#วงในบอกมา
- ทางร้านตกแต่งร้านโทนขาวสุดมินิมอล แต่ไม่ญี่ปุ่นจนเกินไป โดยถอดแบบมาจากสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ Los Angeles ซึ่งบางวันมีดนตรีสด บางวันมีมายากล Close Up Magic ให้ดูตามโต๊ะอีกด้วย
- ทางร้านบอกว่าใช้เวลากว่า 3 เดือนในการคิดค้นสูตรข้าว ที่ลูกค้าหลายคนบอกว่า “นี่มันข้าวที่มีเฉพาะระดับโอมากาเสะนี่นา!”
- เมนู “Spaghetti Seafood Yakisoba Sauce” เป็นเมนูที่ขายดีที่สุด ผสมผสานเส้นสปาเก็ตตีสไตล์อิตาเลียน และซอสยากิโซบะได้อย่างลงตัว!

ถ้าให้นึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่น เมื่อเราไปถึงหน้าร้าน เราคงจะเห็นความเป็น Japan ตั้งแต่ชื่อร้าน ประตู ไปจนถึงยูนิฟอร์มพนักงาน เดินเข้าร้านไปก็ปะทะกับกอไผ่สีเขียว โคมไฟแบบญี่ปุ่น เสียงบรรเลงพิณ และเชฟที่ร้านกับพนักงานทุกคนจะหันมาพูดพร้อมกันว่า “อิรัชชัยมาเสะ!” ให้เราสะดุ้งเล่น แล้วถ้าเราเบื่อบรรยากาศร้านแบบนี้ล่ะ? เราคงต้องเดินทางไปร้าน “Double Fish Sushi Cafe” เสียแล้ว

ร้าน “Double Fish Sushi Cafe” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นราชพฤกษ์ที่มีสไตล์ ลบภาพร้านอาหารญี่ปุ่นแบบเดิม ๆ ออกไป เดินเข้ามาก็จะได้ยินเสียงเพลง Rock แทนที่เสียงพิณ ร้านตกแต่งโทนสีขาวมินิมอล เปี่ยมล้นด้วยความโมเดิร์น บางวันมีดนตรีสด แถมบางวันยังมีมายากล Close Up Magic ให้พ่อแม่พาลูก ๆ มาดูเพลิน ๆ อีกต่างหาก! ทั้งหมดนี้เจ้าของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารญี่ปุ่นสุดชิกจากเมือง Los Angeles แล้วเมนูจะน่าสนใจขนาดไหน ไปดูสิรออะไร!

แนะนำให้เริ่มเปิดต่อมรับรสด้วยเมนู “Salmon Rock Sushi” (140 บาท) เป็นซูชิขนาดพอดีคำ แต่คุณภาพคับปาก ด้วยการใช้เฉพาะเนื้อส่วนท้องของปลาแซลมอน นำมาเบิร์นไฟแรง และท็อปด้วยส้มยุซุ ตัวท้องปลานุ่มละลายในปากแบบสุด! ผสมกับความหวานอมเปรี้ยวของส้มยุซุ หอมมันและสดชื่นในคำเดียว และอีกเมนูอย่าง “หอยเป๋าฮื้อ Awabi” (ราคาตามฤดูกาล) ใช้กรรมวิธีตุ๋นสูตรเฉพาะของทางร้าน วิธีกินคือนำหอยไปคลุกกับตับบดของหอยเป๋าฮื้อกินพร้อมข้าวสูตรเด็ด ทั้งสด! เด้ง! มัน!


ต่อมาเป็นเมนูเซตใหญ่อย่าง “Set E (Sushi Special Set)” (1,590 บาท) ประกอบไปด้วย ชูโทโร, อากามิ, ปลาตาโต, ฮามาจิ, ไข่หอยเม่น, กุ้งหวานตัวเล็ก และปลาไหลอูนางิ กินเข้าไปทีละคำ เหมือนเอาทะเลเข้ามาในปาก สดจริงสดจัง! จะสั่งมาเป็นเซต หรือเลือกนั่งบาร์เพื่อให้เชฟทำเสิร์ฟทีละคำพร้อมจับคู่กับเครื่องดื่มก็ได้ เสมือนเป็น Mini Omakase ยังไงยังงั้น!

มาถึงจานหลักที่ขายดีจนใครมาจะต้องสั่ง กับเมนู “Spaghetti Seafood Yakisoba Sauce” (280 บาท) เป็นยากิโซบะที่ใช้เส้นสปาเก็ตตีในการทำ เส้นเหนียวนุ่มสไตล์อาหารอิตาเลียนรู้เลยว่าต้มมาสุกพอดีเป๊ะ! คลุกเคล้ากับซอสยากิโซบะสูตรเด็ดของร้านที่หอมเตะจมูกมาก ๆ บอกเลยว่า “ลงตัว”

ใครสายเนื้อต้องลอง! กับเมนู “Wagyu Foie Gras Roll” (580 บาท) กินเข้าไปเต็มคำ กลิ่นหอมของเนื้อวากิวจากเมืองโอกายามาก็พุ่งเข้าใส่ทันที! ได้รสสัมผัสมันแทรกลายหินอ่อน เคล้ากับน้ำซอสสูตรพิเศษแบบเต็ม ๆ และเมนู “Salmon Tataki” (380 บาท) หอมกรุ่นจากเนื้อปลาแซลมอนสดที่นำไปย่างแบบพอดีโดยไม่ใช้น้ำมัน รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเปรี้ยวหวานของซอสพอนสึ เป็นเมนูตัดเลี่ยนได้เลยล่ะ


ปิดท้ายกันด้วยข้าวอีกสักจานกับเมนูพรีเมียมอย่าง “Foie Gras Hotate Engawa Don” (640 บาท) เป็นเมนูรวมดาวเลย ทั้งความหอมมันของฟัวกราส์คุณภาพจากประเทศฮังการี ความสดของหอยโฮตาเตะจากเมืองฮอกไกโด และความนุ่มลื่นลิ้นของครีบปลาเอ็นกาวะ เป็นการผสมผสานที่กลมกล่อม และจานนี้ไม่เลี่ยนเลย เพราะมีความเปรี้ยวจากส้มยุซุที่แล่มาบาง ๆ ให้มีความสดชื่น

อาหารดี ๆ ต้องมาคู่กับบรรยากาศโดน ๆ บอกเลยว่าร้าน “Double Fish Sushi Cafe” ทำได้ดีเลย เพราะบรรยากาศที่ไม่เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป มีความเรียบง่าย แต่ก็มีความสนุกอยู่ในนั้น ทั้งดนตรี Rock และ Jazz ที่บรรเลงอย่างสนุก บางวันมีดนตรีสดมาเล่นเพลิน ๆ บางวันพีกกว่านั้น มีมายากล Close Up Magic มาเล่นให้ดูสด ๆ ตามโต๊ะอีก! ใครที่อยากพาครอบครัวมากินอาหาร หรือพากลุ่มเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้กัน ขอบอกเลยว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารถนนราชพฤกษ์ที่คุ้มค่ากับการเดินทางมาอย่างแน่นอน


การเดินทาง
ร้าน “Double Fish Sushi Cafe” ตั้งอยู่ริมถนนคู่ขนานราชพฤกษ์ อยู่ห่างจากสถานี BTS บางหว้า 8 กิโลเมตร สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว ทางร้านมีที่จอดรถรองรับครับ