วันนี้ทีมงาน Wongnai และน้องหลุมดำจะพาเพื่อน ๆ มาฟินอาหารญี่ปุ่นฟิวชันกันที่ร้าน “IN THE MOOD FOR LOVE” เอกมัยซอย 1 ขอบอกก่อนว่าใครที่ชอบทานอาหารแล้วดื่มด่ำบรรยากาศ ร้านนี้เพอร์เฟกต์สุด ๆ เพราะเจ้าของร้านเขาได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง “IN THE MOOD FOR LOVE” ของ หว่อง กา ไว นั่นเองค่ะ จะฟินขนาดไหนตามมาดูกัน~

แค่ก้าวขาเข้ามาในร้านก็รู้สึกว้าววว การตกแต่งเป็นสไตล์ฮ่องกงแฝงความหรูหรา โรแมนติก อบอุ่นและเป็นกันเอง ทุกรายละเอียดภายในร้านล้วนมีเอกลักษณ์ ตรึงตาตรึงใจสุด ๆ ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงและดอกไม้เหมือนอยู่ในห้วงแห่งความรักเหมือนชื่อร้านค่ะ :)


จุดเด่นที่ใครต่างก็ชื่นชอบ คือ ความเป็นไพรเวตซูชิบาร์ และ การต่อยอดเรื่องรสชาติ “IN THE MOOD FOR LOVE” ไม่ได้มาแค่ขายอาหารเท่านั้น แต่อยากให้ความรู้ที่ถูกต้องกับนักกินทุกท่าน กินมาในระดับหนึ่ง หรือ Expert ก็ตาม ที่ร้านจะต่อยอดในทุก ๆ ขั้น เหมือน Community ที่มาแลกเปลี่ยนความรู้กันกันค่ะ

เริ่มต้นมื้อเบา ๆ กับสลัดคลีน ๆ “Skin Salad” (340.-) สลัดหนังปลาแซลมอนทอดกรอบ ที่เชฟออกแบบมาให้เป็นกึ่งของคาวและอาหารทานเล่น สลัดผักสดราดด้วยน้ำสลัดงาคั่ว ครีมมีเล็กน้อย ได้รสชาติและเทกซ์เจอร์จากหนังปลาแซลมอนกรอบและไข่ต้ม เป็นเมนูที่เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยค่ะ



เพิ่มความฟินไปอีกระดับด้วย “Gindara saikyo yaki” (650.-) จุดเด่นอยู่ที่เนื้อสัมผัสของเนื้อปลาจินดาระที่ไม่เหมือนปลาหิมะ มันมีความมันสอดแทรกอยู่มากกว่า ตัวซอสทำมาจากมิโสะขาวผสมสาเก และการหมักมิโสะให้เข้าเนื้อปลาจินดาระอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อค่ะ

คามพิเศษของซูชิที่นี่อยู่ที่ “ปลา” ค่ะ ปลาที่นี่จะมีความแตกต่างจากที่อื่น ด้วยการ Aging (เอจจิง) ผ่านการบ่ม หมัก ดอง แตกต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของปลา ต้องละเอียดอ่อนและใช้ประสบการณ์ ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยหรือลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร เมื่อนำปลาสด ๆ มาหั่นแล้วตัดแล้วกิน นั่นคือสิ่งที่ผิด...สิ่งที่ได้จะเป็นรสชาติปลานั้น ๆ แบบเบาบาง เพราะยังไม่ได้ดึงรสชาติของปลาออกมาอย่างสมบูรณ์ที่สุด วันนี้เราลองเลือกซูชิมา 6 คำ รวมถึงไฮไลต์เฉพาะซีซันมาลองค่ะ “อากามิ” เนื้อสีแดงจาก Blue Fin Tuna รสเข้มข้น “ซูมิอิกะ” ปลาหมึกกระดองญี่ปุ่น กรอบและหวานกว่าอิกะแบบทั่ว ๆ ไป “โคฮาดะ” ปลาสีเงินขนาดกลางของญี่ปุ่น เป็นปลาที่เดิมพันฝีมือเชฟร้านนั้น ๆ เอาไปทำอะไรก็ไม่เวิร์ก ต้องเอามาดองเท่านั้น วัดสกิลล์เชฟว่าจะดองได้ดีหรือเปล่า “ชิโรฮิบิ” กุ้งขาวตัวเล็กกรุบ ๆ เป็นไฮไลต์ที่มีเฉพาะซีซันนี้ “อะนาโกะ” ปลาไหลทะเล เทกซ์เจอร์จะนุ่มกว่าปลาไหลน้ำจืด หัวใจหลักอยู่ที่ซอสที่เข้มข้นที่ผ่านการหมักเป็นเวลานาน “โคบาชิระ” เอ็นหอยอาโอยาหงิ โดยจะเป็นส่วนที่เป็นเอ็นยึดเปลือกหอยคล้าย ๆ กับโฮตาเตะ ถ้าเปรียบเทียบกับโฮตาเตะที่นุ่มนิ่มรสชาติบาง แต่โคบาชิระจะกรอบ รสชาติเข้มกว่า


“Caterpillar Roll” (420.-) โรลล์นี้ได้แรงบันดาลใจตอนที่เชฟรันไปทำงานที่อเมริกา ที่นั่นโรลล์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและใช้หลากหลายวัตถุดิบที่ต่างกันในแต่ละร้าน โดยที่มี concept หลักเป็นโรลล์รูปตัวหนอนและทำจากอะโวคาโด สำหรับร้าน “IN THE MOOD FOR LOVE” นั้น เชฟรันเลือกนำปลาไหลและกุ้งเทมปุระเป็นวัตถุดิบหลักที่มีเทกซ์เจอร์และรสต่างกัน แต่นำมารวมกันพร้อมเติมซอสเทริยากิสูตรพิเศษจากทางร้าน เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมและลงตัวมากขึ้น และได้ความมันของอะโวคาโดที่ท็อปด้านบน

“Happy to get her” (390.-) หน้าตาเรียบง่าย แต่รสชาติโดดเด่นไม่ธรรมดา หวาน เค็ม กรอบ ผสมผสานกันในปาก ด้านในเป็นโฮตาเตะ ท็อปด้วยเนื้อปูคลุกซอสเมนไทโกะ เบิร์นไฟเล็กน้อย เราชอบรสชาติโรลล์ที่มีความเข้มข้นของกลิ่น Herbs ค่ะ


ทานอาหารกันอิ่มหนำแล้ว จะไปเที่ยวต่อ ก็หมดห่วงเรื่องสุขภาพช่องปากเพราะมี “Systema” ที่ช่วยให้การแปรงฟันของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมขนแปรง Soft & Slim ลิขสิทธิ์เฉพาะของซิสเท็มมา สุดยอดขนแปรงปลายเรียวแหลมและนุ่ม ยืดหยุ่น แต่ทรงพลัง มีพลังสปริง เพียงใช้ครั้งแรกก็จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มของขนแปรงแต่ทรงพลังการซอกซอน ขจัดสิ่งสกปรกได้ดี และด้วยสรีระช่องปากที่แตกต่างของคนไทย ทาง Systemma ก็มีหัวแปรงให้เลือก 3 ขนาด ทั้ง Compact (ขนาดเล็ก), Original (ขนาดกลาง) และ XL (ขนาดใหญ่) ที่สามารถเข้าซอกซอนทำความสะอาดได้ลึกถึงระดับร่องเหงือกและซอกฟัน จบมื้ออย่างแฮปปี้ค่า!


นอกจากนี้ทางร้านยังมี “โอมากาเสะ” ด้วยนะคะ เชฟจะครีเอตวัตถุดิบตามวันนั้น ๆ ข้อดีอยู่ที่ 80 - 85% เชฟใช้ปลาจากแหล่งธรรมชาติไม่ใช่ฟาร์ม จะมีรสชาติในตัวที่เข้มข้นกว่า แล้วเอามา Age อีกที ต่อยอดรสชาติให้ฟินทวีคุณ อยากทานต้องจองล่วงหน้าประมาณสามวันค่ะ คอร์สเริ่มต้นที่ 5000++ ขึ้นอยู่กับไฮไลต์วัตถุดิบในวันนั้น ๆ
การเดินทาง
สรุปแล้วมื้อนี้ประทับใจมาก ทั้งการครีเอตเมนู รสชาติอาหาร คุณภาพวัตถุดิบ และบรรยากาศของร้าน ตามรอยน้องหลุมดำมาได้ที่ “IN THE MOOD FOR LOVE” ร้านตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท 63 (ถนนเอกมัย) เข้ามาจนถึงเอกมัย 1 เลี้ยวรถเข้ามาตามซอย ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ มีที่จอดรถบริเวณหน้าร้านพอสมควร แต่ถ้าสะดวกรถไฟฟ้า BTS ก็ลงสถานีเอกมัย แล้วนั่ง taxi หรือพี่วินเข้ามาค่ะ