#วงในบอกมา
- อาหารในร้านทุกเมนูใช้น้ำมันรำข้าวเพื่อสุขภาพที่ดี
- ดื่มด่ำกับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก
- "Romantic Valentine's Set" (ราคา 1,199++ บาท) คอร์สพิเศษเฉพาะวันวาเลนไทน์วันเดียวเท่านั้น

เพราะวันวาเลนไทน์เป็นหนึ่งในวันพิเศษที่เราจะได้มีโอกาสแสดงความรักแก่คนรู้ใจ ถ้าเราได้ใช้ช่วงเวลานี้ไปกับอาหารดี ๆ สถานที่สวย ๆ พร้อมชมวิวบรรยากาศริมน้ำสุดโรแมนติก ก็คงจะดีไม่น้อย และต้องขอบอกว่าที่ “Mango Tree on the River” นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนและควรค่าแก่การดินเนอร์ในค่ำคืนวันวาเลนไทน์โดยไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

ในส่วนของโซน Outdoor ของร้าน "Mango Tree on the River" ก็ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศวิวแม่น้ำได้ไม่ยาก และไม่ว่าจะเป็นโซน Outdoor หรือ Indoor ก็การันตีได้ว่าคุณจะได้รูปถ่ายยามพระอาทิตย์ตกสวย ๆ กลับไป

เนื่องจากกั้นส่วนด้านในกับด้านนอกด้วยบานกระจก ทำให้ถึงแม้จะนั่งด้านในเราก็ยังมองเห็นวิวแม่น้ำได้รอบ ทั้งวัดอรุณฯ โบสถ์ซางตาครู้ส และวัดกัลยาฯ วิวตรงนี้จึงมีชื่อเรียกว่าสามเหลี่ยมทองคำ

แต่ถ้าจะให้ดี นั่งด้านนอกรับลมเย็น ๆ ชมวิวแม่น้ำแบบพาโนรามา รับแสงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์ และชั้นสามจะเป็นส่วนห้องจัดเลี้ยงที่เขาบอกว่าเป็นไฮไลต์ ด้วยการจัดห้องและวิวที่สวยสะกดตานั้นเหมาะแก่การจัดอีเวนต์เล็ก ๆ อย่างงานหมั้น งานวันเกิด ไม่ว่าจะพาใครมาก็ย่อมได้รับความอิ่มเอมใจกลับไปทั้งนั้น

และอย่างที่บอกว่าที่นี่เหมาะเหลือเกินที่จะใช้เวลาร่วมกับคนรู้ใจในค่ำคืนวันวาเลนไทน์ "Mango Tree on the River" จัด "Romantic Valentine's Set" (ราคา 1,199++ บาท/คน) อันประกอบไปด้วยเหล่าเมนูพิเศษที่จัดทำขึ้นเพื่อค่ำคืนพิเศษคืนเดียวเท่านั้น


เริ่มต้นมื้ออาหารกันด้วยเวลคัมค็อกเทลอย่าง “Couple Martini” สีสวย หน้าตาดี รสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ต่อมาเป็น “เมี่ยงคำ DIY” ที่ห่อมาในแบบไม่ซ้ำใคร ราดด้วยน้ำเมี่ยงคำสูตรพิเศษของทางร้าน

จากนั้น Appetizer ก็จะทยอยกันมา ทั้ง “เปาะเปี๊ยะทอด” ที่ทั้งกรอบทั้งหอม จิ้มน้ำจิ้มหน่อยเพิ่มรสชาติ “ไก่ห่อใบเตย” ไก่เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นสมุนไพรและใบเตย “ทอดมันกุ้ง” ที่กุ้งเป็นชิ้นแถมเนื้อยังเนียน และ “ส้มตำ” รสชาติเผ็ดเปรี้ยวสะใจ

มาถึงเมนู “ต้มข่าในลูกมะพร้าว” พรีเซนเทชั่นแปลกตา นำเสนอความเป็นธรรมชาติผ่านลูกมะพร้าวที่อบให้หอมกรุ่น และสื่อถึงการใช้กะทิคั้นสดในการทำต้มข่า เมนูนี้ใส่เกลือให้ความเค็มแทนน้ำปลา ทำออกมาแบบเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้าน ถูกปากคนไทย



เดินทางสู่เมนคอร์สหรือเมนูหลัก สามารถเลือกได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น “แกงเหลืองปลาแซลมอน” แซลมอนย่างหนังกรอบ ๆ วางบนซอสแกงเหลืองเข้มข้นที่เสิร์ฟพร้อมควีนัวผัดกะเพราและยำถั่วพู เป็นเมนูสไตล์ร่วมสมัย “พะแนงคอหมูย่าง” ทางร้านเลือกใช้คอหมูเนื่องจากให้ความนุ่มที่มากกว่า ทำให้เพลิดเพลินกับเมนูนี้ได้อย่างไม่สะดุด เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้องออร์แกนิก


และเพิ่มเงินอีกเพียง 500 บาท ก็จะสามารถเลือกเมนู “ผัดไทยกุ้งแม่น้ำอยุธยา” กุ้งแม่น้ำสด ๆ จากอยุธยาเคียงอยู่บนผัดไทยห่อไข่เส้นเหนียวนุ่มรสชาติกลมกล่อมไม่ต้องเสียเวลาปรุงเพิ่ม และชอยส์สุดท้ายคือ “ผัดผักรวมใส่ทรัฟเฟิล” ที่ยกระดับผัดผักรวมให้หรูหรายิ่งขึ้นด้วยการใส่เห็ดทรัฟเฟิลเพิ่มความหอม

ส่วนของหวานที่มีในเซตนั้นประกอบด้วย “ข้าวเหนียวมะม่วง” ข้าวเหนียวมูนนุ่มหนึบกับมะม่วงหวาน ๆ ราดด้วยน้ำกะทิคั้นสดตัดรสชาติ ทางร้านจะเสิร์ฟกลิ่นมะม่วงให้ราดลงบนดรายไอซ์ด้วยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และ “ขนมไทย” ที่รวมมาหลากหลายชนิดเสิร์ฟในตะกร้า อย่าลืมสั่งชาหรือกาแฟในเซต เป็นอันปิดดินเนอร์ในคืนวันวาเลนไทน์ได้อย่างยอดเยี่ยม


จาก "Romantic Valentine's Set" ใครที่มองหาเมนูดี ๆ เพื่อเพิ่มความเพอร์เฟกต์ให้กับมื้อนี้ เชิญพบกับ “ปลากะพงทอดราดน้ำปลา” (ราคา 350 บาท) ที่ตัดมาเป็นชิ้นให้กินง่าย ปลากะพงฟูกรอบราดด้วยซอสน้ำปลาแท้เข้มข้น หรือจะเป็น “ยำส้มโอกุ้งสด” (ราคา 190 บาท) เมนูหากินยากที่นำส้มโอมาคลุกกับมะพร้าวคั่ว หอมแดง ต้นหอมซอย แครอท และปรุงรสมาเสิร์ฟพร้อมกุ้งตัวโต เป็นเมนูที่คืนความสดชื่นได้ดีทีเดียว

และอีกเมนูที่ไม่เห็นในร้านไหนมาก่อนแต่รสชาติดีอย่างเหลือเชื่อ “ผัดฝักกระเจี๊ยบ” (ราคา 95 บาท) ที่นำฝักกระเจี๊ยบมาผัดกับใบกะเพรา ให้อารมณ์เหมือนผัดผักบุ้งไฟแดงแต่ได้ความกรุบและความหนุบหนับจากฝักกระเจี๊ยบ กลายเป็นอีกประสบการณ์ใหม่ที่อยากให้ลองกัน

ใครว่าเมนูวีแกนเขาจืดชืด ต้องมาเจอเมนู “ผัดเม็ดมะม่วงเต้าหู้” (ราคา 220 บาท) ซึ่งก็คือผัดเปรี้ยวหวานที่นำเม็ดมะม่วงหิมพานต์และเต้าหู้ทอดลงไปผัดกับพริกหยวก หอมใหญ่ พริกแห้ง และต้นหอมตามสไตล์ของทางร้าน ให้รสชาติเปรี้ยวหวานถูกใจ แถมแทรกเผ็ดเล็ก ๆ ให้พอมีสีสันด้วย

ยังมีเมนูอาหารไทยร่วมสมัยอีกมากมายที่ไม่ได้หากินง่าย ๆ จากที่ไหน ต้องบอกเลยว่าวัตถุดิบของที่นี่เขาสดใหม่ทุกวัน อาหารหน้าตาดีทุกเมนู วิวริมน้ำก็สวยหลักล้าน รสชาติตั้งต้นอาจจัดจ้านเล็กน้อย หากไม่กินเผ็ดสามารถรีเควสต์กับทางร้านได้ ใครอยากดื่มด่ำบรรยากาศดี ๆ ริมแม่น้ำแบบนี้ แนะนำให้โทรมาจองล่วงหน้านะคะ ลูกค้าช่วงเย็นค่อนข้างแน่นร้านทีเดียว หรือมาตอนกลางวันก็ได้ มาเวลาไหนก็ย่อมได้รูปสวยถูกใจกลับไปแน่นอน
การเดินทาง
ร้าน “Mango Tree on the River” ตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้ายอดพิมานรีเวอร์วอล์ก ปากคลองตลาด อาคาร D5 สามารถเดินทางโดยลง MRT สถานีสนามไชยแล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที หรือนั่งเรือมาลงที่ท่ายอดพิมานหรือราชินีก็ได้เช่นกันค่ะ