#วงในบอกมา
- Lism เป็นคำแสลง ที่ใช้เป็นความหมายว่าถ้ามาต้องติดใจกับร้าน
- การตกแต่งร้านได้รับแรงบรรดาลใจมาจาก ประสบการณ์ที่ได้ไปเที่ยวตามประเทศต่าง ๆ
- ร้านพิถีพิถันในเรื่องเสียงดนตรีที่ออกมาสู่คนฟัง
คำว่า “เพื่อน” คำสั้น ๆ แต่ให้ความหมายที่ลึกซึ้ง และสร้างปราฏิหาริย์ได้ วันนี้เราได้มีโอกาสรีวิวร้านสุดชิลล์ ย่านเจ็ดยอดอย่างร้าน “Lism cafe” เชียงใหม่ พอเข้าไปก็สัมผัสกับการตกแต่งร้านสไตล์วินเทจอินดัสเทรียล ราวกับอยู่เมืองนอก แต่ความรู้สึกกลับเหมือนว่าเรากำลังไปเที่ยวบ้านเพื่อนอยู่เลย หากใครอยากหาที่เที่ยวกลางคืน แล้วพาเพื่อนมารวมตัว ที่นี่แหละตอบโจทย์อย่างมาก
พี่เทพ และพี่อัพ เจ้าของร้าน เล่าให้เราฟังว่า เป็นเพื่อนสนิทกันและเริ่มก่อตั้งร้านด้วยกัน แรกเริ่มร้านมีโต๊ะนั่งแค่ 7 โต๊ะเท่านั้น พี่เทพ และพี่อัพ อยากให้ร้านเล็ก ๆ นี้ เป็นที่รวมตัวพบปะสังสรรในหมู่เพื่อน หลังจากนั้นก็เกิดการบอกต่อเรื่องร้านไปเรื่อย ๆ จนมีลูกค้ามากขึ้น และต้องขยับขยายร้านมาถึงปัจจุบัน เมื่อนั่งคุยกับพี่ ๆ ไปเพลิน ๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงที่ทำให้เราต้องหยุดฟังแล้วถามพี่เทพ พี่อัพว่า ร้านเปิดแต่เพลงอินดี้ใช่ไหมครับ? พอได้คำตอบถึงได้รู้ว่า ร้าน “Lism cafe” เชียงใหม่ เน้นเปิดเพลงอินดี้ มาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน และวงดนตรีที่เล่นดนตรีขับกล่อมให้เพลิดเพลิน ก็มากประสบการณ์อีกด้วย
นอกบรรยากาศและเสียงเพลงของร้าน “Lism cafe” เชียงใหม่ แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นจุดเด่นตั้งแต่แรกเริ่มคือเมนู “หมูจุ่ม” (120-140 บาท) ต้องขอเล่าก่อนว่า หมูจุ่มร้าน “Lism cafe” เชียงใหม่ เกิดมาจากเพื่อน ๆ ที่นั่งสังสรรในร้าน แล้วเกิดอยากกินอะไรร้อน ๆ จึงได้ลองทำ และพัฒนาสูตรมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ถูกปากเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งพอเราชิม ความดีงามของเมนูนี้คือ น้ำซุปที่ถูกเคี่ยวด้วยข้อกระดูกหมูจนหวานหอม เนื้อจุ่มก็มีหมูหมักและเนื้อหมักสูตรพิเศษ หอมกลิ่นงาชวนหลงใหล จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ด ทำให้เมนูนี้ต้องขอมงลง สมแล้ว Signature ของที่นี่
สำหรับใครที่เป็นขาหมูเลิฟเวอร์ ไม่ควรพลาดกับเมนู “ขาหมูเยอรมัน” (270 บาท) เมนูยอดฮิตที่ใครมาเป็นต้องสั่ง ทางร้านใช้ขาหมูส่วนหลัง ในไปต้มกับใบลิปกับเครื่องเทศ จนเนื้อเปื่อยนุ่ม ได้กลิ่นที่หอมชวนหิว จากนั้นลงไปทอดแบบคุมไฟเพื่อให้ได้หนังที่กรุบกรอบ เนื้อด้านในเปื่อยนุ่มฉ่ำ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้ม 3 รสชาติให้เลือก มีทั้งน้ำจิ้มสามรส, ซอสมะเขือเทศ, ซอสมายองเนส ตัดเลี่ยนกับผักดองที่เสิร์ฟคู่มาบอกว่าแค่นึกถึงน้ำลายก็สอแล้ว
นั่งฟังดนตรีไปเรื่อย ๆ รู้สึกเริ่มคอแห้ง อยากซู้ดน้ำซุปเล้งร้อน ๆ ก็ต้องต่อกับเมนู “เล้งแซ่บ” (120 บาท) เนื้อส่วนกระดูกสันหลังหมู ถูกต้มนานกว่า 4 ชั่วโมงจนเนื้อเปื่อยร่อนออกมาได้ง่าย จัดมาเต็มจนคับถ้วย ราดด้วยน้ำซุปกระดูกหมูร้อน ๆ ปรุงรสจี๊ดจ๊าด ปิดท้ายด้วยกันโรยพริกสดสับหยาบ เพื่อให้ได้รสที่แซ่บถึงเครื่อง
ต่อเนื่องความแซ่บซี้ดให้ถึงใจกับเมนู “กุ้งแช่น้ำปลาร้า” (120 บาท) เนื้อกุ้งชิ้นโต ถูกแช่น้ำโซดาให้เนื้อกุ้งกรอบเด้ง ราดด้วยน้ำปลาร้าปรุงสุกที่จัดเต็มเรื่องรสแซ่บสุดนัวด้วยพริกสดและมะนาว แต่งกลิ่นหอมปิดท้ายด้วยพริกแห้งที่หอมเตะจมูก กินคู่มะระสด เนื้อกรอบไม่ขม ใครได้ลิ้มลองเมนูนี้มีตื่นกันบ้างล่ะ
มาคราวนี้ต้องเอาให้ถึง รับความจี๊ดจ๊าดต่อกับเมนู “ยำแซลมอนจี๊ดจ๊าด” (120 บาท) เนื้อปลาแซลมอนอิมพอร์ตมาจากนอร์เวย์ เนื้อสดหวานหอม สัมผัสนุ่มละมุน นำมาหั่นเต๋า คลุกเคล้าเครื่องยำรสจี๊ดแบบสไตล์ไทยได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเรามาครั้งนี้เต็มอิ่มมาก
นอกจากนี้ก็มีเมนูของกินเล่นสำหรับใครที่อยากหาอะไรกินเล่นระหว่างดื่มเครื่องดื่ม อย่างเมนู “ทอดรวม 5 อย่าง” (200 บาท) เมนูของกินเล่นสุดฮิตประจำร้าน ที่ยกมารวมตัวเป็นเหล่าสามัคคีชุมนุมถึง 5 อย่าง ในจานเดียว มีทั้ง เฟรนช์ฟรายส์, กุ้งสติ๊ก, ไก่คาราเกะ, ชีสบอล และหอมทอด เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้ม 3 สไตล์อย่างน้ำจิ้มไก่, น้ำจิ้มบ๊วย, ซอสมะเขือเทศ ขอบอกว่าเมนูนี้สั่งมากินแล้วฟังดนตรีไปด้วย มันกินเพลินมาก
เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีที่ร้าน "Lism cafe" เชียงใหม่ เสร็จแล้ว หากยังรู้สึกหิว ก็ลองกดถูกใจเพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai ดูสิ เป็นเพจที่รวบรวมร้านอาหารเชียงใหม่มากมาย ให้ได้เลือกกินตามใจชอบเลย มีร้านอาหารใหม่ ๆ อัปเดตให้ได้หิวทุกวัน
การเดินทาง
- จากแยกรินคำมาทางเจ็ดยอด ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนทางโค้งเข้าวัดเจ็ดยอด ติดกับถนนเส้นซุปเปอร์ไฮเวย์
- เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 18.00 - 00.00 น.
- เบอร์ติดต่อ : 063-778-7772