นั่งพักสบายได้ทุกวัน กับกาแฟกลิ่นหอมกรุ่น ที่ เขาช่องปาร์ค เชียงใหม่

กาแฟนั้นถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในชื่อที่เรามักจะได้ยินกันอย่างคุ้นหู เมื่อพูดถึงเรื่องกาแฟนั่นก็คือชื่อของ “เขาช่อง” แบรนด์ผู้ผลิตกาแฟที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 60 ปี ซึ่งในวันนี้ได้ก้าวมาสู่ตลาดใหม่เพื่อเข้าใกล้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ มากยิ่งขึ้น โดยการเปิดร้าน เขาช่องปาร์ค เชียงใหม่

ร้านกาแฟ เขาช่องปาร์ค เชียงใหม่ ที่ผมกำลังพูดถึงนี้เพื่อน ๆ สามารถเดินทางไปที่ร้านได้ง่ายมาก ๆ เลยครับ จากทางลอดหน้าศาลากลาง ขับตรงไปเรื่อย ๆ ตามถ.เส้นวงแหวนรอบสอง พอลงสะพานข้ามแม่น้ำปิงให้ตรงไปอีก 1 กม. ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ สามารถเลี้ยวเข้าไปจอดรถทางด้านในได้เลย

แน่นอนว่าเรื่องแรกที่ผมอยากจะพูดถึงก็คือเรื่องของกาแฟครับ เพราะการที่เขาช่องมาเปิดหน้าร้านกาแฟแบบนี้ นั้นเพื่อแสดงให้เห็นว่านอกจากเรื่องของกาแฟผงใส่ซองสำเร็จรูปที่เราเห็นวางขายกันอย่างคุ้นตาแล้ว เรื่องของกาแฟสดเองก็ทำออกมาได้ดีไม่น้อยหน้าร้านไหน ๆ ในประเทศไทยเช่นกัน เพราะทางร้านนั้นใส่ใจในทุกขั้นตอนจริง ๆ ตั้งแต่เรื่องเมล็ดกาแฟที่เลือกมา ความร้อนที่ใช้ และน้ำที่ใช้จนกลั่นออกมาเป็นกาแฟหยดสุดท้ายในแก้ว จังหวะที่ลูกค้ารับแก้วไป แล้วดูดกาแฟด้วยสีหน้าอย่างมีความสุข ไปจนถึงการการดูแลทำความสะอาดเครื่องชงกาแฟให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก เนี่ย ๆ ๆ เห็นไหมว่าเขาใส่ใจในทุกขั้นตอนจริง ๆ 

เห็นผมพูดมาว่ามาตรฐานสูงขนาดนี้นะครับ แต่เรื่องของราคากาแฟนี่สวนทางเลย เพราะราคากาแฟเริ่มต้น ก็จะอยู่ที่ 50 บาทสำหรับกาแฟร้อน 60 บาทสำหรับกาแฟเย็น และ 75 บาท สำหรับกาแฟปั่น เห็นไหมว่าราคาถูกจริง ๆ แล้วหลังจากที่ลองชิมมาหลายแก้ว ผมก็มาสะดุดกับกาแฟแก้วนี้ครับ แบล็กเขาช่อง (70 บาท) กาแฟดำเย็น ๆ ที่เพิ่มความเฟรชลงไปด้วยน้ำบ๊วยดอยคำสักนิด แล้วหย่อนบ๊วยแห้งเม็ดลงไปอีกหน่อย แล้วก็คนให้ทุกอย่างเข้ากัน 

นอกจากกาแฟแล้วเครื่องดื่มอื่น ๆ ของที่นี่ก็ใช่ว่าจะไม่ใส่ใจนะ อย่างเรื่องของชา ที่เอามาทำเป็นเมนูชาไทยปั่น (75 บาท), ชามะนาว (60 บาท) อะไรพวกนี้ ทางร้านก็ได้ทำการผสมผสานชาทางเหนือที่กลิ่นหอมฟุ้ง เข้ากับชาทางใต้ที่มีรสชาติหนักหน่วง จนเกิดเป็นชาที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ใครที่ชอบดื่มชาหากมีโอกาสได้ชิมแล้วเชื่อว่าคงจะติดใจกันอย่างแน่นอน 

นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มแบบว้าว ๆ อย่างอื่นอีกนะอย่าง มัทฉะลาเต้ (139 บาท) ที่อัดแน่นไปด้วยชาเขียวนานาชนิด มัทฉะผงคุณภาพดีจากญี่ปุ่น วิปครีมชาเขียว และท็อปปิ้งชาเขียวอีกมากมายเพื่อเอาใจคนรักชาเขียวโดยเฉพาะ สตรอว์เบอร์รีเลมอนเนด (89 บาท) แก้วนี้เป็นเครื่องดื่มม็อกเทล ที่เน้นในความสดชื่นซาบซ่าด้วยรสหวานของสตรอว์เบอร์รี และรสเปรี้ยวของเลมอน

พูดถึงเครื่องดื่มมาเยอะแล้วผมว่าหลายคนน่าจะเริ่มหิวแล้ว งั้นเราก็มาเริ่มต้นกันที่ของกินเล่นกันดีกว่า สำหรับเมนูของกินเล่นที่นี่ก็มีให้เลือกค่อนข้างเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น เฟรนช์ฟรายส์ชีส (79 บาท) ที่บนตัวเฟรนช์ฟรายส์นอกจากจะโรยผงชีสเอาไว้แล้ว ก็ยังมีชีสซอสมาให้จิ้มกันเพลิน ๆ อีกด้วย แต่ถ้าใครอยากกินรสจัด ๆ ก็แนะนำเป็น หมูมะนาว (79 บาท) รับรองว่าจัดจ้านถึงใจแน่นอน อีกเมนูหนึ่งจะเป็นของกินเล่นแนวสุขภาพกับเมนู สลัดทูน่า (99 บาท) ที่ใช้ผักสด สะอาด ปลอดสารพิษ มาเสิร์ฟให้เพื่อน ๆ นั่นเอง

และเนื่องจากร้านนี้เปิดบริการตั้งแต่เช้า ที่นี่ก็จึงมีชุดอาหารเช้าที่เตรียมไว้บริการลูกค้าทุกคนเช่นกัน โดยชุดอาหารเช้านั้นจะพร้อมเสิร์ฟในช่วง 07:00 - 10:00 น. ของทุกวัน กับอาหารหลากสไตล์ไม่ว่าจะเป็น ไข่กระทะ (79 บาท) ที่เสิร์ฟมาในแบบกระทะร้อน ๆ พร้อมไข่ดาวสองฟอง, หมูยอ, กุนเชียง และหมูสับทรงเครื่อง ชุดอาหารเช้าสไตล์อเมริกัน (79 บาท) ที่มีทั้งไข่ดาว, ไส้กรอกพันแฮม, ขนมปังปิ้ง และสลัดผัก แต่ถ้าชอบกินเป็นแซนวิชก็มี คลับแซนวิช (89 บาท) บอกเลยว่ายัดไส้มาแน่นมาก ๆ ทั้งผัก, ไข่ดาว, แฮม, หอมใหญ่ และมะเขือเทศ 

ในส่วนของอาหารจานเดียวจานเด็ดเนี่ย ที่นี่ก็มีขายเหมือนกันนะตัวเธอ ที่สำคัญราคาก็ไม่ได้ต่างจากข้างนอกมากมายเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์ยุโรปอย่าง สปาเกตตีคาร์โบนารา (139 บาท) กินแล้วรู้สึกได้ถึงความหอมมันของไข่แดง ที่ผสมเข้ากับชีสจนกลายเป็นเนื้อครีมหอม ๆ พร้อมกับแฮม และหอมใหญ่ชิ้นเล็ก ๆ 

ข้าวกะเพราหมูไข่ดาว (79 บาท) ที่เสิร์ฟข้าวสวยร้อน ๆ มาคู่กับกะเพราแบบดั้งเดิม งานนี้บอกเลยหมูเน้น ๆ ไม่มีถั่วฝักยาวจ่ะ หรือจะเป็น ข้าวผัดต้มยำทะเล (99 บาท) ข้าวสวยผัดร้อน ๆ พร้อมกับเครื่องพริกเผาและเหล่าสัตว์ทะเลทั้งหมึก, กุ้ง และหอยแมลงภู่ รวมถึงเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่งอย่าง หมูปลาร้า (159 บาท) ที่ใช้สันคอหมูนุ่ม ๆ ย่างหอม ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มปลาร้าปรุงรสสูตรเด็ด แนะนำเลยจริง ๆ กับเมนูนี้ ถ้ามาแล้วไม่สั่งนี่บอกเลยว่าพลาดมาก ๆ 

ปิดท้ายวันนี้กันด้วยของหวานแน่นอนว่าก้มีให้เลือกทั้งขนมหวานแบบไทย ๆ อย่าง ลอดช่องวัดเจษ (59 บาท) ลอดช่องรสละมุนที่ส่งตรงจากวัดเจษฯมาถึงเชียงใหม่เพื่อชาวเชียงใหม่เลยจริง ๆ ส่วนเบเกอรีอื่น ๆ ในร้านอย่าง กลีบลำดวน (39 บาท) ตัวนี้เป็นขนมไทยโบราณที่ทางร้านทำเองครับ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเด็ดนะ กับสัมผัสแบบละเอียดของเนื้อแป้งที่นอกจากจะมีรสชาติหวานแบบกำลังดีแล้ว ก็ยังทิ้งกลิ่นหอมควันเทียนให้ฟุ้งไปทั้งปาก ส่วนพวกขนมเค้กก็อยากแนะนำเป็น โรลกาแฟ (89 บาท) ที่นอกจากจะหวานพอดี ๆ ซึ่งเข้ากับเนื้อโรลเค้กนุ่ม ๆ ฉ่ำ ๆ แถมยังมีกลิ่นหอมของกาแฟคุณภาพจากเขาช่องอีกด้วย ส่วนอีกชิ้นเป็น นิวยอร์กชีส (89 บาท) ชีสเค้กตำรับนิวยอร์ก ที่ทุกคนจะได้ฟินไปกับเนื้อชีสอันเนียนแน่น และกลิ่นหอมชวนหลงใหล เหล่าสาวกชีสเค้กถ้าลองสั่งไปมีติดใจกันอย่างแน่นอน

จริง ๆ แล้วที่ร้าน เขาช่องปาร์ค เชียงใหม่ ยังมีเมนูที่น่าสนใจอยู่ในร้านอีกเพียบเลยครับ ผมแนะนำว่าอ่านจากรีวิวน่าจะยังไม่ฟินเท่าไร ยังไงก็ลองไปใช้บริการกันเองน่าจะดีกว่าครับ ไม่แน่นะไป ๆ มา ๆ เพื่อน ๆ อาจจะได้ร้านกาแฟประจำเพิ่มขึ้นมาอีกร้านก็เป็นได้ สุดท้ายนี้ก่อนจากกันไปก็ฝากไว้เหมือนเดิมเลยครับ กับการกดไลก์แฟนเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai และตั้งให้เห็นโพสต์ก่อน เท่านี้เพื่อน ๆ ก็จะไม่พลาดเรื่องราวของกินที่ชวนฟินจนน้ำลายไหล และ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทั้งในเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงแล้ว

การเดินทาง

• ใครอยากไปร้าน เขาช่องปาร์ค เชียงใหม่ ก็ไม่ยากเลยครับ จากทางลอดหน้าศาลากลาง ขับตรงไปเรื่อย ๆ ตามถ.เส้นวงแหวนรอบสอง พอลงสะพานข้ามแม่น้ำปิงให้ตรงไปอีก 1 กม. ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ สามารถเลี้ยวเข้าไปจอดรถทางด้านในได้เลย
  
• เวลาเปิด-ปิด :: เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 07:00 - 19:00 น.
  
• เบอร์ติดต่อ :: 065-297-9096