#วงในบอกมา
- เจ้าของร้านและเชฟชื่อดัง “Hiura Masaru” เป็นผู้สืบทอดสูตรดั้งเดิม คิดค้นโดยคุณย่าในสมัยโชวะ ปรุงโดยคุณพ่อ และปรับให้มีมิติยิ่งขึ้นโดยคุณเชฟเอง
- “Hinoya Curry” ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันแกงกะหรี่ระดับประเทศ Kanda Curry Grand Prix ปี 2013
- ข้าวแกงกะหรี่ของร้าน “Hinoya Curry” มีรสชาติ 3 มิติ เป็นเอกลักษณ์ตามสโลแกน “คำแรกหวาน คำที่สองเผ็ดร้อน คำสุดท้ายหอมกรุ่นอยู่ในปาก”

“สถานีต่อไปชิดลม” เสียงประกาศอันคุ้นเคย ที่ทำให้ต้องเงยหน้ามองป้าย BTS ว่าตอนนี้กำลังจะถึงสถานีชิดลม ลงจากรถไฟฟ้าปุ๊บก็ขอตรงดิ่งไปยังห้างน้องใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่าง “The Market Bangkok” ศูนย์รวมมาร์เก็ตที่เด็ดมาก! คัดสรรร้านเด่น ร้านดังมากกว่า 1,200 ร้าน สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งสายชิลล์ สายช็อป สายชิม สายกิน ไม่ว่าจะสายไหน ยังไงก็ถูกใจอย่างแน่นอน!
ใครเป็นสายไหน กระจายตัวไปตามความชอบได้เลยจ้ะ แต่ถ้าใครเป็นสายกิน แล้วพร้อมจะไปฟินกับอาหารรสชาติเด็ด กรุณาเรียงแถวแล้วเดินไปชั้น 3 พร้อมกันเลย! พอขึ้นมาชั้น 3 ก็ต้องตกตะลึงกับเหล่าบรรดาร้านอาหารใน The Market Bangkok แต่ละร้านแค่พูดชื่อใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก ระหว่างสอดส่องว่าจะเข้าไปลิ้มลองร้านไหนดี สายตาอันแหลมคม ก็เหลือบไปเห็นป้ายร้าน “Hinoya Curry” ร้านแกงกะหรี่ ที่เปิดสาขาแรกในเมืองไทย! อ่านไม่ผิดหรอก ร้านเปิดใหม่สาขาแรกในไทย ที่ไม่เคยเปิดในประเทศอื่น ๆ มาก่อน ร้านน้องใหม่แบบนี้ มีหรอที่กานต์จะพลาด ไปลองพร้อม ๆ กันเลย!

พอเข้ามาในร้านก็ต้องบอกเลยว่าได้ฟีลความเป็นญี่ปุ่นโดยแท้ ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบมินิมอล เพิ่มสีสันร้านให้ดูเก๋ด้วยเก้าอี้สีเขียวและโคมไฟ ถ้าไม่บอกว่าอยู่ไทย คิดว่าเข้ามานั่งกินอยู่ที่ญี่ปุ่นนะเนี่ย!

เมนูของทางร้านแต่ละเมนูบอกเลยว่าน่ากินมาก ๆ แถมได้ยินเคล็ดลับจากเชฟหนุ่มสุดหล่อมาว่า กว่าจะได้แกงกะหรี่ที่มีความเข้มข้น ต้องผ่านกรรมวิธีที่พิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ และส่วนผสมที่ให้รสชาติหลากหลาย ผักที่มีกลิ่นเฉพาะและผลไม้ที่มาช่วยปรุงแต่งรสชาติให้ “คำแรกหวาน” ไม่ว่าจะเป็นกล้วย มะม่วง องุ่นแห้ง และลูกพีช นอกจากนี้ยังมีเครื่องเทศกว่า 26 ชนิดและเครื่องแกงสุดพิเศษที่ทำให้ “คำที่สองเผ็ดร้อน” ทางร้านแอบกระซิบมาว่าเครื่องแกงของทางร้านส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเลยนะจ๊ะ และในแกงกะหรี่มีส่วนผสมมากกว่า 90 ชนิด! เรียกว่าเข้มข้นถึงใจ รสชาติถึงเครื่องกันเลยจริง ๆ
สุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ เนื้อวัว หรือเนื้อหมู นำมาเคี่ยวรวมกับผัก ผลไม้ เครื่องเทศและเครื่องแกงด้วยไฟที่สม่ำเสมอนานกว่า 30 ชั่วโมง จนได้ความเข้มข้นอันเป็นที่มาของ “คำสุดท้ายที่หอมกรุ่นอยู่ในปาก” ก่อนนำมาราดบนข้าวสวยร้อน ๆ แบบสดใหม่วันต่อวัน ขอบอกก่อนนะว่าพิเศษสุดสำหรับประเทศไทย เพราะทางร้านได้มีการทำแกงกะหรี่หมูขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ลูกค้าได้เลือกว่าจะกินแกงกะหรี่เนื้อหรือหมู เพื่อให้ถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้น เอาใจใส่คนไทยแบบนี้ เชฟร้านนี้คาวาอิสุด ๆ เลย
พอได้ที่นั่งแล้ว กลิ่นหอม ๆ ของแกงกะหรี่จากโต๊ะอื่นลอยผ่านมาเตะจมูกเรา ก็ทำให้ท้องที่แสนจะว่างเปล่าตะโกนออกมาว่า “จานเดียวคงไม่พอ!” เพราะฉะนั้นรออะไรอยู่เล่า จัดไปสั่งรัว ๆ ! เริ่มต้นที่จานแรก “ข้าวแกงกะหรี่ไข่ดิบ” (ไซส์ M แกงกะหรี่เนื้อ 180 บาท แกงกะหรี่หมู 160 บาท) 1 ใน 3 เมนูยอดนิยมของ “Hinoya Curry” และเป็นเมนูที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันแกงกะหรี่ระดับประเทศ Kanda Curry Grand Prix ปี 2013 กลิ่นหอม รสกลมกล่อมของไข่สดที่โปะลงบนแกงกะหรี่ร้อน ๆ รสชาติเข้มข้นลงตัว ใครที่ชอบแสวงหารสชาติใหม่ ๆ ที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน แนะนำจานนี้เลย


จานต่อไปเป็นเมนูยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ทำให้ “Hinoya Curry” ชนะเลิศและเป็นที่รู้จักทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่นกับ “ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดทงคัตสึ” (ไซส์ M แกงกะหรี่เนื้อ 240 บาท แกงกะหรี่หมู 220 บาท) เมนูสุดฮิตที่คนไทยคุ้นเคยกันดี หมูสันนอกเนื้อนุ่ม ทอดจนเหลืองกรอบ ให้รสสัมผัสกรอบนอก นุ่มใน ราดด้วยแกงกะหรี่ร้อน ๆ กินแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติ 3 มิติ ที่เป็นเอกลักษณ์ตามสโลแกน “คำแรกหวาน คำที่สองเผ็ดร้อนคำสุดท้ายหอมกรุ่นอยู่ในปาก”เพิ่มความพิเศษสักหน่อยด้วย “น้ำส้มยุซุโซดา” (ราคา 79 บาท) สูตรพิเศษของฮิโนยะที่ให้ความหอมลึก รสหวานเปรี้ยวกำลังดี และซ่าชื่นใจภายในแก้วเดียว แถมมีแค่ที่ไทยด้วยนะ พิเศษจริงไรจริง ยิ่งดื่มยิ่งฟิน


จานแรกเป็นไข่ จานที่สองเป็นหมู จานที่สามตามมาติด ๆ ก็ต้องเป็นเมนูไก่กุ๊ก ๆ อย่าง “ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดซอสนัมบัง” (ไซส์ M แกงกะหรี่เนื้อ 230 บาท แกงกะหรี่หมู 210 บาท) เป็น Signature Menu ของทางร้าน ไก่ทอดคาราอาเกะที่กรอบนอกนุ่มใน ราดซอสนัมบังสูตรพิเศษ เสิร์ฟคู่กับซอสทาร์ทาร์ หอม มัน กลมกล่อม ถ้ายังกินกันไม่หนำใจ ทางร้านขอจัดชุดใหญ่ให้กับ “ข้าวแกงกะหรี่สเปเชียล” (ไซส์ M แกงกะหรี่เนื้อ 400 บาท แกงกะหรี่หมู 380 บาท) ที่ทุกคนจะได้สัมผัสรสชาติความหอมของแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ พร้อมกับท็อปปิงชุดใหญ่ ที่เลือกได้ตามใจชอบถึง 3 อย่าง โดยครั้งนี้ขอเลือกเป็นทงคัตสึ กุ้งทอด และไส้กรอก ไม่ว่าจะท็อปปิงไหน ก็โดนใจ ใช่เลย!


อิ่มยัง? ถ้ายังไม่อิ่ม กินต่อไม่รอแล้วนะกับ “สปาเกตตี แกงกะหรี่ฮิโนยะ” (ไซส์ M แกงกะหรี่เนื้อ 220 บาท แกงกะหรี่หมู 200 บาท) สปาเกตตีเส้นเหนียวนุ่ม กินกับแกงกะหรี่ร้อน ๆ สูตรพิเศษของฮิโนยะ และเมนูสุดท้ายที่ทางร้านขอนำเสนออย่างสุดหัวใจกับ “ข้าวแกงฮายาชิ ฮิโนยะ” (ไซส์ M แกงกะหรี่หมู 140 บาท) แกงฮายาชิหอม ๆ รสชาติเลิศในแบบฉบับสูตรลับของฮิโนยะ พิเศษสุด ๆ เลย~


ทุกเมนูสามารถสั่งปริมาณข้าว เลือกแกงกะหรี่เนื้อ หรือ หมู (น้ำแกงกะหรี่หมูมีเฉพาะที่ไทยเท่านั้น) สั่งปริมาณแกงกะหรี่ และระดับความเผ็ดเพิ่มหรือลดได้ตามใจชอบ พริกของทางร้านเป็นพริกพรีเมียมส่งตรงมาจากญี่ปุ่น มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความเผ็ดที่ลงตัว หากใครที่ยังไม่หนำใจกับท็อปปิง สามารถสั่งเพิ่มได้ โดยท็อปปิงมีให้เลือกอย่างหลากหลาย แถมมีท็อปปิงสุดพิเศษสำหรับคนไทยอย่างหมูกรอบอีกด้วย เป็นร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เอาใจใส่คนไทยจริง ๆ
นอกจากนี้ทุกเมนูจานหลัก เรายังสามารถจับคู่กับชุดสุดคุ้มได้อีก โดยแบ่งเป็น 3 ราคา เพิ่มเพียง 40 บาท จะได้ซุปมิโสะและเครื่องดื่ม (เลือกระหว่างโค้ก สไปรท์ หรือชามะนาว) เพิ่ม 70 บาท เซต A จะได้สลัด (สลัดมันฝรั่งหรือสลัดทูน่า) และเครื่องดื่ม เพิ่ม 70 บาท เซต B จะได้ซุปมิโสะและสลัด ไม่ว่าจะคู่ไหน ก็คุ้มสุด ๆ เลยจ้า ยิ่งกินคู่กับเมนูหลักต่าง ๆ แล้ว คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม!
โปรโมชั่น
ฉลองเปิดสาขาแรกในประเทศไทยด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ ฟรี! ซุปมิโซะและนำ้อัดลม (ปกติราคา 40 บาท) เมื่อสั่งเมนูแกงกะหรี่ทุกรายการขนาด M ขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม พ.ศ. 2562 ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่ Website Hinoyacurrythai และ Facebook Hinoyacurrythai หรือติดต่อเบอร์ 083-824-0405 และ 02-209-5139
การเดินทาง
ใครที่อยากจะลิ้มลองแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ ส่งตรงจากญี่ปุ่น มาลองชิมรสชาติเข้มข้นกันได้ที่ร้าน “Hinoya Curry” ร้านแกงกะหรี่ The Market Bangkok สาขาแรกในประเทศไทย โดยการเดินทางก็แสนสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลม หรือ สยาม และก็เดินต่อมาด้วยทางเดินลอยฟ้า R Walk 500 เมตร จาก BTS ชิดลม และ 700 เมตร จาก BTS สยาม พอถึงห้างปุ๊บ กดลิฟต์ตรงดิ่งไปที่ชั้น 3 ก็ถึงแล้วคร้าบ~