นอกจากเจ้าเหมียวขนฟูจะดูน่ารักแล้ว ก็ยังสามารถเป็นเพื่อนที่ดีให้กับมนุษย์ได้ แถมยังเหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่ปิด หรือพื้นที่จำกัดอย่างในบ้าน หรือคอนโด ช่วยทำให้มนุษย์คลายความซึมเศร้าไปได้อีกด้วย สำหรับใครที่อยากรับแมวจรมาเลี้ยง หรืออยากมีแมวเป็นของตัวเอง เลี้ยงแมวครั้งแรก เป็นทาสแมวมือใหม่ ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอุปกรณ์ในการเลี้ยงยังไง เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่? Wongnai Beauty ลิสต์รายการมาให้แล้ว! แต่ต้องบอกเลยว่างบในการเลี้ยงแมวของแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามเลเวลของการสปอยล์แมว ถ้ายิ่งสปอยล์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้งบเยอะมากเท่านั้น มีทั้งเลี้ยงแบบประหยัด แบบธรรมดา และแบบไฮโซ เป็นแมวราชนิกูล เลือกเอาตามงบของตัวเองได้เลย
เลี้ยงแมวครั้งแรกต้องเตรียมอะไรบ้าง งบในการเลี้ยงแมว 1 ตัว ใช้เงินประมาณเท่าไหร่
1. ค่าอาหาร
ค่าอาหารแมวก็มีทั้งอาหารเม็ด และอาหารเปียก หลากหลายเกรดแตกต่างกันไป ซื้อแบบแบ่งขาย ก็จะราคาไม่แพง ถ้าเป็นอาหารเม็ดเกรดดี ๆ ปริมาณโซเดียมต่ำ ก็จะยิ่งราคาสูง นอกจากนี้ยังมีอาหารแมวที่เป็นอาหารแบบออแกนิกส์เหมือนอาหารคนอีกด้วย ซึ่งข้อดีของอาหารออแกนิกส์ ก็จะทำให้แมวมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ขนสวย และไม่ป่วยง่าย เหมือนกับคนที่กินอาหารดี ๆ เพื่อบำรุงร่างกายไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ถ้าน้องแมวไม่ได้ป่วย ก็สามารถให้อาหารเม็ดธรรมดา ๆ ได้ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นอาหารออแกนิกส์ อาหารเปียกแมว จะให้แมวกินตอนอายุ 3-4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังจากนั้นถึงจะเริ่มกินอาหารเม็ด การให้อาหารควรแบ่งอาหารแมวน้อย ๆ แต่ให้บ่อย ประมาณ 4 มื้อ/วัน เพื่อไม่ให้อาหารชืด และให้แมวได้จำกัดปริมาณในการกิน ไม่ให้กินเยอะจนท้องอืด หลังจากที่แมวเริ่มโตก็เปลี่ยนมาให้วันละ 3 มื้อ/วันแทน อาหารแมว 1 ถุง สามารถอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด 150 บาท
- แบบธรรมดา 300 บาท
- แบบไฮโซ 600 บาท
2. ค่าวัคซีน
ค่าใช้จ่ายที่สำคัญก่อนที่จะเลี้ยงแมว ก็คือค่าวัคซีนกันโรคต่าง ๆ เพื่อให้แมวมีสุขภาพดี เติบโตได้อย่างแข็งแรง วัคซีนแข็งแรกจะฉีดตอนที่แมวมีอายุ 8 สัปดาห์ (2 เดือน) ถ้ารับแมวจรมาเลี้ยง ควรดูอาการก่อน 2 สัปดาห์ เผื่อแมวเป็นโรค แล้วถึงจะพาแมวไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนได้ วัคซีนที่จำเป็นก็อย่างเช่น วัคซีนป้องกันโรคหัดแมว และวัคซีนป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ ช่องปาก และลิ้นอักเสบ วัคซีนกันลิวคิเมีย ถ้าน้องแมวเลี้ยงระบบเปิด อาจจะต้องฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้า วันซีนกันโรคเอดส์แมว และอาจจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบเผื่อน้องไปกินอะไรแปลก ๆ นอกบ้าน เมื่อฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ควรจับน้องแมวอาบน้ำ เพราะน้องแมวอาจจะป่วยได้ ต้องรอให้น้องปรับตัวก่อนนะ อ้อ! และที่สำคัญ แมวท้องจะไม่สามารถฉีดวัคซีนได้เพราะอาจจะแท้งได้นะ ต้องระวังมาก ๆ
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด 300 บาท
- แบบธรรมดา 700 บาท
- แบบไฮโซ 1,100 บาท
3. กระบะทรายแมว
โดยธรรมชาติของแมวแล้ว จะขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง เราจึงต้องเตรียมกระบะทรายแมวไว้ให้น้องด้วย กระบะทรายแมวควรมีขนาดที่ไม่เล็กเกินไป น้องแมวสามารถเข้าไปนั่งได้ทั้งตัว ค่อนข้างลึก เพื่อที่เวลาแมวกลบสิ่งปฏิกูลแล้ว ทรายแมวจะไม่กระเด็นออกมาเลอะเทอะ ที่ตั้งกระบะทราย ต้องเป็นที่ ๆ ค่อนข้างสะอาดและสงบเพื่อความเป็นส่วนตัว อยู่ห่างจากจุดให้อาหาร แต่ก็ต้องเป็นที่ ๆ น้องมองเห็นและสามารถใช้งานได้ทันที ควรรักษาความสะอาดและตักของเสียที่แมวทิ้งไว้ทุก ๆ วัน เพื่อลดกลิ่น และทำให้น้องแมวไม่เครียด เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างรักสะอาด การรักษาความสะอาดของกระบะทรายแมว นอกจากจะลดกลิ่นแล้ว ก็ยังทำให้น้องแมวไม่เป็นโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะและการขับถ่ายด้วยนะ กระบะทรายแบบประหยัดก็สามารถซื้อกะละมังก้นลึกมาเททรายแมวใส่ลงไปได้ ส่วนแบบไฮโซก็จะเป็นแบบอัตโนมัติ เหมือนยาวอวกาศ สามารถ เชื่อมต่อผ่านแอปและดูได้ว่าควรเปลี่ยนทรายแมวตอนไหน ที่สำคัญ ต้องฝึกให้น้องคุ้นชินกับการใช้กระบะทรายแมวด้วยนะ ถ้าซื้อของแพงมาแต่น้องไม่ใช้ หรือใช้ไม่เป็น ก็อาจจะเสียเงินเปล่าได้
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด 80 บาท
- แบบธรรมดา 300 บาท
- แบบไฮโซ 8,790 บาท
4. ชามใส่อาหารและน้ำ
ชามใส่อาหารและน้ำ ก็ควรเป็นชามที่น้องยืนแล้วสามารถกินได้อย่างสะดวก ใครที่มีชามข้าวพลาสติกเก่า ๆ ก็สามารถใช้เป็นชามใส่อาหารและน้ำให้น้องแมวได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็อาจจะซื้อจากร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป ราคาก็ไม่แพงมาก หลักสิบเท่านั้น เลือกที่เป็นแบบพลาสติก หรือถ้าอยากให้ทนทาน ก็เป็นแบบสแตนเลสก็ดีเหมือนกัน ส่วนแบบไฮโซ ก็จะเป็นเครื่องให้อาหารแมวแบบอัตโนมัติ เผื่อไม่อยู่บ้าน แมวก็จะได้มีอาหารกิน เครื่องให้อาหารแบบอัตโนมัติ ก็จะเป็นเครื่องที่ค่อย ๆ ปล่อยอาหารแมวออกมาทีละน้อย มีตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักพัน ที่สามารถเชื่อมต่อกับแอปในมือถือเพื่อตั้งเวลาได้ ถ้าเพิ่งเริ่มเลี้ยง แนะนำให้ใช้แบบธรรมดา เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับน้องแมวจะดีกว่า ถ้าแมวหาข้าวกินเองได้ แมวจะไม่ง้อทาส อย่างเรา และทำให้แมวไม่สนใจ ที่สำคัญ น้องจะมาร้องปลุกเราทุก ๆ เช้า ให้เราไปเทอาหารให้น้องด้วย
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด ฟรี
- แบบธรรมดา 50 บาท
- แบบไฮโซ 300 บาท
5. กรงแมว เผื่อพาไปหาหมอ
กรงแมวเวลาเคลื่อนย้ายแมวก็สำคัญมาก ๆ เพราะถ้าพาน้องไปหาหมอโดยการอุ้มไป น้องอาจจะตกใจ ข่วน หรือวิ่งหนีได้ แนะนำให้ซื้อเป็นตะกร้าพลาสติกแบบมีฝาปิด และรองด้วยผ้าขนหนู เผื่อขนย้ายแมวเวลาพาไปหาหมอเวลาน้องป่วย หรือเวลาพาฉีดวัคซีน ขนาดตะกร้าก็เอาแบบที่ไม่เล็กเกินไป มีพื้นที่ว่างให้น้องแมวสามารถขยับตัวได้ จะซื้อแบบเป็นกรงใส่แมวโดยเฉพาะก็ราคาประมาณ 300 บาท เป็นกรงแบบทึบ มีช่องให้หายใจ และมีตะแกรงเปิด-ปิดด้านหน้า ส่วนแบบไฮโซก็จะเป็นกรงแมวแบบที่มีล้อเข็น เหมือนกับรถเข็นเด็ก สะดวกสบายต่อทาสแมวอย่างเรามาก ๆ ถ้าหากว่าแมวตัวหนัก แถมยังสามารถพาแมวนั่งรถเข็นไปเที่ยวนอกบ้านได้อีกด้วย หรือใครจะเลือกแบบอื่น ๆ อย่างกระเป๋าใส่แมวที่เหมือนกับจรวดอวกาศใส ๆ ให้น้องแมวได้ชมวิวด้านนอกได้อย่างสะดวกสบาย แต่ต้องเลือกดี ๆ หน่อยนะ เพราะอาจจะทำให้น้องร้อนได้
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด 160 บาท
- แบบธรรมดา 300 บาท
- แบบไฮโซ 1,390 บาท
6. ของเล่น ที่ฝนเล็บ
ของเล่นจะไม่ซื้อให้น้องก็ได้ เพราะน้องแมวสามารถเล่นของเล่นง่าย ๆ อย่างกล่องลัง ถุงพลาสติกได้ แทบจะไม่ต้องเสียค่าของเล่นให้เลย แต่น้องอาจจะฝนเล็บกับข้าวของเครื่องใช้ อย่างเตียงหรือโซฟาได้ ถ้าเล็บเริ่มยาว ที่ฝนเล็บของแมวก็จะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่เป็นเหมือนกระดาษลูกฟูกหนา ๆ หรือแบบที่เป็นเชือกขด ๆ หลาย ๆ ทบ ราคาไม่แพงเท่าไหร่ แค่หลักร้อยเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากสปอยล์แมว อยากเล่นกับแมวด้วยความเพลิดเพลิน และสร้างปฏิสัมพันธ์กับแมว ก็จะมีของเล่นอีกหลาย ๆ อย่างให้เลือกซื้อ อย่างไม้ตกแมว ลูกบอลในราง อุโมงค์แมว และของเล่นอื่น ๆ อีกมากมายที่ทาสแมวอย่างเราคิดว่าน้องแมวจะชอบ หรือจะซื้อของเล่นที่สามารถเป็นที่ลับเล็บแมวแบบ 2 in 1 ไปเลยก็สะดวกดีเหมือนกัน
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด ฟรี
- แบบธรรมดา 200 บาท
- แบบไฮโซ 400 บาท
7. ปลอกคอ
ถ้าเลี้ยงแบบปิด จะไม่ใส่ปลอกคอให้น้องก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ปลอกคอจะมีประโยชน์ตอนที่น้องหลุดออกไปเที่ยวนอกบ้าน คนภายนอกจะได้รู้ว่าแมวมีเจ้าของ และสามารถนำน้องกลับมาส่งบ้านคืนอ้อมอกทาสอย่างเราได้อย่างปลอดภัย ปลอกคอแบบประหยัด ก็จะเป็นปลอกคอไนล่อนถัก แบบกันน้ำ และมีสีสันสวยงาม หรือจะเลือกเป็นปลอกคอนิรภัย ที่เมื่อไปเกี่ยวกับอะไรแล้ว ดิ้นแรง ๆ ก็จะหลุดออกโดยอัตโนมัติ หรือจะกันเหนียวด้วยการซื้อปลอกคอแมวแบบสลักชื่อพร้อมเบอร์ติดต่อไว้ที่ปลอกคอก็ได้ ง่ายต่อการให้คนอื่นพากลับมาส่งที่บ้าน หรือจะทุ่มงบซื้อปลอกคอดี ๆ อย่างปลอกคอพร้อมติด AirTags ไปเลย เช็คได้แบบเรียลไทม์ว่าแมวของเราหายไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด 35 บาท
- แบบธรรมดา 160 บาท
- แบบไฮโซ 1,280 บาท
8. ที่นอนแมว
น้องแมวสามารถนอนที่ไหนก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าง ๆ ที่นอนคน ถ้าแมวร้าย ๆ หน่อยก็จะไปนอนอ้อน พ่อและแม่เปรียบเสมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ที่สามารถเซ็นยกมรดกทั้งหมดให้ได้ แต่ถ้าสำหรับใครที่อยากให้น้องมีที่นอนดี ๆ ไม่ต้องมานอนเบียดเรา เสี่ยงที่จะโดนทับ ก็สามารถ DIY เอาเอง โดยการใช้กล่องลังมาปูรองด้วยผ้านุ่ม ๆ ให้น้อง หรือจะซื้อที่นอนสำเร็จรูปสำหรับแมวเลยก็ได้ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ราคาก็ไม่แพงมาก มีตั้งแต่หลักสิบถึงหลักร้อย ถ้าแบบไฮโซหน่อยก็จะเป็นคอนโดแมว ให้น้องได้นอนแบบหรูหราหมาเห่า และมีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนทาสกลิ้งมาทับ คอนโดแมวก็มีหลากหลายแบบและหลากหลายขนาด ตามที่ทาสแมวอย่างเราอยากซื้อให้เลย ราคาก็เริ่มต้นที่ 400 บาทขึ้นไป
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด ฟรี
- แบบธรรมดา 100 บาท
- แบบไฮโซ 400 บาท
9. อุปกรณ์อาบน้ำแมว
แมวสามารถทำความสะอาดขนตัวเองได้ด้วยการเลียขนของตัวเอง แต่สำหรับแมวที่ขนยาว ๆ อาจจะต้องพาไปอาบน้ำและดูแลเป็นพิเศษ การอาบน้ำแมวก็ค่อนข้างยาก ถ้าไม่ฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว ถ้าแมวเริ่มมีกลิ่นเหม็น และไม่ชอบที่จะอาบน้ำ ก็สามารถใช้โฟมทำความสะอาดอาบน้ำให้แมวแทนได้ เพียงแค่บีบโฟมลงไป แล้วหวี ๆ ขนแมวให้ทั่วตัว เท่านี้ก็ถือเป็นการทำความสะอาดแมวแบบง่าย ๆ แล้ว หรือจะใช้เป็นทิชชู่เปียกถู ๆ เพื่อทำความสะอาด 1-3 เดือนครั้งก็ได้ ส่วนน้องแมวขนยาว ถ้าจะพาน้องไปอาบน้ำที่ร้าน พร้อมกับเป่าขน หวีขนให้แห้ง ออกมาสวยเช้งเหมือนเข้าคอร์สความงาม ก็จะราคาก็จะประมาณ 500 บาทต่อครั้ง
เลี้ยงแมวใช้เงินเท่าไหร่
- แบบประหยัด ฟรี
- แบบธรรมดา 200 บาท
- แบบไฮโซ 500 บาท
10. ค่าจิปาถะอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีค่าจิปาถะอื่น ๆ อย่างค่าขนมแมว กัญชาแมว ค่านมแพะสำหรับลูกแมว และสารพัดของอร่อยและของกุ๊กกิ๊ก ที่จะช่วยสปอยล์แมวขั้นสุดให้น้องแมวรักเรายิ่งขึ้น หรือค่าซ่อมของที่น้องแมวซนแล้วทำพัง ค่าฝากแมวเวลาไปต่างจังหวัดไกล ๆ หรือไปต่างประเทศแล้วพาน้องไปด้วยไม่ได้ ค่าถ่ายพยาธิทุก 3 เดือน หรือค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ ในกรณีที่น้องแมวป่วยแล้วต้องรักษา แตกต่างกันไปแต่ละบ้าน ใครจะทำประกันให้สัตว์เลี้ยง ก็อาจจะมีค่าประกันสัตว์เลี้ยงให้น้องแมว เพื่อให้คุ้มครองเวลาแมวป่วยหรือบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลด้วย
ค่าใช้จ่ายนี้เป็นแค่ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ เท่านั้น งบในการเลี้ยงแมวของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปตามค่าครองชีพ ค่าวัคซีนในการพาแมวไปหาหมอก็แตกต่างไปตามแต่ละคลินิกหรือโรงพยาบาล เลี้ยงแมวครั้งแรกอาจจะลงทุนเยอะหน่อย แต่ของบางอย่างก็ใช้ได้นานไม่ต้องซื้อซ้ำ ที่เสียเป็นรายเดือนหลังจากนั้นก็มีแค่ค่าอาหาร ค่าทรายแมว และค่าถ่ายพยาธิหรือค่าวัคซีนที่ต้องฉีดตามกำหนดเท่านั้น รายจ่ายค่าอาหารและทรายแมวจะตกไม่เกินเดือนละ 300 บาท ถ้าน้องแมวแข็งแรง สุขภาพจิตดี เลี้ยงในระบบปิด ก็ไม่ต้องเสียค่ารักษาอื่น ๆ ที่จุกจิก แค่เจ้าของดูแล เอาใจใส่น้องดี ๆ เท่านี้น้องก็จะแข็งแรงทั้งสุขภาพกายและใจแล้วนะ เมี้ยว! (=^･ｪ･^=)
บทความอื่น ๆ ที่ทาสแมวต้องอ่าน
