Donabe ปิ้งย่างส่งตรงจากโยโกฮาม่า กับเนื้อมิยาซากิหนานุ่มละมุนลิ้น
  1. Donabe ปิ้งย่างส่งตรงจากโยโกฮาม่า กับเนื้อมิยาซากิหนานุ่มละมุนลิ้น

Donabe ปิ้งย่างส่งตรงจากโยโกฮาม่า กับเนื้อมิยาซากิหนานุ่มละมุนลิ้น

หากเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารปิ้งย่าง ก็คงจะรู้ดีว่า ถ้าต้องการกินเนื้อดีๆ คุณภาพคับแก้วแล้วล่ะก็ ควรจะเลือกร้านที่ให้สั่งเนื้อเป็นจานๆ แบบ a la carte จะดีที่สุด
writerProfile
12 ก.ค. 2013 · โดย
Ad ·
สนับสนุนโดย Donabe Sukiyaki Shabushabu & Yakiniku RCA
(รายละเอียดเพิ่มเติม)

ตุ๊กตาไล่ฝนและหน้ากากยักษ์เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่นอยู่ร้าน

หากเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารปิ้งย่าง ก็คงจะรู้ดีว่า ถ้าต้องการกินเนื้อดีๆ คุณภาพคับแก้วแล้วล่ะก็ ควรจะเลือกร้านที่ให้สั่งเนื้อเป็นจานๆ แบบ a la carte จะดีที่สุด เพราะร้านสไตล์นี้จะใช้เนื้อวัวนำเข้าที่มีคุณภาพ เป็นเนื้อวัวที่มีการเลี้ยงด้วยกรรมวิธีพิเศษต่างๆ เพื่อให้ได้เนื้อที่มีความนุ่มละมุน มีลายไขมันแทรกอยู่ในชิ้นเนื้อ ซึ่งแม้ราคาเนื้อบางชนิดอาจจะสูงกว่าร้านแบบบุฟเฟต์ทั่วไป แต่เมื่อได้ลองสัมผัสกับความนุ่มละมุนของเนื้อชั้นดีเข้าสักครั้ง ก็จะเข้าใจได้เองว่าความแตกต่างของเนื้อชั้นดีกับเนื้อทั่วๆ ไปนั้นเป็นอย่างไร และจะรู้สึกว่าเนื้อชั้นดีนั้นสมราคาและหากอยากจะลองสัมผัสประสบการณ์การกินเนื้อวัวชั้นดีระดับพรีเมียม ก็ต้องลองมาที่ "Donabe Suki & Yakiniku" ที่ RCA เพราะที่นี่ไม่มีเมนูแบบบุฟเฟต์ แต่เน้นไปที่เนื้อชั้นดีหลากหลายชนิดที่มีให้เลือกได้ตามต้องการในรูปแบบ a la carte แถมรสชาติอาหารยังเป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ อีกด้วย เพราะทางร้านได้สูตรการทำน้ำจิ้ม น้ำซอสราดเนื้อ ผักยำ กิมจิ และสลัดมาจากเชฟที่มีประสบการณ์ทำงานในร้านเนื้อย่างที่โยโกฮาม่ามากว่า 30 ปี นอกจากนี้วัตถุดิบหลายๆ อย่าง ก็ยังนำเข้ามาจากญี่ปุ่นด้วย เพราะฉะนั้นอาหารปิ้งย่างของที่นี่จึงมั่นใจได้ในความเป็นญี่ปุ่นแท้

นอกจากเนื้อย่างที่นี่จะอร่อยละเมียดละไมแล้ว ยังมีบรรยากาศของร้านที่จำลองเอาบ้านญี่ปุ่นโบราณมาให้ดื่มด่ำกันอีกด้วย นั่งกินอาหารไปก็เพลินตาไปด้วยในคราวเดียว เพราะตั้งแต่ประตูทางเข้าก็แขวนตุ๊กตาไล่ฝนเอาไว้ แล้วยังมีหน้ากากยักษ์กับตุ๊กตาล้มลุกของญี่ปุ่นวางประดับอยู่ด้วย พอเดินเข้ามาด้านในก็จะเจอกับโต๊ะเก้าอี้ และชั้นวางของที่อัดแน่นไปด้วยของตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น เช่น บอนไซ บรรดาของเล่นญี่ปุ่น เช่น เคนดามะ แล้วยังมีโปสเตอร์เก่าๆ ของญี่ปุ่น กับ "โคมไฟสไตล์ญี่ปุ่น" ที่เป็นไฮไลท์ของร้านที่แขกไปใครมาก็ต้องขอมาถ่ายรูปมุมนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักหน่อยเป็นร้านปิ้งย่างที่ไม่ได้ให้แค่ความอิ่มอร่อยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังให้ความสุนทรีย์ในอารมณ์จากการตกแต่งและบรรยากาศอบอุ่นภายในร้านอีกด้วย

"เคนดามะ" ของเล่นโบราณของญี่ปุ่น

โปสเตอร์ที่ออกแบบให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นเก่าๆ

โคมสีเหลือง เป็นที่จุดไฮไลท์ของร้านเนื้อนำเข้าหลากชนิดและความอร่อยที่แตกต่างเมื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านกันเสร็จแล้ว ก็มาดูเมนูเนื้อย่างกันบ้าง เริ่มกันที่ตัวที่ราคาเบาที่สุดก่อนดีกว่า กับ "เนื้อลายพิเศษออสเตรเลีย" (ราคา 220 บาท) เนื้อนุ่มละมุนที่ไขมันแทรกอยู่เป็นเส้นริ้วทั่วทั้งชิ้นเนื้อ ย่างเสร็จแล้วจะนุ่มกำลังดี เวลาเคี้ยวจะมีความกรุบๆ ของไขมันที่แทรกเป็นริ้วๆ อยู่ในชิ้นเนื้อตามมาด้วย "เนื้อสันนอกออสเตรเลีย" หรือ "เนื้อวากิวออสเตรเลีย" (ราคา 690 บาท) เนื้อชิ้นใหญ่หนานุ่มมีมันแทรกเหมือนลายหินอ่อน เสิร์ฟมาแบบหั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ แล้วราดด้วยน้ำซอสสูตรเด็ดจากโยโกฮาม่า ที่พอย่างเนื้อเสร็จแล้ว ลายไขมันที่แทรกอยู่ในชิ้นเนื้อจะทำให้เนื้อนุ่มและละลายในปากสุดๆและสำหรับคนที่อยากจะลองของระดับสุดยอด ต้องลองสั่งเนื้อที่เด็ดที่สุดของร้าน อย่าง "เนื้อสันนอกญี่ปุ่น" หรือ "เนื้อมิยาซากิ" (ราคา 1,420 บาท) ด้วยความเป็นเนื้อสันนอก หรือเนื้อเซอร์ลอยน์ ทำให้มีไขมันติดอยู่กับเนื้อเป็นชิ้นใหญ่ๆ ที่พอเวลาโดนเปลวไฟลามเลียแล้วจะหอมสุดๆ แล้วยังมีไขมันที่แทรกอยู่ทั่วทั้งชิ้นเนื้อจนเป็นลายหินอ่อนอีกด้วย เรียกว่าเป็นเนื้อที่มีปริมาณไขมันมากกว่าส่วนที่เป็นเนื้อ แต่เพราะไขมันนี่เองที่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เนื้อย่างหอมอร่อยและนุ่มละลายในปาก ใครใจถึงและกระเป๋าถึง ต้องลองสั่งเนื้อชนิดนี้มาลิ้มลองกันดูนะ

"เนื้อมิยาซากิ"

"เนื้อสันนอกออสเตรเลีย"

"เนื้อลายพิเศษออสเตรเลีย"

ความแตกต่างของเนื้อแต่ละสัญชาติคนชอบเนื้อจะรู้ดีกว่าเนื้อแต่ละสัญชาติมีความแตกต่างกันอย่างไร แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มกินเนื้อชนิดพิเศษทั้งหลาย อาจยังแยกไม่ออกระหว่างความแตกต่างของ "เนื้อออสเตรเลีย" กับ "เนื้อญี่ปุ่น" เพราะจริงๆ แล้วเนื้อออสเตรเลียและเนื้อญี่ปุ่นเป็นเนื้อวากิวเหมือนกัน แต่เนื้อทั้งสองสัญชาตินี้มีความแตกต่างกันในเรื่องของลายเนื้อและปริมาณไขมัน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและมีวิธีการเลี้ยงดูไม่เหมือนกันกัน จึงทำให้เนื้อวัวทั้งสองสัญชาติมีความแตกต่างกันดังนี้เนื้อญี่ปุ่นมีลายเหมือนหินอ่อน เพราะมีไขมันแทรกอยู่ค่อนข้างละเอียด เนื่องจากวัวญี่ปุ่นจะถูกเลี้ยงด้วยกรรมวิธีพิเศษต่างๆ เช่น วัวบางชนิดมีการให้ดื่มเบียร์ หรือวัวบางชนิดมีการนวด ซึ่งส่วนใหญ่แล้่วผลลัพท์ที่ได้จะทำให้เนื้อของวัวญี่ปุ่นเป็นเนืื้อที่มีไขมันเยอะ และมีลายไขมันแทรกอยู่ในเนื้ออย่างหนาแน่นเนื้อออสเตรเลีย มีส่วนของเนื้อมากกว่าไขมัน แต่จะมีความนุ่มละมุนของเนื้อพอๆ กับเนื้อญี่ปุ่นเนื้อไทย ลายของเนื้อจะไม่มากเท่ากับเนื้อนำเข้า จะมีส่วนที่เป็นเนื้อมากกว่าไขมัน แต่จะมีความเหนียวนุ่ม และมีผิวสัมผัสของเนื้อให้เคี้ยวมากกว่าเนื้อนำเข้า

"เนื้อสันนอกออสเตรเลีย"

"เนื้อลายพิเศษออสเตรเลีย"

เมื่อเนื้อลายสะดุ้งไฟหมูและซีฟู้ดก็อร่อยไม่แพ้กันส่วนคนที่ไม่ชอบกินเนื้อ หรือกินเนื้อไม่ได้ ก็ยังมี "หมูคุโรบูตะ" (ราคา 240 บาท) ที่อร่อยไม่แพ้กันมาปลอบใจ ซึ่งเนื้อหมูคุโรบูตะของ "Donabe Suki & Yakiniku" จะเป็นเนื้อหมูส่วนที่มีชั้นไขมันสลับกับเนื้อ ซึ่งเวลาย่างไขมันจะโดนเปลวไฟลามเลีย ทำให้เกิดกลิ่นหอมยั่วยวนใจ และไขมันที่ละลายด้วยความร้อนจะเคลือบชิ้นหมูไว้ ทำให้เนื้อหมูนุ่มละมุนลิ้นไม่แพ้เนื้อวัวชั้นดีซึ่งเมนูเนื้อหมูของ "Donabe Suki & Yakiniku" ก็มีให้เลือกทั้งส่วนสันคอ สามชั้น และคอหมู ซึ่งเนื้อหมูแต่ละชนิดก็จะมีสัดส่วนของไขมันที่แตกต่างกันออกไป ส่วนสันคอจะมีไขมันน้อยที่สุด และไขมันจะแทรกเป็นลายหินอ่อนแบบเดียวกับเนื้อวัวสันนอก ทำให้เป็นเนื้อหมูส่วนที่นุ่มที่สุดและเหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินมัน ส่วนหมูสามชั้นก็จะมีชั้นไขมันกับเนื้อเรียงสลับกัน เวลาเคี้ยวจะมีความกรุบๆ ของชั้นไขมันที่ค่อนข้างหนา ส่วนคอหมูจะมีความกรุบกรอบมากที่สุด เพราะจะมีไขมันแทรกอยู่ตามชิ้นเนื้อเป็นริ้วๆ และมีส่วนที่เนื้ออยู่น้อยมาก เมื่อเทียบกับอีกสองส่วน ซึ่งริ้วไขมันนี้เอง เวลาโดนความร้อนแล้วจะกรอบและหอมอะไรมาก แต่อาจจะไม่ถูกใจคนที่ไม่ชอบกินมันเท่าไหร่นักและต้องไม่ลืมสั่งเมนูซีฟู้ดของ "Donabe Suki & Yakiniku" มาเสริมทัพความอร่อยกันด้วย เพราะที่นี่มี "ปลาไข่ญี่ปุ่น" (ราคา 120 บาท) ที่เนื้อนุ่มและมีไข่อัดแน่นอยู่เต็มๆ แถมเวลาย่างแล้วเนื้อปลาจะไม่แตกเพระาความร้อนด้วย แล้วก็ยังมี "กุ้งลายเสือ" (ราคา 220 บาท) ขนาดกำลังดีที่พอย่างแล้วเนื้อเด้งน่ากินสุดๆ

"หมูคุโรบุตะ"

"ปลาไข่ญี่ปุ่น"

"กุ้งลายเสือ"

หมูคุโรบุตะมีส่วนที่เป็นไขมันอยู่เยอะ จะทำให้เปลวไฟลุกโชนขึ้นมา เมื่อไขมันจากหมูหยดลงไปในเตาเคล็ดลับย่างเนื้อและหมูให้อร่อยเหาะการจะย่างเนื้อหรือหมูให้อร่อยนั้น มีเคล็ดลับอยู่ที่การย่างให้สุกแค่ระดับมีเดียม ให้ข้างนอกสุกแต่ข้างในยังเป็นสีแดงอยู่ ซึ่งวิธีการย่างให้สุกแบบมีเดียม คือ วางเนื้อลงไปบนเตาแค่แป๊บเดียวแล้วพลิกกลับด้านเพียงครั้งสองครั้ง พอให้เนื้อหรือหมูสะดุ้งไฟเท่านั้น เพื่อให้น้ำของเนื้อและไขมันไม่ระเหยหายไปกับความร้อนจนหมด การย่างแบบนี้จะยังสามารถรักษาความอร่อยของเนื้อวัวชั้นดี และเนื้อหมูสุดนุ่มเอาไว้ได้และถ้าเป็นการย่างสไตล์คนญี่ปุ่นแท้ๆ นั้น จะเป็นการเอาเนื้อไปสุะดุ้งไฟเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น ก็รีบเอาเนื้อขึ้นทันที ซึ่งเนื้อที่ย่างแบบนี้จะกึ่งสุกกึ่งดิบ แต่จะยังคงความอร่อยของเนื้อชั้นดีเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

แค่พลิกเนื้อทีสองทีก็พอ

หมูก็ไม่ต้องย่างนานน้ำจิ้มสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ที่สามารถดัดแปลงให้เป็นสไตล์ไทยๆ ด้วยก็ได้บนโต๊ะทุกโต๊ะจะมีเครื่องปรุงรสวาางเอาไว้ให้ 3 ชนิด คือ ซอสโคจิย่า พริกเผาญี่ปุ่น และน้ำมะนาว ซึ่งมีเอาไว้ให้ผสมกับน้ำจิ้มสไตล์ญี่ปุ่นที่ชื่อ "ซึเกะทาเระ" ที่จะเสิร์ฟมาให้พร้อมกับอาหารปิ้งย่าง ถ้าอยากให้น้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อมครบรสมากขึ้น ก็เพิ่มความหวานด้วยซอสโคจิย่าที่มีส่วนผสมของมิโซะและให้รสออกหวานนิดหน่อย ตัดรสกันได้ดีกับความเค็มของ "ซึเกะทาเระ" แต่ถ้าชอบกินแบบเผ็ดๆ หน่อย ก็สามารถเติมพริกเผาญี่ปุ่นลงไปได้ หรือถ้าชอบน้ำจิ้มสไตล์ไทยๆ ก็เติมน้ำมะนาว และพริกกระเทียมลงไป (มีเสิร์ฟให้ต่างหาก) รสชาติจะจัดจ้านขึ้น และช่วยดับเลี่ยนได้ดี

เครื่องปรุงน้ำจิ้มที่มีวางประจำไว้ให้ทุกโต๊ะเครื่องเคียงที่อุดมไปด้วยผักกินอาหารปิ้งย่างที่อุดมไปด้วยเนื้อสัตว์แล้ว หากไม่มีผักเป็นเครื่องเคียงเสียหน่อย ก็คงจะเหมือนขาดอะไรไป ต้องลองสั่ง "นามุรุ" (ราคา 100 บาท) ผักรวมคลุกกับน้ำมันงาและงาขาว ประกอบไปด้วย ถั่วงอก ปวยเล้ง ผักโขม หัวไชเท้า ทั้งสี่อย่างรสชาติจะเบาๆ กินแล้วสดชื่น ช่วยล้างความมันจากเนื้อย่างได้ดีเลยทีเดียว หรือถ้าชอบรสจัดจ้านหน่อย ก็สั่ง "กิมจิรวม" (ราคา 100 บาท) ประกอบไปด้วย กิมจิหัวไชเท้า กิมจิแตงกวา กิมจิผักกาดดอง กิมจิทุกชนิดทางร้านหมักเอง จึงมั่นใจได้ในความอร่อยและความสะอาดหรือถ้าอยากได้รสชาติเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น ก็สั่ง "สลัดโดนาเบะ" (ราคา 140 บาท) สลัดผักราดน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่นรสชาติออกเค็มๆ หวานๆ สั่งมากินแกล้มเนื้อย่าง ก็อร่อยไม่แพ้กิมจิและนามุรุ

"นามุรุ" และ "กิมจิรวม"

"นามุรุ" รสชาติเบาๆ กินแล้วชื่นใจ

"กิมรวม" รสชาติเข้มข้น

"สลัดโดนาเบะ"ตบท้ายด้วยของหวานรสชาตินวลๆ และเครื่องดื่มซาบซ่าและเมื่ออาหารส่วนใหญ่มีแต่รสชาติเค็มๆ มันๆ แล้ว ก็ควรสั่ง "Berry Sparkling Sake" เครื่องดื่มรสชาติซาบซ่าที่มีส่วนผสมของเจลลีเนื้อหยุ่นๆ กับสตรอเบอร์รี่ และสาเก เป็นเครื่องดื่มที่สาวๆ น่าจะชอบได้ไม่ยาก เพราะเวลาดื่มจะมี texture ลื่นๆ นุ่ม หนุบๆ ของเจลลี่ไหลลงคอไปด้วย เป็นอะไรมากกว่าแค่เครื่องดื่มธรรมดาแก้วหนึ่ง แล้วตบท้ายด้วยของหวานล้างปากอย่าง "ไอศกรีมชาเขียวถั่วแดง" ที่ไอศกรีมมีรสชาติของชาเขียวชัดเจน และไม่หวานจนเกินไป ส่วนถั่วแดงก็ยังมี texture ของเนื้อถั่วเเดงอยู่ ไม่ได้ถูกบดจนเนียนละเอียดแบบที่อื่น กินแล้วสร้างความสดชื่นได้ดีเลยทีเดียว

"Berry Sparkling Sake"

เนื้อเจลลี่หยุ่นๆ สร้างผิวสัมผัสที่หลากหลายให้เครื่องดื่มแก้วนี้

"ไอศกรีมชาเขียวถั่วแดง"ใครที่สรรหาร้านปิ้งย่างอร่อยๆ และชอบกินเนื้อคุณภาพดีๆ ต้องลองมาที่ "Donabe Suki & Yakiniku" ดูสักครั้ง แล้วจะติดใจในความนุ่มละมุนของเนื้อ และบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ

แผนที่

ตั้งอยู่ตรงทางเข้า RCA จากฝั่งถนนเพชรบุรี ตรงข้าม Office Mate
static-map

การติดต่อ

restaurantPhoto
Phone number : 02-641-4141,081-668-6426
Instagram : donabesukishabu
ซอยรอยัลซิตี้อเวนิว, บางกะปิ, กรุงเทพมหานคร, 10310, ประเทศไทย,ห้วยขวาง