ไหนมีใครเคยสับสนงงงวยกับการเลือกซื้อสกินแคร์บ้างคะ บางทีจะเลือกซื้อก็งงซะเหลือเกิน เยอะไปหมด ข้อแนะนำอย่างนึงคือเวลาเลือกสกินแคร์สักตัว ต้องเลือกเนื้อสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวเรา และก็ต้องเลือกให้ตรงกับปัญหาผิวที่เราเจอด้วยนะคะ อย่างผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เห็นแล้วปิ๊งเลยคือ Clinique iD เขามีสูตรให้เลือกถึง 15 สูตร ตามปัญหาผิว ว่าแต่จะเลือกใช้สูตรไหนดีมาดูวิธีเลือกกันก่อนค่ะ
วิธีเลือกใช้สกินแคร์ ให้ตอบโจทย์ผิว

โดยเริ่มแรกสาว ๆ ต้องเลือกเนื้อสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวก่อน จากนั้นก็เลือกตัวบูสเตอร์ซึ่งเป็นสารสกัดเข้มข้นที่ช่วยบำรุงผิวกันอีก ใครที่กำลังงงว่าจะเลือกสูตรไหนดี วันนี้เรามีควิซสนุก ๆ มาให้ทุกคนได้เล่นกันค่ะ รับรองความแม่นยำ 99% เหลือไว้ 1% เผื่อใครเลือกไม่ถูกจริง ๆ ว่าตัวเองเป็นแบบไหน อย่ารอช้า ไปเล่นกันเลยดีกว่าาา
ทดสอบเลือกเนื้อสกินแคร์ที่เหมาะกับผิว

เนื้อสกินแคร์ที่เหมาะกับผิว
คำตอบข้อ A

เนื้อสกินแคร์แนะนำ : Oil-Control Gel (เนื้อเจล ไม่มีน้ำมัน)
ลักษณะผิวที่เหมาะ : สาว ๆ ที่เหมาะกับเนื้อสกินแคร์แบบนี้ มักจะมีผิวมัน หน้าจะมีลักษณะมันเงา ๆ โดยเฉพาะบริเวณ T-ZONE คือ บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง มีรูขุมขนกว้าง เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนและเป็นสิวได้ง่ายกว่าผิวแบบอื่น ๆ ค่ะ แต่ว่าความมันนี้ก็เป็นเหมือนสิ่งที่เคลือบผิว ไม่ให้เสียความชุ่มชื้น คนที่มีผิวมันเลยจะไม่เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ง่าย ๆ ค่ะ
คำตอบข้อ B

เนื้อสกินแคร์แนะนำ : Hydrating Jelly (เนื้อเจลเนื้อใส)
ลักษณะผิวที่เหมาะ : เป็นผิวที่พบได้มากที่สุดในประเทศที่มีอากาศร้อนแบบเรา ๆ นั่นก็คือผิวผสม มันจะงง ๆ หน่อยเพราะมีทั้งบริเวณที่แห้งและมันบนใบหน้า ผิวบริเวณส่วนกลางอย่าง T-ZONE เช่น หน้าผาก จมูก คาง จะมีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่าบริเวณอื่น ๆ และเป็นส่วนที่เกิดสิวได้ง่ายมากกว่าบริเวณอื่นค่ะ ในเวลาเดียวกันบริเวณที่มีต่อมไขมันน้อยกว่าอย่างรอบดวงตา ข้างแก้ม ก็มักเกิดอาการแห้ง หรือบางทีผิวลอกเป็นขุยบ้างก็มี นอกจากนี้เนื้อประเภทนี้ยังเหมาะกับทุกสภาพผิวอีกด้วยนะคะ
คำตอบข้อ C

เนื้อสกินแคร์แนะนำ : Moisturizing Lotion (เนื้อโลชั่น)
ลักษณะผิวที่เหมาะ : คนที่มีผิวแห้งมักจะมีผิวหน้าที่ดูเนียน เนื่องจากมีรูขุมขนที่ละเอียดแต่ผิวแห้งกร้าน บางทีก็แห้งถึงขนาดลอกเป็นขุย ทำให้ผิวไม่นุ่มนวล เห็นได้ชัดขณะหลังล้างหน้าเพราะจะรู้สึกตึงและฝืดหน้า มีอาการคันและระคายเคือง และมักจะมีปัญหาเรื่องริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายกว่าผิวแบบอื่น ๆ ค่ะ
มาดูกันเถอะ เราเหมาะกับการบำรุงแบบไหน

เฉลยคำตอบ

บูสเตอร์หลอดสีส้ม : เหมาะกับสาวที่มีปัญหาผิวดูโทรม ไม่สดใส เหนื่อยล้า บูสเตอร์ตัวนี้จะช่วยให้ผิวเปล่งประกาย ดูสุขภาพดีมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
บูสเตอร์หลอดสีฟ้า : ใครที่เหมาะกับบูสเตอร์ตัวนี้แสดงว่าต้องการแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียนค่ะ บูสเตอร์ตัวนี้จะช่วยกระชับรูขุมขน ผลัดเซลล์ที่เสื่อมออก ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
บูสเตอร์หลอดสีขาว : บูสเตอร์ตัวนี้เรื่องเด่น ๆ ที่ช่วยคือเรื่องความกระจ่างใสค่ะ ใครที่มีปัญหารอยสิว จุดด่างดำแนะนำเลย แถมยังช่วยปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอด้วยนะ!
บูสเตอร์หลอดสีม่วง : ยืนหนึ่งเรื่องช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นเลยค่ะ เพราะเขามีสารบำรุงเข้มข้นจากอะมิโนโปรตีน ช่วยให้ผิวกระชับ ริ้วรอยตื้นขึ้น
บูสเตอร์หลอดสีเขียว : สาวผิวแพ้ง่ายต้องบูสเตอร์สีเขียวตัวนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะแพ้นะคะ เพราะเขาออกแบบมาให้อ่อนโยน ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ แถมยังลดการระคายเคืองของผิว ลดรอยแดงด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ สาว ๆ ได้สกินแคร์ที่ตรงใจกันบ้างหรือป่าว อย่างที่บอกไปค่ะ ผลิตภัณฑ์ที่เราแนะนำวันนี้ก็คือเจ้า Clinique iD ความพิเศษของเขาก็คือสามารถออกแบบสกินแคร์ให้ตอบโจทย์กับผิวเราได้ตรงจุด สามารถเลือกได้ตั้งแต่เนื้อเลยค่ะว่าเนื้อแบบไหนเหมาะกับผิวเรา เลือกเนื้อเสร็จสามารถมาเลือกบูสเตอร์ต่อว่าอยากเน้นบำรุงแบบไหน แถมไม่มีน้ำหอมและพาราเบนด้วยนะคะ เรียกได้ว่าบำรุงได้ถูกจุดกันไปเลย!




สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้สูตรไหนดีน้าาาาา ลองแวะไปที่เคาน์เตอร์ของ Clinique ได้ทุกสาขาเลยนะคะ สามารถสอบถามน้องพนักงานเพิ่มเติมได้ ส่วนเราก็แวะไปเทสนต์เนื้อมาแล้วแหละ รอสิ้นเดือนเงินออก ต้องขอจัดมาสักสูตรดูหน่อย สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ ครั้งหน้าจะมีบทความดี ๆ อะไรมาแนะนำ อย่าลืมติดตามกันนะคะ
ช่องทางการติดต่อ
Website : www.clinique.co.th
Facebook : Clinique
IG : cliniquethailand