ถ้ามีโอกาสมาเยือนอำเภอแม่แตง ขอแนะนำว่าต้องแวะมาร้าน “บ้านสวนชมจันทร์” ที่คนในพื้นที่นี้ได้เลือกเป็นร้านอาหารกิน-ดื่มชิลล์ๆ ที่ติดอันดับต้นๆ ของย่านนี้เลยเชียวล่ะ! เพราะว่าที่นี่ได้นำเสนอวัตถุดิบที่มีคุณภาพในราคาน่าคบหา และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภูเขาได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เหมาะกับช่วงเวลาพักตารางชีวิตแล้วมาผ่อนคลายให้อิ่มเอมใจจริงๆ
เดิมทีร้านนี้เป็นที่พักที่อยู่อาศัย และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของพืชผัก ด้วยเหตุนี้จึงได้เริ่มปลูกผักและนำมาปรุงอาหารเพราะใช้ต้นทุนที่ไม่สูงมาก และได้ทดลองขายกับเพื่อนฝูง รวมถึงคนในละแวกนี้เป็นระยะเวลา 2 ปี จนได้เสียงตอบรับที่ดี เลยหันหลังจากธุรกิจครอบครัวมาเป็นธุรกิจร้านอาหารแบบเต็มตัว ซึ่งในตอนนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 แล้ว
ในส่วนบรรยากาศของที่นี่ชูจุดเด่นด้วยความเงียบสงบและทัศนียภาพกลางขุนเขาที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยสีเขียวขจีจากต้นไม้ พร้อมรับลมโกรกเย็นๆ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ตกแต่งร้านคุมโทนด้วยสีสบายตากลมกลืนไปกับธรรมชาติ มุมที่นั่งก็มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะนั่งเบาะนุ่มๆ ในมุมโซฟา หากอยากเหยียดแข้ง เหยียดขาก็มีให้นั่งแบบสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะนั่งในซุ้มที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที
นอกจากธรรมชาติและบรรยากาศแวดล้อมที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มแล้ว รสชาติอาหารที่นี่ก็ถูกลิ้นคนไทย ถูกใจชาวเหนือด้วยเช่นกัน โดยหลักๆ จะเป็นเมนูอาหารไทยรสชาติจัดจ้านและเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ที่มีให้เลือกทั้งหมดมากถึง 200 เมนู
มาดูกันที่เมนูสุดฮิตขายดิบขายดี อย่าง “ส้มตำสาหร่าย” (139 บาท) สาหร่ายพวงองุ่นส่งตรงจากเมืองภูเก็ตที่มีคุณค่าทางโภชนาการอาหารสูง เสิร์ฟมาคู่กับน้ำส้มตำแบบชุ่มฉ่ำ เป็นความแซ่บที่เคี้ยวเพลินกรุบกรับๆ แถมยังดีต่อสุขภาพ และช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย หรือจะเป็นเมนูที่ตั้งชื่อจากบรรยากาศโดยรวมของร้าน กับ “ตำปูม้าโล่งโจ้ง” ปูม้าเนื้อเย็นๆ ขนาดกำลังดี ที่คลุกเคล้ากับน้ำส้มตำจนแทรกซึมเข้าถึงเนื้อ ครบรสความเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม อย่างลงตัว ในความคุ้มค่าเพียง 79 บาทเท่านั้น!
ส้มตำสาหร่าย
ตำปูม้าโล่งโจ้ง
และด้วยความที่ใช้ปูม้านำไปประกอบเมนูอาหารต่างๆ แต่ได้เหลือเพียงไข่ปูเท่านั้นที่ไม่ได้ใช้ จะทิ้งไปก็เสียดายเปล่า เลยได้เกิดเมนูใหม่ขึ้นมาก็คือ “น้ำพริกมันปู” (79 บาท) ขั้นตอนการทำน้ำพริกมันปูจะคล้ายกับน้ำพริกอ่อง แต่เอามาดัดแปลงโดยใส่มันปูลงไป ผิวสัมผัสจึงมีความมันนิดๆ หอมกะทิหน่อยๆ พร้อมรสสัมผัสที่มีความเผ็ดแบบละเมียดละไม ตักทานเปล่าๆ เอร็ดอร่อยได้ไม่มีเบื่อ หรือข้าวสวยร้อนๆ และผักต้มก็เข้าขากันดี อีกหนึ่งเมนูรสชาติแบบฉบับไทยๆ ที่เรียกน้ำย่อยได้ดี อย่าง “ปลาหมึกผัดไข่เค็ม” (99 บาท) วัตถุดิบอาหารทะเลสดๆ ที่ถูกเคลือบด้วยความเข้มข้นเครื่องแกงกะหรี่ และรสชาติเค็มมันกำลังดีของไข่เค็มที่ไม่เข้มจนเกินไป ชวนให้ตักทานได้เรื่อยๆ จนอิ่มแบบไม่รู้ตัว
น้ำพริกมันปู
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม
หากชอบรับประทานเครื่องเคียงหรือเป็นกับข้าว ไม่ควรพลาดกับเมนู “ปลาทับทิมสองใจ” (239 บาท) เป็นเมนูที่สร้างอรรถรสในการทานได้เป็นอย่างดี หากใครมาเป็นคู่ก็ควรระวังเวลาสั่งอาหาร เพราะอาจจะงอลกันได้ หรือสร้างรอยยิ้มเล็กๆ ที่มีเลศนัยเอาไว้ ที่นี่ได้เลือกใช้ปลาทับทิมน้ำจืดที่ได้มาจากเขื่อนแม่งัดใกล้ๆ กับร้านนี่เอง จึงสามารถควบคุมคุณภาพความสดใหม่ได้อย่างสม่ำเสมอ ความพิเศษของเมนูนี้ คือหน้าตาปลาที่เสิร์ฟออกมาเป็นรูปหัวใจ ซีกหนึ่งจะราดด้วยน้ำจิ้มสามรส ส่วนอีกซีกจะโรยด้วยกระเทียมทอด เป็นรสชาติความอร่อยที่เปรียบได้กับความรักครั้งหนึ่งของคนเราที่จะต้องรู้สึกหวานอมขมกลืนในคราวเดียวกัน
ซีกที่ราดน้ำจิ้มสามรส
โรยด้วยกระเทียมทอด
ถ้าใครกำลังมองหาเมนูนั่งทานเพลินๆ สั่งมาชุดเดียวอิ่มคุ้ม และเข้ากับคอนเซ็ปต์ของคนรักสุขภาพในยุคนี้ กับเมนู “สุกี้เห็ด” (159 บาท) เสิร์ฟมาเป็นเซ็ทใหญ่ๆ ที่มีผักสด วุ้นเส้น และสารพัดเห็ดมากมาย อาทิ เห็ดนางรมหลวง, เห็ดหอม, เห็ดเข็มทอง, เห็ดออรินจิ เป็นต้น มีให้เลือกน้ำซุป 2 รสชาติ คือ น้ำซุปเห็ดหอม และ น้ำซุปต้มยำ พร้อมทานคู่กับ 2 น้ำจิ้ม รสเผ็ดหวานและเผ็ดเปรี้ยว แบบเนื้อก็มีเช่นกัน “หมูจุ่มปลาจุ่ม” (139 บาท) ที่จะเพิ่มความหอมของน้ำซุปด้วยการใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไป เพื่อเสิรมรสชาติให้กับเนื้อหมูและเนื้อปลา หรือใครต้องการอิ่มครบจบเมนูเดียว ก็มี “ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมาทะเล” (99 บาท) หลากวัตถุดิบอาหารทะเลที่นำไปผัดกับเส้นเซี่ยงไฮ้หนึบหนับ มาพร้อมความเผ็ดร้อนตามฉบับไทยๆ บ้านเรา
สุกี้เห็ด
หมูจุ่มปลาจุ่ม
ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมาทะเล
อิ่มหนำสราญกับเมนูอาหารหลักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานและเครื่องดื่มเย็นๆ ได้ทั้ง ”สาคูแคนตาลูปนมสด” (79 บาท) และ “น้ำมะพร้าวสด” (45 บาท) ที่เสิร์ฟมาเป็นลูก หรือจะเน้นไปทางเค้กก็มี เช่น “เค้กเรดเวลเวท” (55 บาท) , เค้กช็อกโกแลตมูส (55 บาท) จับคู่กับสามเครื่องดื่มอย่าง “ชาเขียวปั่นเฉาก๊วย” (55 บาท) , "คาปูชิโน่เย็น" (50 บาท) และ“น้ำเสาวรส” (40 บาท) ก็สดชื่นหายเมื่อยล้าได้ดีเลยทีเดียว
สาคูแคนตาลูปนมสด และ น้ำเสาวรส
เค้กช็อกโกแลตมูส
หากใครที่เบื่อชีวิตในเมือง หรืออยากหลีกหนีความวุ่นวาย ต้องไม่พลาดกับ “บ้านสวนชมจันทร์” แห่งนี้ อิ่มสุขสำราญได้ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ พร้อมดนตรีสดแนวเพลงสไตล์คันทรี่ และ Easy Listening ที่สำคัญมีห้องพักให้บริการอีกด้วย ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ถ้าไม่รีบโทรจองกันล่วงหน้า ช้าหมด! อดเลยนะ!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fan Page: บ้านสวนชมจันทร์Website: บ้านสวนชมจันทร์Tel. 053-047-111 ,053-047-123 , 089-433-5819
