ดูแลเท้าอย่างไร ในฤดูอับชื้น

ดูแลเท้าอย่างไร ในฤดูอับชื้น

วิธีดูแลเท้าในหน้าฝน ที่อากาศอับชื้น ทำให้เสี่ยงกับการเป็นเชื้อรา ไม่ว่าจะเป็นฝ่าเท้า ซอกนิ้วเท้า หรือเล็บเท้าของเราสามารถติดเชื้อราได้
writerProfile
29 ก.ค. 2016 · โดย

ดูแลเท้าอย่างไร ในฤดูอับชื้น

ในช่วงฤดูกาลที่ฝนตกถี่ขนาดที่ว่า ตากกางเกงชั้นในตัวจิ๋วยังแห้งยากแบบนี้ หนึ่งในกลุ่มโรคที่หมอได้มีโอกาสดู ตรวจ ดม และสั่งยารักษาเกือบทุกวันคือ การติดเชื้อราบริเวณเท้า ซึ่งไม่ว่าจะฝ่าเท้า ซอกนิ้วเท้า หรือเล็บเท้า ล้วนเป็นบริเวณที่ถูกเชื้อรารุกรานได้ทั้งสิ้น

กลุ่มเชื้อราที่ชอบเข้ามากัดกินเคราตินที่ผิวและเล็บเป็นอาหารนั้น คือเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes โดยฝ่าเท้าที่ติดเชื้อจะมีอาการคัน ผิวหนังลอก เป็นผื่น ซึ่งมีทั้งแบบที่ลอกบริเวณซอกนิ้ว แบบที่ลอกทั้งฝ่าเท้า และแบบที่ขึ้นเป็นตุ่มน้ำซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก ส่วนเล็บเท้าที่เรามักจะละเลย เล็บเท้าที่ติดเชื้อรา มักมีลักษณะหนาตัวขึ้น ผิวเล็บขรุขระ สีของเล็บจะออกเหลืองหรือคล้ำ มีขุยใต้เล็บ แต่ไม่มีอาการเจ็บ ซึ่งการติดเชื้อราที่เล็บนี้ รักษายากและใช้เวลาในการรักษาเป็นหนังมหากาพย์ไตรภาคยิ่งกว่าการติดเชื้อราที่ผิวอีกนะ

การป้องกันจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ยิ่งถ้าปล่อยไว้ไม่ดูแล เชื้อราจะยิ่งลุกลามกลายเป็นโรคติดเชื้อราที่เล็บเท้า หรือที่เรียกว่า Onychomycosis

วิธีการดูแลเท้าและเล็บเท้าเพื่อป้องกันการติดเชื้อรานั้น

1.หลีกเลี่ยงการลุยน้ำท่วม หรือเลี่ยงบริเวณที่น้ำรอการระบาย

2.ใส่รองเท้าและถุงเท้าที่แห้งสนิท อาจต้องพกถุงเท้าสำรอง หากจำเป็น หรือมีรองเท้าแตะไว้สำรองที่ทำงาน

3.หากจำเป็นต้องลุยน้ำท่วม หลังลุยน้ำ ต้องล้างเท้าให้สะอาด เน้นฟอกสบู่บริเวณซอกนิ้ว ซอกเล็บ เช็ดให้แห้งสนิท และตัดเล็บให้สั้น

4.หลังล้างทำความสะอาด ทาครีมให้ความชุ่มชื้นกับฝ่าเท้า และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเล็บ ที่ซึมได้ดี ที่มี Urea ให้ความชุ่มชื้น และ Lactic acid ช่วยผลัดผิวเล็บ

5.เลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในห้องน้ำสาธารณะ ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ

6.ไม่ใช้รองเท้า ผ้าเช็ดตัว หรือของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

7.วันที่แดดออก อย่าพลาดโอกาสที่จะนำรองเท้าและถุงเท้าไปตากแดด เพื่อลดปริมาณเชื้อโรคที่สะสม

8.หากมีอาการที่สงสัยว่าจะติดเชื้อรา ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษา ไม่ควรซื้อยามาทาหรือรับประทานเอง เพราะอาจรักษาไม่ถูกโรค หรือไม่ถูกเชื้อ เสี่ยงต่อผลข้างเคียงจากยา และอาจทำให้อาการเป็นมากขึ้นได้

หากรักที่จะดูแลร่างกายตัวเอง ก็อย่ามองข้ามการดูแลเท้าและเล็บเท้าไปนะคะ โดยเฉพาะสาวๆ ดูแลรูปร่างผิวพรรณอย่างดี แต่มีกลิ่นเท้านี่ไม่งามนะจ๊ะ

_____________________________________________________________________________________________________

ข้อมูลจาก : พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง) Twitter, Instagram: @thidakarn