ถ้าใครเบื่อและรู้สึกอึดอัด แย่งชิง เบียดเสียด กับผู้คนจำนวนมากในใจกลางกรุงแล้วละก็ ขอเชิญหันหน้าออกมา แล้วมุ่งตรงออกมาที่ Monopoly Park ในทันที เพียงแค่เดินทางมายังถนนพระราม 3 ก่อนจะขึ้นวงแหวนอุตสาหกรรม คุณก็จะพบกับเอ็กซ์พีเรียนซ์มอลล์ที่รวบร้านอาหารอร่อยๆ เอาไว้มากมาย ซึ่งการตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ถือว่าเป็นโลเคชั่นที่กำลังดี ไม่วุ่นวายและไม่ห่างไกลในตัวเมืองมากนัก ด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย โล่งโปร่ง และเล่นเส้นสายโค้งมนที่ตัวอาคาร สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับผู้ที่มาเยือน ส่วนร้านที่อยากแนะนำให้รู้จักในคราวนี้ มีอยู่ 3 ร้าน ด้วยกัน เป็นร้านที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะมีทั้งร้านปิ้งย่าง ร้านอาหารไทย ร้านอาหารอิตาลี Hajime Robot Restaurant อร่อยคุ้มค่า บริการฉับไว ด้วยการใช้หุ่นยนต์

เจ้าหุ่นยนต์พร้อมเสิร์ฟอาหาร

ที่นั่งเป็นสัดส่วน ดูกว้างขวางด้วยกระจกใสด้านข้างรับรองได้เลยว่าร้านปิ้งย่างร้านนี้ ไม่ใช่ร้านปิ้งย่างแบบทั่วไปแน่นอน เพราะมีเซอร์ไพรส์ให้ประหลาดใจกับการใช้หุ่นยนต์มาคอยบริการลูกค้า ซึ่งไม่เคยมีร้านไหนทำกันมาก่อน โดยความแปลกใหม่นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เจ้าของร้านเคยเดินทางไปชมนิทรรศการเกี่ยวกับหุ่นยนต์ และ เกิดถูกอกถูกใจกับเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ จนสุดท้ายก็ตกลงปลงใจนำเจ้าหุ่นยนต์นี้กลับมายังเมืองไทยด้วย ซึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนของเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้คือ ความว่องไว ความกระฉับกระเฉง และไม่มีข้อผิดพลาดระหว่างการให้บริการนอกจากนี้ยังวางระบบการสั่งออร์เดอร์ด้วยจอคอมพิวเตอร์ไว้ที่โต๊ะอาหาร ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งอาหารเองได้ ไม่ต้องรอเรียกพนักงาน จะทวนเมนู เช็คราคา หรือตามเมนูที่ขาด ลูกค้าก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองทั้งหมด......แต่ความน่าสนใจของร้าน Hajime Robot Restaurant ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องของคุณภาพเนื้อที่ใช้ที่สั่งตรงจากนอกอีกด้วย ที่เป็นสิ่งที่ทำให้ Hajime Robot Restaurant เป็นร้านที่น่าสนใจ

สันคอหมูดำเนื้อนุ่ม หนา เห็นสีคล้ำๆ แต่ฉ่ำไปด้วยความหวาน

เนื้อเทนเดอร์ลายสวย ชิ้นพอดีคำ ถึงบางกว่าแต่ว่านุ่มไม่แพ้กัน

เนื้อสเปเชี่ยล ชิ้นค่อนข้างหนา แต่ว่าไม่เหนียวเลยซักนิด เนื้อจะหอม อร่อยเหมือนทานเครื่องใน

เนื้อแกะชั้นดี บางคนไม่ทานแกะเพราะจะมีกลิ่น แต่สำหรับชิ้นเหล่านี้ไม่คาวเลยซักนิด

แซลมอนนอร์เวย์ ยิ่งย่างยิ่งหอม

กุ้งตัวใหญ่ไซส์พิเศษ เนื้อแน่น หวาน



สิ่งที่อยากแนะนำอีกหลายอย่างเมื่อมาและต้องทานของร้านนี้ ข้าวปั้นญี่ปุ่นมีหน้าให้เลือกเยอะ ไม่แพ้เนื้อเช่นกัน หรืออยากทานข้าวกระเทียมที่นี่ก็มี ด้วยข้าวญี่ปุ่นเม็ดใหญ่เต็มคำ จะเป็นยำสาหร่ายก็ดีหรือจะเป็นกิมจิก็อร่อย เนื้อที่ว่าที่บอกมาทั้งหมดนี้ รวมอยู่ในราคาเดียว ถือว่าอร่อยคุ้มค่า บริการแปลกใหม่ ไวกระฉับกระเฉง และสั่งอาหารได้ด้วยตัวเอง และนอกจากบริการปิ้งย่างหรือ Yakiniku แล้วทางร้านยังมี Shabu โดยน้ำซุปสูตรต้นตำหรับของร้านให้ลูกค้าเลือกได้ตามความชอบภรณี ชื่อนี้อร่อยไม่เคยเปลี่ยน


ร้านอาหารที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านนานแค่ไหน ร้านภรณีก็ยังคงความอร่อยเอาไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยบ้าง แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะคงซึ่งกลิ่นอายบางอย่างของร้านเอาไว้ เช่น การตกแต่งโดยรวม และบรรยากาศรอบๆ แม้จะดูสดใหม่เมื่อเทียบกับร้านเดิมที่สุขุมวิท แต่ก็ยังคงเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ อย่างพวกโต๊ะเก่าๆ โคมไฟ ป้าย รูปภาพต่างๆ ที่นำมาใช้ยังมีกลิ่นอายของบรรยากาศโบราณคลาสสิคอยู่ แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลย คือ เมนูอาหาร ร้านดั้งเดิมมีอะไร ร้านสาขาใหม่ก็มีแบบนั้นอาหารจานหลัก ที่กินเอาอิ่ม ก็มีข้าวผัดหมูเค็ม หรือถ้าชอบกินเนื้อเค็มก็มีเหมือนกัน แต่วันนี้ขอเป็นหมูก็แล้วกัน ตัวข้าวผัด ผัดมากับเนื้อหมูเค็มทอดกรอบแบบกรอบสุดๆ ซึ่งยากมากที่จะทอดได้กรอบขนาดนี้ เพราะส่วนใหญ่มักจะไหม้ซะก่อน ซึ่งนอกจากจะมีหมูเค็มกรอบๆ ผัดแทรกอยู่ในข้าวแล้ว ยังมีหมูเค็มโรยมารอบๆ จานด้วย ซึ่งก็อยากจะยืนยันอีกครั้งว่าหมูทอดจนกรอบจริงๆ เพราะเราลองทิ้งไว้สักพักจนข้าวหายร้อน แล้วกลับไปทานหมูอีกรอบ ปรากฏว่าก็ยังคงกรอบอยู่ แบบนี้นี่เองถึงได้เป็นจานดารา ที่ใครมาก็ควรจะสั่ง

ข้าวผัดหมูเค็ม ข้าวเรียงตัวสวย หมูเค็มกรอบอร่อยสิ่งที่มาแล้วต้องสั่งมากินเล่นรองท้อง คือทาโก้รสกลมกล่อม เข้ากันได้ทุกอย่างทั้งผัก ทั้งหมู ทั้งแป้ง เป็นทาโก้ที่ดัดแปลงให้เหมาะกับลิ้นคนไทย หรือถ้าจะชอบอาหารประภทยำๆ ก็แนะนำพล่าแฮม ที่ใช้เนื้อสันนอกหมักด้วยกรรมวิธีพิเศษสูตรเฉพาะของร้าน โดยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 วันในการหมัก และรมควันไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง จนได้เนื้อที่หอม นุ่ม แล้วนำมาพล่าแซ่บๆ เป็นอาหารที่จะสั่งมากินเล่นก็ได้ หรือจะสั่งมากินเป็นอาหารจานหลักเลยก็ได้สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะจานนี้ก็มีผักเยอะใช่ย่อย

ทาโก้รสชาติเข้มเข้น

น้ำสมุนไพรไทยเย็นชื่นใจหรือถ้าชอบข้าวผัดที่รสชาติเข้มข้นขึ้นมาอีกหน่อย ลองข้าวผัดพริกขิงกากหมู ที่กินคู่กับปลาสลิด และไข่เค็ม ข้าวผัดรสชาติถึงเครื่ิงพริกแกงมากๆ หวานๆ เค็มๆ เผ็ดนิดๆ หอมกลิ่นใบมะกรูดที่โรยมาด้านบน ถึงพริกถึงขิงจริงๆ และข้าวยังเป็นเม็ดร่วนซุยดีไม่มีแฉะ

ข้าวผัดพริกขิงกากหมู กากหมูชิ้นใหญ่สะใจ เข้มข้นถึงรสเครื่องแกง

จานพิเศษ พล่าแฮม แซ่บอร่อยจนต้องขออีกจานส่วนคนชอบของทอด ไม่ควรพลาดไก่ทอดภรณี เที่ทอดมาได้กรอบนอกนุ่มในมากๆ โรยกระเทียมเจียวสีเหลืองทองไว้ด้านบน หอมฉุย และยิ่งทำให้กินเพลินมากขึ้น

ไก่ทอดภรณี หนังกรอบเนื้อนุ่ม หอมกลิ่นกระเทียมและตบท้ายด้วยการซดซุปบุยยาเบสร้อนๆ ที่ได้รับคำชมจากต่างชาติถึงขนาดถูกนำไปเขียนลงหนังสือในต่างประเทศกันเลยทีเดียว ซุปบุยยาเบสของร้านภรณี มีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ด้วยเครื่องเทศฝรั่งหอมๆ แต่แม้จะเป็นซุปสไตล์ฝรั่ง ก็ยังทำรสชาติออกมาได้ถูกปากคนไทย และยังถูกใจชาวต่างชาติอีกด้วย และอย่าลืมจิบน้ำสมุนไพรไทยเย็นๆ หอม ชื่นใจระหว่างมื้ออาหาร จะยิ่งช่วยให้อาหาอร่อยมากยิ่งขึ้น

ซุปบุยยาเบสร้อนๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศCiao อร่อยง่ายๆ แต่ได้คุณภาพส่วนใครที่ชอบอาหารฝรั่งที่มีกลิ่นนมเนย มีชีส มีกลิ่นเครื่องเทศฝรั่งหอมๆ ต้องไม่พลาดร้าน Ciao นี้ เพราะเป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ จากฝีมือสุดยอดเชฟที่ส่งตรงมาจากแดนมักกะโรนี ทำให้รสชาติของอาหารไม่ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นอิตาเลียนแท้ๆ


ว่าแล้วก็เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่างขนมปังอบ ทำขึ้นเองสดใหม่ทุกวัน อย่างขนมปังกระเทียม ถ้ามีออร์เดอร์ถึงจะเริ่มทำ ไม่มีการทำเก็บไว้ก่อน แล้วเมื่อมีลูกค้าสั่งจึงนำไปทำให้อุ่นอีกรอบให้เสียอารมณ์แน่นอน นอกจะทำสดใหม่แล้ว ยังมีขนมปังให้เลือกหลากหลายประเภท กินคู่กับท้อปปิ้งต่างๆ เช่น ซัลซ่ามะเขือเทศ

ขนมปังสดใหม่กับท้อปปิ้งหลากชนิดจานเรียกน้ำย่อยจานต่อมา เป็นซีฟู้ดรวม และผักรวมชุบแป้งทอด ที่ตามปกติเราจะคุ้นเคยกันกับคาลามารี หรือปลาหมึกทอด อาหารเรียกน้ำย่อยยอดนิยมของอิตาเลียน ทอดมาแป้งบางๆ กรอบนิดๆ แต่ยังคงรสชาติแท้ๆ ของอาหารทะเลเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม จิ้มกับมายองเนสจะยิ่งช่วยเสริมรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

ซีฟู้ดและผักรวมชุบแป้งทอดและถ้าจะไม่พูดถึงอาหารสองจานนี้ ก็คงเหมือนมาไม่ถึงร้านอาหารอิตาเลียน สองจานที่พูดถึงนี้ก็คือ พาสต้า และ พิซซ่านั่นเองพาสต้าซีฟู้ด ผัดซีฟู้ดหลากชนิด ทั้งปลามึก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยลาย และกุ้ง ผัดคลุกเคล้ากับเนยกระเทียมหอมๆ และเพสโต้ซอส ที่เมื่อตักพาสต้าเข้าปาก สิ่งที่แรกจะรู้สึกได้ คือกลิ่นของโหระพาที่ลอยเด่นเตะจมูกขึ้นมาทันที ซึ่งช่วยให้การรับรู้รสชาติของสปาเก็ตตี้จานนี้ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น ส่วนเส้นที่ใช้ทำพาสต้า เชฟบอกว่ามีให้เลือกสองแบบ คือ เส้นที่สั่งตรงจากอิตาลี และเส้นที่ทำขึ้นมาเอง โดยยังใช้ส่วนผสมจากอิตาลีเช่นเดิม ใครชอบแบบนั้นก็เลือกแบบนั้น

พาสต้าซีฟู้ดส่วนจานหลักอีกสองจานที่โดดเด่นไม่แพ้กัน คือ ปลาหิมะทอด ค่อนข้างจะเป็นจานเบาๆ เพราะปลากินแล้วไม่อ้วน เหมาะกับสาวๆ ที่ ระวังรักษาหุ่น และไม่อยากกินอาหารที่อุดมไปด้วยนมเนย และแป้ง ก็ลองเลี่ยงมาสั่งจานนี้ดูได้ ประกอบกับซัลซ่ามะเขือเทศ และสปิแนชที่ราดมาบนชิ้นปลา ทำให้เมนูนี้เป็นเมนูสุขภาพไปได้ง่ายๆ และเพิ่มความหนักท้องนิดๆ ด้วยมันบดร้อนๆ หอมกรุ่นอยู่ในปาก เป็นจานที่อิ่มเบาๆ ที่สุด และรสชาตินุ่มนวลที่สุดแล้ว

ปลาหิมะทอดกับมันบดส่วนเมนูที่แสดงถึงความเป็นอิตาเลียนแท้ คือ พิซซ่า ซึ่งเมนูที่ขายดีมากของร้านนี้ เป็นเมนูที่เกิดจากความต้องการของลูกค้าคนไทย ที่ส่วนใหญ่มักจะชอบกินแซลมอนรมควันกันมาก เชฟจึงนำไปทำเป็นอีกหนึ่งหน้าของพิซซ่า มีชื่อว่า พิซซ่าหน้าแซลมอนรมควัน ซึ่งเห็นแป้งบางๆ แบบนี้ แต่พอกินเข้าไปกลับรู้สึกว่านุ่มมาก ความนุ่มที่ว่าเกิดจากการใช้แป้งของแท้จากอิตาลี และการนวดแป้งของเชฟนั่นเอง

พิซซ่าหน้าซัลมอนรมควัน

เชฟกำลังแต่งหน้าพิซซ่าก่อนน้ำเข้าเตาอบแต่ถ้าอยากลองของที่หนักท้องขึ้นมาหน่อย ก็ต้องสั่งแกะย่าง ราดซอสพริกไทยดำมาหอมๆ เจือด้วยเพสโต้ซอส แนมด้วยผักย่าง อร่อยหนักและรสชาติจัดเต็มจริงๆ

แกะย่างเนื้อนุ่มปิดท้ายกันด้วยของหวานอย่าง ทีรามิสุ ที่เป็นของหวานขึ้นชื่อของอิตาลี ซึ่งพอตักคำแรกขึ้นมา ก็หอมกลิ่นกาแฟขึ้นมาทันทีเลย ยิ่งพอสัมผัสรสชาติและความนุ่มเนียนของมาสคาโปเน่ชีสที่ผสมลงไปในเนื้อครีมด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ของหวานถ้วยเล็กๆ นี้ ช่วยเติมเต็มรสชาติให้กับอาหารมื้อนี้ได้เป็นอย่างดีหรือถ้าอยากกินอะไรเย็นๆ ก็ต้องลองสั่งไอศกรีมช็อคโกแลต รสเข้มเต็มๆ คำ กับไอศกรีมสตรอเบอร์รี่กล้วยหอม ที่เป็นการผสมผสานกันของรสชาติหวานๆ จากกล้วย และรสชาติเปรี้ยวอมหวานจากสตรอเบอร์รี่ได้อย่างลงตัว

ทีรามิสุนุ่มละมุน

ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่กล้วยหอม และไอศกรีมช็อกโกแลต

อาหารส่วนใหญ่ของร้าน Ciao เน้นความเรียบง่าย ปรุงรสชาติง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมาก เป็นรสชาติเบสิคของอาหารอิตาลี เพราะอยากให้ลูกค้าได้รับรู้รสชาติของความเป้นอิตาเลียนแท้นั่นเอง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเมนูง่ายๆ แต่ก็ได้คุณภาพ เพราะของที่ใช้ล้วนสั่งมาจากแดนไกลทั้งนั้น และทุกเมนูในวันนี้ แม้จะมีส่วนส่วนผสมหลักเพียงไม่กี่อย่าง และเป็นเมนูที่มีรสชาติแตกต่างกัน แต่เมื่อกินเข้าไปแล้ว ก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่เชื่อมถึงกันอยู่ในทุกเมนูที่กินเข้าไป ซึ่งคงเป็นกลิ่นอายของความเป็นอิตาลีอย่างแน่นอน แต่ถ้ากินอาหารแล้วอยากได้เครื่ิองดื่มดีๆ มาเป็นตัวช่วยเสริมรสชาติอาหาร ใน Ciao ก็มี Wine Boutique Shop (ไวน์ บูทีค ช็อป) ที่มีไวน์นานาชาติ (ไวน์นำเข้าจาก อิตาลี่, ฝรั่งเศส, ออสเตเลี่ยน, ชิลีฯลฯ) ให้เลือกสรร ไวน์ของที่นี่เป็นไวน์คุณภาพดี แต่ขายในระดับราคาที่ไม่แพง และสามารถซื้อเพื่อนำกลับได้อีกด้วย



บรรยากาศของทั้ง 3 ร้านช่างต่างกันมากเหลือเกิน ที่แรกให้ความรู้สึกแดนอาทิตย์อุทัย ปิ้งย่างไปแบบญี่ปุ่นพร้อมหุ่นยนต์นักรบซามูไร และก็มาเปลี่ยนบรรยากาศแบบไทยประยุกษ์ กับร้านอาหารขึ้นชื่อ ที่มีประวัติยาวนาน แต่ถึงเวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่รสชาตินั้นยังคงไว้ดังเดิม ต่อด้วยอาหารอิตาเลี่ยนที่นำเสนอรสชาติแท้ๆ แบบดั้งเดิมของอาหารอิตาเลียน เคล้าด้วยไวน์คุณภาพดี และสังสรรค์กับหมู่เพื่อนได้ในราคาที่สบายกระเป๋าMonopoly Park