#วงในบอกมา
- ก่อนที่จะมาเป็นเชฟทำเบอร์เกอร์มากฝีมือ เจ้าของร้านทั้งสองเคยทำอาชีพสจ๊วตมาก่อน! ไม่แปลกใจเลยที่ว่าเชฟที่นี่ทำไมถึงหน้าตาดี
- ทางร้านเล่ามาว่า ที่นี่ไม่ได้ขาย fast food แต่เป็น gourmet burger ที่ประณีตตั้งใจทำชิ้นต่อชิ้น อยากนำเสนอรสชาติที่ไม่เหมือนใคร
- สเต๊กเนื้อของทางร้าน เขาเล่าว่าจะใช้เป็นเนื้อออสเตรเลียแบบ grain-fed ซึ่งจะมีลายเนื้อที่สวยกว่าและมันแทรกเยอะกว่า
เพื่อน ๆ เคยพ่ายแพ้ให้กับอะไรไหมคะ? สำหรับ bellyishungry แล้ว สิ่งที่เห็นแล้วพ่ายแพ้ที่สุด คงเป็นภาพของเบอร์เกอร์โฮมเมดไส้ทะลักที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อแพตตี้ชิ้นโต เมื่อกัดเข้าไปจะเจอกับความฉ่ำของเนื้อทะลักออกมา...กี่แคลอรี่ก็ยอม!
พูดถึงเบอร์เกอร์เนี่ย ที่จริงก็ไม่ใช่เมนูที่มีกระบวนการปรุงที่ซับซ้อน ใคร ๆ ก็สามารถทำเบอร์เกอร์ได้ค่ะ แต่เบอร์เกอร์ที่ดี และถูกปากนั้น ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้นะคะ วันนี้ bellyishungry จะพาทุกคนไปรู้จักกับหนึ่งในร้านเบอร์เกอร์ในดวงใจ ที่ร้าน “MadCow Burger” กันค่ะ
พี่ตั้ว หนึ่งในเจ้าของร้านเล่าว่า ที่มาของชื่อร้าน MadCow คืออยากให้มันเป็นเหมือนโรคระบาดตามชื่อ แต่เป็นการระบาดด้วยรสชาติที่ดีอยากบอกต่อ นอกจากนี้ยังแฝงความหมายของความเป็นวัวบ้าระห่ำ ความสนุกเฮฮา และเข้าถึงง่าย ก็ขอประเดิมด้วยเมนู “Madcow” (250 บาท) เนื้อออสเตรเลีย 150 กรัม ที่ทางร้านจะชูรสชาติเนื้อเบอร์เกอร์ด้วยพริกไทยและเกลือ เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติของเนื้อจริง ๆ เมื่อกัดเข้าไปแล้วทั้งชีส เบคอน sautee onion ซอสสูตรพิเศษทางร้านและชิ้นเนื้อ ทุกเลเยอร์ต่างส่งเสริมรสชาติกันได้อย่างลงตัวมาก! เคล็ดลับความฟินอีกอย่างอยู่ที่ ชีสที่ยัดไว้ตรงกลางชิ้นเนื้อกับซอสหมักข้ามคืน ทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้น
เบอร์เกอร์ชั้นเดียวมันจุใจไม่พอ ต้องดับเบิลไปเลย! “Fatcow” (350 บาท) สิริรวมเนื้อทั้งหมด 350 กรัม ฟินคูนสองไปเล้ยยย ตามที่หลายคนรู้ว่าเคล็ดลับการกินเบอร์เกอร์ใหัจุใจคือการกัดทุกชั้นในคำเดียว โดยวิธีการจับคือใช้นิ้วโป้งกับนิ้วก้อยเป็นฐานลองด้านล่าง ส่วนสามนิ้วที่เหลืออยู่ด้านบน กดน้ำหนักลงปลายนิ้วเล็กน้อยให้ชั้นเบอร์เกอร์ไม่ขยับแล้วก็งับไปเลย!
ใครที่ไม่กินเนื้อก็ไม่ต้องน้อยใจกันไป เพราะเบอร์เกอร์หมูและไก่ก็เด็ดไม่แพ้กันจริง ๆ วันนี้ได้ลองเป็นไก่ค่ะ “Chicken Burger” (150 บาท) สะโพกไก่ทั้งชิ้นคัดไซส์ นำไปทอดให้กรอบฟู ชิ้นเลยใหญ่มากกก! ผู้หญิงกินคงจุกได้เลยชิ้นเดียว อ้อ...จุดเด่นของร้านอีกอย่างคือขนมปังบันเบอร์เกอร์นะคะ สามารถเลือกได้ทั้งโฮลวีตและชาร์โคลเลย อยากให้ลองบันชาร์โคลมาก ๆ คือทางร้านทำได้ดีสุด ๆ ไม่มีทรายของชาร์โคลพาวเดอร์หลงเหลืออยู่ แถมได้เทกซ์เจอร์ที่นุ่ม รสออกหวานนิด ๆ ถูกปากคนไทย
นอกจากนี้ยังมีเมนูคอมฟอร์ตฟู้ดที่น่าลองมาก ๆ อย่าง “Mac&Cheese” (150 บาท) ได้รสชาติความเค็มและมันของชีสสามตัว ความครีมมี่ และความอัลเดนเตของเส้น เสิร์ฟคู่กับเบคอนกรอบ คือทุกอย่างมันลงตัวมาก ๆ จนไม่รู้จะติตรงไหนเลยค่ะ
แถมด้วย “Bolognese” (180 บาท) ตัวซอสใช้เนื้อที่ทำเบอร์เกอร์มาทำ ผัดกับเส้นเฟตตูชินีหมึกดำ รสชาติเข้มข้นถึงใจ
ปิดท้ายด้วยไฮไลต์ของวันนี้ “Steak” (699 บาท) เนื้อ Australian grain-fed striploin 300 กรัม ด้วยความที่เป็น grain-fed ทำให้เนื้อมีลายที่สวยมาก และนุ่มมากเช่นกัน! แว๊บแรกที่เห็นราคาแล้วแอบเอามือทาบอกเบา ๆ คือคุณภาพเกินราคาไปเยอะมากจริง ๆ ค่ะ คือไม่เหนียวเลยแม้แต่นิด มีความนุ่มที่ละลายในปาก แทบไม่ต้องเคี้ยว ได้รสชาติเค็ม ๆ กับความหอมมันจากการ์ลิกบัตเตอร์ โอย คือดีงามมากจริง ๆ
การเดินทาง
จบมื้อนี้ไปด้วยความประทับใจอันล้นหลามอีกเช่นเคย คือถ้าได้ลองแล้วอาจเปลี่ยนทัศนคติเป็น เบอร์เกอร์ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดเสมอไปเลยทีเดียว ใครที่อยากรู้พิกัดร้าน ตามมาลองกันได้ที่ ร้าน “MadCow Burger” อยู่สุขุมวิท 21 ซอย 1 ตรงข้ามกับประสานมิตรพลาซ่า หากนำรถยนต์ส่วนตัวมาก็สามารถจอดได้ที่ประสานมิตรพลาซ่าได้เลยค่ะ
มากินเถอะครับ ไหว้แล้ว มันดีจริง ๆ
