สมัยนี้เมื่อกล่าวถึงกรุงอโยธยาเมืองโบราณ เป็นใครก็ต้องนึกถึงกุ้งแม่น้ำเผาตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่น มันเยิ้มๆ เสิร์ฟในร้านอาหารสไตล์บ้านไม้มีอายุ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศชิลล์ๆ รับลมสบายๆ พูดง่ายๆก็คือสองสิ่งนี้ต่างก็กลายเป็นไอค่อนประจำเมืองอยุธยาไปเสียแล้ว และด้วยจำนวนร้านจำพวกนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ จึงค่อนข้างยากที่จะหาร้านอาหารที่โดดเด่นทั้งวัตถุดิบและบรรยากาศ

แต่ก็อย่างที่ว่า การขุดสมบัติมันจะยากเย็นเพียงไดแต่สุดท้ายมันก็ต้องมีตัวตนอยู่อย่างแน่นอน วันนี้วงในจะพาทุกท่านตามรอยแทงร้านเด็ดริมแม่น้ำอยุธยา เพิ่มระดับทั้งความสูงเหนือน้ำและวัตถุดิบเป็นๆคัดพิเศษเพื่อความพอใจของแขกทุกๆคน ที่นี่คือ สวนอาหารแกรนด์เจ้าพระญา

มีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับร้านนี้ที่ชวนจดจำ ไม่ว่าจะพื้นที่กว้างขวางสูงเหนือริมแม่น้ำเจ้าพระยาอากาศจึงถ่ายเทค่อนข้างดี รู้สึกเย็นสบาย วิวสวยชวนถ่ายรูปลงโซเชี่ยลเป็นอย่างยิ่ง ยังไม่พอ มีที่นั่งต่างโซนต่างอารมณ์ให้เลือกแต่ก็ยังคงซึ่งความเป็นส่วนตัวไว้อย่างดีเลิศ

“กุ้งแม่น้ำเผา”

“กุ้งแม่น้ำเผา"
บึ่งออกมาถึงที่แล้วถ้าจะนั่งรับลมอย่างเดียวก็ยังถือว่ามาไม่ถึงจุดสูงสุด มาถึง สวนอาหารแกรนด์เจ้าพระญา ก็ต้องลิ้มรสอาหารที่ปรุงมาอย่างเรียบง่ายแต่แฝงด้วยหัวใจรักราวกับปรุงโดยมือคุณแม่จริงๆ มาเปิดประเดิมกันด้วย ไอค่อนหลักประจำอยุธยาอย่าง “กุ้งแม่น้ำเผา” (1400 บาท) ด้วยสัมพันธ์และมิตรไมตรีระหว่างเจ้าของกับเหล่าชาวประมง สวนอาหารแกรนด์เจ้าพระยา จึงได้รับแต่กุ้งแม่น้ำเป็นๆ ตัวใหญ่ๆ (ใหญ่และกว้างกว่า I Phone!) พอออร์เด้อเข้ามาทางทีมครัวจึงลงมือช็อคกุ้งในน้ำเย็นจนหมดสติ แล้วค่อยนำกุ้งแม่น้ำมาบรรจงผ่าเอาสิ่งไม่พึงประสงค์ออก คงเหลือไว้แต่มันกุ้งเหลือง-ส้มอร่าม และเนื้อที่แน่น (นี่เป็นคุณสมบัติพิเศษของกุ้งแม่น้ำที่อาศัยตามแหล่งธรรมชาติ) แล้วค่อยนำไปย่างบนเตาถ่านไฟไม่แรงเกินไปเพื่อให้สุกอย่างทั่วถึง แค่ได้เห็นกุ้งตัวใหญ่อุดมไปด้วยมันกุ้งเยิ้มๆ ก็ฟินก่อนจะได้ลิ้มรสแล้ว

"กุ้งราดซอสมะขาม"

"กุ้งราดซอสมะขาม"
อีกหนึ่งเมนูกุ้งแม่น้ำที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอก็คือ "กุ้งราดซอสมะขาม" (480 บาท) หลายๆคนอาจคิดว่าซอสมะขาม รสชาติค่อนข้างจัดจ้านนะแล้วมันจะไม่แย่งซีนรสชาติของกุ้งแม่น้ำหรือ? ทางเราขอยืนยันเลยว่าไม่! เพราะว่ากุ้งแม่น้ำของที่นี่เป็นกุ้งแม่น้ำแบบ wild-caught หรือจับจากแหล่งธรรมชาติ จึงมีเนื้อแน่น รสชาติเข้มข้น และที่สำคัญในหัวก็จะอุดมไปด้วยมันกุ้งรสชาติแสนเข้มข้น นำมาแกะเปลือกในส่วนที่เป็นตัว คลุกแป้งบางๆแล้วค่อยนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนได้สีทองอ่อนๆชวนรับประทาน พอได้ที่ก็นำมาวางบนจานแล้วค่อยราดด้วยน้ำซอสมะขามปรุงพิเศษรสชาติกลมกล่อม โรยหน้าด้วยหอมเจียวกับพริกแห้งทอดก็เป็นอันเสร็จ คิดเสียว่าจานนี้เป็นไข่ลูกเขยแต่แค่อัพระดับเปลี่ยนไข่เป็นกุ้งแม่น้ำอย่างดี พอทานทุกอย่างพร้อมกับมันกุ้งก็จะเหมือนมีงานเลี้ยงฉลองในปาก

"ปลากะพงทอดน้ำปลา"
นอกจากกุ้งแม่น้ำเป็นๆแล้ว สวนอาหารแกรนด์เจ้าพระญา ก็ยังคงให้ความสำคัญกับความสดใหม่ของวัตถุดิบ ทีนี้เรามาลองดูเมนูอาหารที่ทำจากปลากันบ้าง เริ่มด้วย เมนู Standard แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์พิเศษ อย่าง "ปลากะพงทอดน้ำปลา" (450 บาท) ด้วยที่ว่าเป็นปลากระพงสดจับตั้งแต่วันนี้ เนื้อจึงขาวเนียน วิธีทำก็ง่ายแสนง่ายแค่หั่นเนื้อปลาให้เป็นชิ้นพอดีคำ นำไปคลุกแป้งบางๆแล้วทอดจนสุกกำลังดี กรอบฟูข้างนอกข้างในเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำปลาหวานปรุงพิเศษรสกลมกล่อม จึงได้อรรถรสแบบ สะอาดสะอ้าน ทานง่ายเหมาะแก่การแบ่งปัน หากต้องการเพิ่มความจัดจ้าน ก็ให้ลองทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ที่ทำกันสดๆ ณเดี๋ยวนั้นเลย

"ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน"
อีกหนึ่งเมนูที่ถือว่าเป็น Hilight ประจำร้านก็คือ "ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน"คัดสรรแต่ปลาเนื้ออ่อนธรรมชาติเนื้อจึงอ่อนนุ่มสมชื่อรสกลมกล่อมรสสัมผัสละมุนละไม ไร้ซึ่งกลิ่นคาว นำไปทอดทั้งตัวก่อนเพื่อให้ข้างนอกกรอบฟูแล้วค่อยนำไปผัดกับพริกแกงฉู่ฉี่สูตรเฉพาะ ของทางร้านซึ่งรับประกันทั้งความสดและกลิ่นหอม เพราะทุกอย่างโขกเองกับมือ ปรุงรสจนกลมกล่อมได้ที่แล้วค่อยเสิร์ฟ เป็นอีกหนึ่งจานที่เรียบง่ายแต่สามรถแสดงถึงทักษะและศักย์ภาพของร้านนี้ได้อย่างดีเลิศเพราะต้องใช้แต่ของสดๆเท่านั้นผนวกกับเทคนิคการทอดที่ต้องควบคุมอูณหภูมิและเวลาเป็นอย่างดี

"น้ำพริกปลาทู"
หากใครรู้ตัวว่าเป็นคอน้ำพริก และชื่นชอบกะปิแบบเข้าเลือด เมนูนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด "น้ำพริกปลาทู" (240 บาท) สูตรประจำบ้านของเจ้าของปรุงแบบเรียบง่ายแต่ค่อนข้างจะซีเรียสเรื่องวัตถุดิบและความสดใหม่ ตัวน้ำพริกกะปิจะต้องใช้ของที่ดีที่สุดในตลาด แต่จุดพีคสุดๆคือ ตัวน้ำพริกกะปิจะไม่มีการทำล่วงงหน้าก่อนออร์เด้อ ทางร้านจะโขกน้ำพริกกะปิแบบสดๆ ณ เดี๋ยวนั้นเมื่อรับออร์เด้อนี่จึงเป็นจุดชี้ความแตกต่างระหว่างคุณภาพและความสดใหม่ จะทานกับเครื่องอะไรในจานรับรองว่าต้องติดใจ

ลิ้มรสอาหารจนหวานปากหวานคอกันแล้วทีนี้ก็ได้เวลาดับร้อนกับ "มะพร้าวน้ำหอม"(60 บาท) คัดพิเศษลูกโตๆ เหมาะที่จะทานดับร้อนได้ทั้งวันเข้ากันได้ดีกับทุกเมนูอาหารเป็นอย่างยิ่ง


ยังไม่พอสำหรับใครที่อิ่มพุงกางจนไม่อยากกลับบ้าน ทางร้านก็เปิดบ้านพักเอาไว้รองรับ ราคาเริ่มต้นเพียง 1,300 บาท แถมยังมีอาหารเช้าฟรีอีกด้วย เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งอาหาร บรรยากาศและที่พักจริงๆ สำหรับใครที่รู้ตัวว่าเป็นคอไวน์ สวนอาหารแกรนด์เจ้าพระญาก็มีแผนที่จะทำมุมชิมไวน์ โดยทางร้านจะนำเข้าไวน์ชั้นดีจากทั่วโลกที่ราคาจับต้องได้ ยังไม่พออาจมีเมนู Wine Pairing อีกด้วย สำหรับใครที่เป็น นักชิมตัวยง อยากรู้ว่ากุ้งแม่น้ำเผาชั้นเลิศรสเป็นอย่างไร ก็รีบออกกรุงบึ่งมาที่อยุธยากันได้แล้ว

"ไก่ทอดซอสมะนาว"(ราคา 120 บาท)พิเศษสุดๆ ถ้าบอกทีมเสิร์ฟว่า มาจากวงในล่ะก็ รับไปฟรีๆ ไก่ทอดซอสมะนาวกรอบนอกฉ่ำในหนึ่งชุด