
เคยไหมเวลาที่ต้องการหาสถานที่สักแห่ง สำหรับนั่งอ่านหนังสือ หรือคุย business แต่เบื่อร้านกาแฟแบรนด์เก่าๆ เพราะดูวุ่นวายเหลือเกิน หรือบางทีก็ อยากนั่งมันไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้วัน รู้เวลา แต่ก็ไม่ค่อยมีร้านที่เปิด 24 ชั่วโมงให้เลือกอีก....
ตั่งคำถามอย่างนี้ ก็ต้องมีคำตอบให้อยุ่แล้ว
ลองมาที่ร้าน “Fu.5 Coffee” ดูไหม...เพราะที่นี่เป็นร้านกาแฟที่เปิด 24 ชั่วโมง บรรยากาศสงบ ผู้คนไม่เยอะ ไม่พลุกพล่าน ตั้งอยู่ชั้นล่าง “Thru Thonglor Condominium” บริเวณปากซอยทองหล่อ ฝั่งถนนเพชรบุรี ทำให้ไปมาสะดวก และมีที่จอดรถเพียงพอต่อความต้องการ เพราะสามารถจอดรถที่หน้าร้านก็ได้ หรือจะขึ้นไปจอดบนลาดจอดรถของคอนโดก็ได้

และนอกจากความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทางแล้ว “Fu.5 Coffee” ยังมีความสะดวกในเรื่องของสถานที่อีกด้วย เพราะที่นี่มี Conncept ว่า “IDEAS HAPPEN HERE” สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่นั่งใช้ความคิด ดื่มเครื่องดื่มทีชื่นชอบ และยังสามารถทำงานไปด้วยพร้อมๆ กันได้ ซึ่งที่ “Fu.5 Coffee” เตรียมปลั๊กไฟไว้ให้เกือบทุกมุมของร้านร พร้อม Wi-Fi ที่ให้บริการฟรี นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมขนาด ความจุ 6-8 คนไว้สำหรับการนัดประชุมงาน สามารถขอใช้บริการได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่อย่างใด


แล้วก็ใช่ว่า “Fu.5 Coffee” จะมีดีแค่เพียงเรื่องสถานที่เท่านั้น แต่กาแฟ ขนม และอาหารของที่นี่ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มจาก “กาแฟ” ของร้านกันก่อน กาแฟของ “Fu.5 Coffee” เป็นกาแฟเกรดพรีเมียมที่เบลนด์ให้รสชาติไม่ขมจัดจนเกินไป ด้วยแนวคิดที่ว่า จริงๆ แล้วกาแฟก็จัดเป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีผลเหมือนเบอร์รี่ จึงใช้กรรมวิธีการเบลนด์ให้กาแฟยังคงหลงเหลือกลิ่นเบอร์รี่หอมๆ ติดอยู่ที่ปลายจมูก เวลาดื่มแล้วจะให้กลิ่นหอมละมุนละไมแตกต่างจากที่คุ้นเคย
และด้วยความที่เบลนด์กาแฟไม่ให้เข้มจนเกินไป กาแฟของ “Fu.5 Coffee” จึงเป็นกาแฟที่มีระดับความเข้มข้นปานกลาง เหมาะกับคนหลายกลุ่ม ทั้งคนที่ชอบดื่มกาแฟที่มีความเข้มข้นแบบกลางๆ ไปจนถึงคนที่ชอบดื่มกาแฟสเข้มๆ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟเลย ก็ยังสามารถดื่มกาแฟของ “Fu.5 Coffee” ได้อย่างสบายๆ โดยไม่รู้สึกว่ากาแฟขมเกินไปจนดื่มยาก

สำหรับเมนูเครื่องดื่มร้อนที่แนะนำ ก็ควรจะเริ่มกันที่กาแฟหอมกรุ่นอย่าง “Cappuccino” (ราคา 80 บาท) ฟองนมหนานุ่ม กาแฟหอมกรุ่น รสเข้มข้นกำลังดี และมีความหวานมันของนมผสมอยู่ด้วย ทำให้ดื่มง่าย


ตามด้วยเครื่องดื่มของคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟ ที่สามารถสั่ง “Hot Chocolate” (ราคา 85 บาท) มาจิบให้สมองปลอดโปร่ง ด้วยช็อกโกแลตร้อนรสเข้ม หวานน้อย มีฟองนมละมุนลอยฟ่องอยู่ด้านบน หรือจะลอง “Hot Green Tea” (ราคา 85 บาท) ชาเขียวร้อนที่แม้จะหวานน้อย แต่ก็มีรสชาติที่เข้มข้นของนมและชาเขียวอยู่อย่างเต็มเปี่ยม เพราะใช้ชาเขียวมัทฉะแท้ๆ จากญี่ปุ่น ที่มีความหอมและขมนิดๆ แถมยังมีเทกซ์เจอร์ของผงชาอยู่ก้นแก้วด้วย จึงแน่ใจได้เลยว่าที่ “Fu.5 Coffee” ใช้ชาเขียวมัทฉะจริงๆ แน่นอน
ส่วนเมนูเครื่องดื่มเย็น ก็มีให้เลือกทั้งกาแฟรสเข้มข้นอย่าง “Americano” (ราคา 75 บาท) อเมริกาโน่รสเข้ม ที่แม้จะนำมาดื่มแบบเย็นๆ ก็ยังคงเข้มข้นและทำให้ตาสว่างได้ไม่แพ้อเมริกาโน่แบบร้อน แต่ถ้าไม่ชอบกาแฟรสเข้ม ก็สั่งเป็น “Iced Cappuccino” (ราคา 85 บาท) หรือถ้าใครอยากได้เครื่องดื่มที่รสชาติหอมหวานอ่อนละมุนลงมาอีกหน่อย ก็ต้องลอง “Vanilla Late” (ราคา 95 บาท) วานิลลา ลาเต้ รสหวานละมุน หอมกลิ่นวานิลลา ดื่มแล้วชื่นใจดับร้อนได้ดีเลยทีเดียว



และเมื่อนั่งทำงาน หรือนั่งประชุมกันไปสักพัก ก็อาจจะเริ่มหิวขึ้นมาได้ ที่ “Fu.5 Coffee” ก็มีขนมและอาหารที่เสิร์ฟแบบ “Breakfast All day” เป็นอาหารเช้าที่สามารถสั่งมากินได้ตลอดทั้งวัน จะกินเป็นอาหารเช้าก็ได้ อาหารเที่ยงก็ดี หรือจะกินช่วงบ่ายก็ยังไหว แล้วแต่ระดับความหิวของแต่ละคน

เริ่มด้วยบรรดาเมนูขนมปัง และเมนูแพนเค้กต่างๆ กันก่อน ซึ่งเมนูสามัญประจำใจของใครหลายๆ คน ก็คงไม่พ้น “French Toast Garden” (ราคา 165 บาท) ขนมปังชุบไข่รสชาติหวานๆ มันๆ โรยด้วยอัลมอนด์สไลซ์ ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปหอมๆ กินคู่กับสลัดผักบัตเตอร์เฮดสดๆ ที่ราดด้วยน้ำสลัดออร์แกนิคสไตล์ญี่ปุ่นที่ทางร้านทำเองแบบโฮมเมด

หรือถ้าใครอยากกินแพนเค้กเป็นอาหารคาว ก็ต้องลองสั่ง “Bacon Pancake” (ราคา 185 บาท) เมนูที่จับของหวานอย่างแพนเค้กเนื้อหนานุ่มชุ่มฉ่ำมาเข้าคู่กับเบคอนชิ้นยาวทอดกรอบๆ และมะเขือเทศสดๆ ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปรสหวานหอม เป็นความต่างที่ลงตัวของของหวานกับของคาวจริงๆ

แต่หากอยากได้เมนูของหวานที่กินแล้วร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ก็ต้อง “Butter Milk Pancake with Banana” (ราคา 165 บาท) บัตเตอร์ มิลค์ แพนเค้กเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ กินคู่กับกล้วยหอมและเมเปิ้ลไซรัป พร้อมวิปครีม หรือ “Chocolate Pancake” (ราคา 185 บาท) ช็อกโกแลตแพนเค้กสูตรพิเศษของร้าน ที่อบจนเนื้อแพนเค้กกรอบอร่อย และได้รสช็อกโกแลตเข้มข้นอยู่ในทุกอณูของเนื้อแพนเค้ก ราดด้วยกล้วยหอมผัดกับคาราเมล แล้วราดซอสช็อกโกแลตซ้ำลงไปอีกให้เข้มข้นถึงใจ



แล้วจบด้วยความกรอบบางเบาของ “Building Tower Toast” (ราคา 185 บาท) ขนมปังเกรดพรีเมียมหั่นเป็นแท่งยาวอบกับเนยจนกรอบ วางเรียงซ้อนกันจนเหมือนทาวเวอร์ที่ล้อมรอบไปด้วยสตรอเบอร์รี่สดๆ โรยด้วยอัลมอนด์สไลซ์บางๆ ราดด้วยมิลค์ซอสฉ่ำๆ และวิปปิ้งครีมเนื้อเนียน

แต่ถ้าหิวจัด และอยากได้ของที่หนักท้องมากกว่านี้ ที่ “Fu.5 Coffee” ก็มีพาสต้าให้เลือกหลายเมนู เป็นพาสต้าสไตล์อิตาเลียนแท้ที่ปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น อาทิ “Spaghetti Aglio Peperoncino with Bacon and Mushroom” (ราคา 185 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดกับเบคอน เห็ดฟาง และใบโหระพา เป็นสปาเก็ตตี้รสชาติจัดจ้านด้วยกลิ่นกระเทียมและใบโหระพา เหมาะกับคนที่ชอบเมนูพาสต้าแบบไลท์ ปราศจากครีม

หรือถ้าหากชอบรสชาติเข้มข้น และหอมกลิ่นเครื่องเทศฝรั่ง ก็ต้องสั่งเมนู “Spaghetti Alla Bolognese” (ราคา 185 บาท) สปาเก็ตตี้โบโลญเนสหมู รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นเครื่องเทศอบอวล ทั้งยังได้รสชาติที่เข้มข้นของมะเขือเทศที่คลุกเคล้าจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกับหมูสับ ส่วนคนที่ชอบครีมๆ ก็ต้องไม่พลาด “Fusilli Cream Sauce with Ham and Mushroom” (ราคา 190 บาท) เส้นฟุสซิลี่ราดด้วยครีมซอสแฮมกับเห็ดรสชาติเข้มข้นและครีมมี่สุดๆ





มีครบทั้งสถานที่น่านั่ง เปิดตลอด 24 ชม. พร้อมฟรี Wi-Fi และอาหารพรั่งพร้อมทั้งคาวและหวานแบบนี้ หากลองได้ไปเยือนสักครั้ง หลายๆ คนคงแทบจะอยากย้ายออฟฟิศไปนั่งทำงานกันที่ “Fu.5 Coffee” กันอย่างแน่นอน แล้วยังมีสาขาที่ FU.5 Coffee I’m Park และ FU.5 VANILLA MOON อีกด้วย






