกับ LINE MAN - Wongnai POS by FoodStory
ระบบจัดการร้านอาหารสำหรับเจ้าของธุรกิจ ออกแบบมาเพื่อการเชื่อมต่อร้านอาหารกับ 3 แพลตฟอร์มชั้นนำ Wongnai, LINE MAN และ SCB Easy

ความเป็นมาบริษัท
Struggle
2010-2012Wongnai ก่อตั้งในวันที่ 12 กรกฎาคมปี 2010 โดยผู้ร่วมก่อตั้ง 5 คน ได้แก่ ยอด ชินสุภัคกุล (CEO), บอย-ภัทราวุธ ซื่อสัตยาศิลป์ (CTO), บอย-ศุภฤทธิ์ กฤตยาเกียรณ์ (Chief Architect), ป่าน-วรวีร์ สัตยวินิจ (Head of Product) และหลุยส์-เอกลักษณ์ วิริยะโกวิทยา (COO) ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสมัยที่เรียนอยู่ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากคุณยอด (CEO) ได้ไปเรียนต่อที่ UCLA Anderson School of Management ในสหรัฐอเมริกา และได้ใช้งานเว็บไซต์ Yelp.com เพื่อค้นหาร้านอาหารเป็นประจำ และมองเห็นโอกาสว่าไม่มีบริการแบบเดียวกันนี้ในประเทศไทย
ในช่วงปีแรกของ Wongnai เต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งเรื่องจำนวนร้านอาหารน้อย และรีวิวจากผู้ใช้ยังไม่มาก จึงทำให้คนเลิกใช้งานไป ช่วงนั้น Wongnai จึงต้องรับงานเสริมเพื่อหารายได้ให้บริษัทได้เดินหน้าต่อ
Hypergrowth
2012-2014ในปี 2012 Wongnai กลายเป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่เติบโตสูงสุด ณ ขณะนั้นเป็นยุคที่คนไทยเริ่มใช้สมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย จึงทำให้มีคนใช้ Wongnai เพิ่มขึ้นและทำให้ข้อมูลร้านอาหารบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นตามมา ขณะเดียวกันก็เป็นยุคทองของสตาร์ทอัพ ซึ่ง Wongnai ได้เข้าร่วม Pitching Competition เพื่อนำเสนอธุรกิจให้กับนักลงทุน ทำให้ Wongnai เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นในหมู่ผู้ใช้ทั่วไปและแวดวงนักลงทุน
ในปี 2013 และ ปี 2014 Wongnai ได้รับการลงทุน Series A funding ถึง 2 ครั้งจาก Recruit Strategic Partners ภายใต้ Recruit Holdings บริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ Wongnai มีเงินทุนในการพัฒนาโปรดักท์และทำการตลาดมากขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Wongnai เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีจำนวนผู้ใช้เติบโตขึ้นจากหลักหมื่นเพิ่มเป็นหลักล้านคน จำนวนรีวิวเพิ่มขึ้นหลายเท่า และทราฟฟิคก็เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า ภายใน 2-3 ปี
Expand & Diversify
2014-2018ก้าวเข้าสู่ปี 2014 Wongnai ขยายธุรกิจไปยังหัวเมืองต่างจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ชลบุรี หัวหิน หาดใหญ่ และภูเก็ต พร้อมกับคิดค้นและพัฒนาบริการให้หลากหลายมากขึ้น นอกจากธุรกิจด้าน Wongnai Foodแล้ว Wongnai ยังเปิดตัวบริการใหม่เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ใช้ได้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของคนไทย ได้แก่
ปี 2015 - Wongnai Beauty
ปี 2016 - Wongnai x LINE MAN
ปี 2017 - Wongnai Cooking
ปี 2018 - Wongnai Travel
ในขณะเดียวกันปี 2016 Wongnai ยังได้รับการลงทุน Series B funding จาก Intouch ในโครงการ Invent โดยเป็นการลงทุนครั้งที่ใหญ่ที่สุด และเป็นครั้งแรกที่ Venture Capital ในไทยร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพไทยอีกด้วย
นอกจากนี้ในปี 2018 Wongnai ได้จับมือกับ FoodStory เปิดตัว Wongnai POS by FoodStory ระบบจัดการร้านอาหารที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ประกอบการได้เชื่อมต่อกับผู้บริโภคผ่าน Wongnai รวมถึงแพลตฟอร์มอย่าง SCB Easy และ LINE MAN
Building End-to-end Food Ecosystem
2019-Nowนับตั้งแต่ปี 2019 Wongnai ได้เดินหน้าสู่การเป็น O2O Platform เพื่อเชื่อมต่อบริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันกับผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อ โดยได้คิดค้นและพัฒนาบริการ Online-to-Offline มากมาย ได้แก่ Wongnai x eatigo Reservations, Wongnai Massage at Home ฯลฯ โดยมุ่งมั่นที่จะเป็น “ซูเปอร์ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม” ที่คนไทยสามารถใช้งานได้ทุกวัน
จากนั้นในเดือนกรกฎาคม 2020 เป็นช่วงเวลาที่ก้าวกระโดดของ Wongnai อีกครั้ง เนื่องจาก LINE MAN และ Wongnai ได้รับเงินลงทุนมูลค่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) จากบริษัท BRV Capital Management และประกาศควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการในชื่อ "LINE MAN Wongnai" ในเดือนกันยายน 2020
เดินหน้าสู่การเป็น Food Platform อันดับหนึ่งด้วยการสร้าง End-to-end Food Ecosystem ที่แข็งแกร่งที่สุดของไทย ตั้งแต่ออนไลน์ไปถึงออฟไลน์ ทั้งการค้นหาข้อมูลรีวิวร้านอาหาร การสั่งอาหารเดลิเวอรี บริการขนส่งออนดีมานด์อื่นๆ รวมถึงโซลูชันสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร