#วงในบอกมา
- “Chef’s Kitchen” เป็นร้านอาหารโดยคณะการจัดการธุรกิจอาหาร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
- เสิร์ฟครบทุกมื้อทั้งอาหารเช้า บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน ชากาแฟช่วงบ่าย และดินเนอร์รสเด็ด
- แนะนำ “ผัดไทยกุ้งสด” รสชาติซอสเป็นเอกลักษณ์ที่มีแค่ที่นี่เท่านั้น
ใครที่ขับรถมาเส้นแจ้งวัฒนะ คงจะต้องเคยเห็นอาคารสวย ๆ ที่ใหญ่โตของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์แน่นอน แต่รู้ไหมว่าข้าง ๆ กันนั้นมีร้านอาหารที่ให้บริการโดยนักศึกษาจากคณะการจัดการธุรกิจอาหาร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์อยู่ด้วย มีชื่อสถาบันมาการันตีแบบนี้ จะไม่ให้ลองได้ยังไง ถ้าพร้อมแล้วตามมากันเลยกับร้านอาหารนานาชาติ “Chef’s Kitchen”
ที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หรือพีไอเอ็ม มีการเรียนการสอนแบบ Work-Based Education ที่เน้นให้นักศึกษาได้เรียนรู้ผ่านการทำงานจริง ร้านอาหาร “Chef’s Kitchen” จึงเป็นเหมือนที่ทำงานนักศึกษาที่นี่ แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องของรสชาติหรือบริการ เพราะว่าน้อง ๆ จะได้รับการฝึกจากเชฟมืออาชีพ เรียกว่าเต็มที่กันสุด ๆ ไม่แพ้ภัตตาคารดังๆเลย แถมการทำงานที่ร้านนั้นนอกจากจะเป็นรายได้เสริมแล้ว ยังเป็นเกรดของน้อง ๆ อีกด้วย
เมื่อมาถึงร้านแล้วต้องขึ้นบันไดมายังชั้น 2 จึงจะพบกับร้านอาหารย่านแจ้งวัฒนะ “Chef’s Kitchen” ตัวร้านโปร่งโล่งสบายตามาก ๆ มีครัวเปิดที่สามารถมองเห็นเชฟมือาชีพและนักศึกษาปรุงอาหารกันอย่างตั้งใจ จุดเด่นของร้านนี้อยู่ที่ความครบวงจร ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะเมนูอาหาร แต่ยังรวมไปถึงบริการของร้านที่มีทั้งอาหารจานเดียว บุฟเฟ่ต์ ขนมหวาน เครื่องดื่ม บริการรับจัดเลี้ยง แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา
โดยที่อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นอาหารกินง่าย ๆ จานเดียว ส่วนมื้อเที่ยงจะเป็น “บุฟเฟ่ต์อาหารไทย” (320 บาท) ที่มีอาหารตะวันตกผสมนิดหน่อย แต่มีให้กินครบจนถึงผลไม้ และของหวานรวมกันกว่า 15 อย่าง ส่วนนอกเวลามื้ออาหารก็มีให้บริการชา กาแฟ และขนมหวาน กลายเป็นคาเฟ่สำหรับนั่งทำงาน - คุยงาน และสำหรับมื้อเย็นจะเสิร์ฟเป็นอาหารนานาชาติแบบจานเดียว พร้อมเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ
ตอนที่เรามาถึงร้านอาหารนานาชาติย่านแจ้งวัฒนะ “Chef’s Kitchen” นี้เป็นเวลาสำหรับมื้อเย็น อาหารที่เสิร์ฟเลยเป็นอาหารนานาชาติแบบจานเดียว เริ่มต้นกันเลยกับอาหารเรียกน้ำย่อยแบบไทย ๆ อย่าง “แสร้งว่ากุ้ง” (150 บาท) อาหารไทยโบราณที่นำมาประยุกต์ให้ดูทันสมัยขึ้น คล้าย ๆ กับสลัด รสชาติออกแนวสดชื่น ใส่สมุนไพรไทยมาเต็มทั้งขิง ตะไคร้ หอมแดง พริกขี้หนูสวน รสไม่จัดจ้านมาก เด็กก็กินได้ เสิร์ฟบนผักกาดแก้วกรอบ ๆ
มาต่อกันด้วย “ผัดไทยกุ้งสด” (120 บาท) ที่ขอบอกเลยว่ารสชาติไม่เหมือนใครจริง ๆ เพราะทางร้านได้ดัดแปลงตัวซอส อย่างน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ พริกป่น น้ำมันหอย น้ำพริกเผา กลายเป็นซอสสูตรพิเศษ ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นครบรสเป็นเอกลักษณ์ กินครั้งเดียวจำได้ ว่าถ้าอยากกินรสชาติแบบนี้ต้องมาที่ร้าน “Chef’s Kitchen” เท่านั้น
ข้ามฝั่งมาเป็นอาหารฝรั่งกันบ้าง กับเมนูโปรดในดวงใจใครหลาย ๆ คนอย่าง “พาสต้าคาร์โบนารา” (180 บาท) ซึ่งสูตรของที่นี่มีรางวัลการันตีถึงรสชาติ จุดเด่นอยู่ที่รสชาติที่เข้มข้นชนิดที่ชีสยืดอยู่ในปาก แต่ก็ไม่เลี่ยนจนเกินไป เพราะใช้นมเข้ามาผสมช่วยให้รสชาติเบาขึ้น ให้เครื่องมาเต็ม ๆ ทั้งแฮม เห็ดและเบคอน
มาถึงอาหารจานหลักเนื้อ ๆ เน้น ๆ อย่าง “อกเป็ดซอสส้ม” (240 บาท) ที่เลือกใช้อกเป็ดรมควันรสเข้มข้น เนื้อนุ่ม แต่จุดเด่นของจานนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะซอสของที่นี่ก็เข้มข้นไม่เหมือนของที่อื่น เพราะใช้เป็นน้ำส้มแบบเข้มข้นผสมกับเกรวี เสิร์ฟพร้อมบรอกโคลี แครอท ดอกกะหล่ำ และมันฝรั่ง บอกเลยว่าจานนี้ดูดีอินเตอร์สุด ๆ
มาถึงเมนูสุดท้ายกับอาหารไทยประยุกต์อีกหนึ่งจานอย่าง “หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว” (150 บาท) หมูสามชั้นต้มซีอิ๊วรสชาติที่คุ้นเคย เพิ่มเติมคือความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกเนื้อหมูที่ไม่ติดมันมาก ก่อนนำไปทอดแล้วตุ๋นมากกว่า 3 ชั่วโมงจนนุ่ม ทำให้ได้รสหวานกลมกล่อมเข้าเนื้อ เสิร์ฟแบบขลุกขลิกบนกะหล่ำปลีม่วงสูตรพิเศษจากเชฟมืออาชีพ ที่ช่วยตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่าที่นี่เราสามารถมานั่งทำงานก็ได้ เพราะบ่าย ๆ บรรยากาศดีมาก ๆ มีเพลงเปิดคลอ มีให้เลือกทั้งโต๊ะแบบเคาน์เตอร์นั่งทำงานคนเดียว หรือโต๊ะพร้อมโซฟาไว้นั่งคุยงานเป็นกลุ่ม พร้อมชา กาแฟ และขนมหลากหลายชนิดสลับเปลี่ยนกันไป และที่สำคัญคือปลั๊กเยอะมาก แถมยังมี WIFI ฟรีอีกด้วย ถือได้ว่าร้าน“Chef’s Kitchen” เป็นร้านอาหารนานาชาติที่ครบรส ครบวงจร จริง ๆ
การเดินทาง
ใครที่อยากมาร้าน “Chef’s Kitchen” แล้วขับรถมา ให้มาลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ แล้วคอยสังเกตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งใหญ่มาก ยังไงก็เห็น พอเลยสถาบันไปอีกนิดจะเห็น 7-Eleven ที่มีร้านอาหารอยู่บนชั้นสอง อย่าเลยไปจนถึงเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะล่ะ เลี้ยวเข้ามาจะมีที่จอดรถ ทางเข้าร้านอยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้า 7-Eleven จะมีป้ายร้านบอกอยู่ เดินขึ้นมาชั้น 2 ก็จะพบกับตัวร้าน