เปิดประสบการณ์! อาหารไทยต้นตำรับ บรรยากาศเยี่ยมย่านเมืองเก่าภูเก็ต

วันนี้ทีมงานวงในพามาเดินกันที่ถนน พังงา ถนนสายวัฒนธรรมย่านเมืองเก่า เป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งแรกของเมืองภูเก็ต คือ โรงแรม เดอะ เมมโมรี แอท ออนออน ที่เปิดให้บริการมายาวนานเกือบ 90 ปี ซึ่งร้านอาหาร “Osha” เป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่ง ระดับเวิลด์คลาสจากกรุงเทพ ที่มีประสบการณ์กว่า 19 ปี ได้มาขยายสาขามาที่ภูเก็ต มาเปิดข้างโรงแรมออนออนให้คนภูเก็ตและชาวต่างชาติได้ลิ้มชิมรสชาติกันแบบใกล้ๆ แล้วค่ะ

บรรยากาศในร้านภายในร้านดูสบายตา มีการจัดตกแต่งร้านสวยงามด้วยเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของตกแต่งต่างๆ ที่สะท้อนวัฒนธรรมแบบเพอรานากัน แถมที่นี่มีให้เลือกนั่งทั้งในห้องแอร์ และที่นั่งสำหรับสูดอากาศธรรมชาติ ตกแต่งสวยงามเช่นกันเลยค่ะ

บรรยากาศภายในร้าน Osha — บรรยากาศภายในร้าน "Osha"

บรรยากาศนอกร้าน "Osha" — บรรยากาศนอกห้องแอร์ นั่งสบาย มีบ่อน้ำที่แสงสามารถส่องเข้ามาได้ด้วย

สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ “Osha” ไทยเรสเตอรองท์ แอนด์ บาร์ สาขา เดอะ เมมโมรี แอท ออนออน ภูเก็ตโอลด์ทาวน์ เป็นอาหารไทยรสต้นตำรับในสไตล์โมเดิร์น มีทั้งอาหารไทย อาหารพื้นเมืองภูเก็ต และอาหารยอนย่า หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาหารเพอรานากัน เห็นบรรยากาศดูดีแบบนี้ แต่ราคาอาหารที่นี่ไม่แพงอย่างที่คิดนะคะ จะมีเมนูอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

เริ่มต้นด้วยเมนูอาหารพื้นเมืองภูเก็ต “น้ำพริกภูเก็ต” ราคา 190 บาท ที่ภูเก็ตเรียกกันว่า น้ำชุบหยำ เป็นน้ำพริกที่ไม่ใช้ครกตำแบบน้ำพริกปกติทั่วไป แต่เป็นการนำเครื่องน้ำพริกมาขยำให้เข้ากันด้วยมือ มีทั้งกะปิ น้ำมะนาว หอมแดง พริก และเนื้อกุ้ง รสชาติครบรส มีความแซ่บเบาๆ เสิร์ฟมาพร้อมผักเคียงต่างๆ ทั้งผักสด และผักลวก

“หมูฮ้อง” ราคา 350 บาท เมนูยอดฮิต อาหารพื้นเมืองของคนภูเก็ต เนื้อหมูสามชั้นชิ้นโตๆ ตุ๋นกับซีอิ๊วดำสูตรพิเศษของทางร้าน ใช้เวลาตุ๋นนานจนได้ออกมาเป็น หมูฮ้องเนื้อหมูสุดนุ่ม เด้งดึ่งแทบละลายในปาก รสชาติก็กลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศ

อีกเมนูที่เป็นอาหารพื้นเมืองของภูเก็ต “ฮูแช้” ราคา 220 บาท เป็นสลัดผักแบบคนภูเก็ต มีผักกาด ผักบุ้ง ถั่วงอก เต้าหู้ แตงกวา และไข่ต้ม เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ทอดกรอบๆ ราดด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของโอชา ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด แต่จานนี้จะพิเศษกว่าฮูแช้ธรรมดาตรงที่มีซีฟู้ด และถูกตกแต่งมาในรูปแบบใหม่ สีสันสวยงาม น่าทานมากๆ เลยค่ะ ก่อนทานก็ต้องคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนนะคะ

มาถึงเมนูสุดเก๋ไก๋กันบ้างนะคะ **“ต้มยำกุ้ง”** ราคา 390 บาท มีวิธีเสิร์ฟด้วยเครื่องไซฟ่อนที่ใช้สำหรับชงกาแฟ แต่เปลี่ยนมาเป็นการเสิร์ฟต้มยำเก๋มากเลยค่ะ เชฟจะใส่น้ำซุปมันกุ้งแล้วเบิร์นโถล่าง ให้น้ำดันขึ้นมาด้านบน มาเจอกับเครื่องต้มยำ ทำให้ได้ทั้งรสชาติ และกลิ่นที่เป็นต้มยำสุดๆ มาพร้อมกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ และเห็ดต่างๆ

ถัดมากับเมนูสุดแซ่บ “กุ้งแช่น้ำปลา” ราคา 380 บาท กุ้งสดใหม่ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสชิลลี่สีเขียวรสเผ็ด รสชาติเหมือนกับน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ แต่เป็นแบบชอร์เบตเย็นๆ เนื้อเนียน กลิ่นหอมจากพริกขี้หนู ผักชี กระเทียม และน้ำมะนาวสด วางบนแตงกวาและไช้เท้าแดงฝานเป็นชิ้นบางๆ วางเรียงกันเป็นวงกลมสวยงาม ตักกุ้งพร้อมซอสชิลลี่ และแตงกวาฝานบางทานไป รู้สึกสดชื่นมากๆ กุ้งสด ซอสแซ่บ ลงตัวมาก

พลาดไม่ได้กับเมนู “มัสมั่นแกะ” ราคา 490 บาท ขาแกะนำเข้าจากนิวซีแลนด์ นำมาปรุงเป็นมัสมั่น กลายเป็นเมนูสุดเจ๋ง ที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมง กว่าจะได้ออกมาเป็นมัสมั่นขาแกะสุดนุ่ม รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศต่างๆ และที่เด็ดคือ เสิร์ฟมาพร้อมก้านอบเชยจุดไฟ จะมีผงถ่านของอบเชยที่ไหม้แล้ว กลายเป็นถ่านคาร์บอน เชฟบอกว่า “ถ่านคาร์บอน ที่ได้จากการไหม้ของอบเชย สามารถทานได้ แถมยังมีประโยชน์ในเรื่องการล้างพิษอีกด้วย” ได้ยินแบบนี้แล้ว ก็ตักทานคำใหญ่ๆ เลยล่ะ

ปิดท้ายด้วยเมนูสุดเซอร์ไพรส์ "กุ้งผัดซอสซัมบัล" ราคา 650 บาท กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ คัดไซส์พิเศษ ผัดกับซอสซัลบัลเข้มข้น ด้วยตัววัตถุดิบ และเครื่องปรุงต่างๆ มีทั้งพริกแดง น้ำตาลปี๊บ มะนาวสด เกลือ และกะปิคั่ว ทำให้ได้รสชาติคล้ายๆ น้ำพริกกะปิ แต่มีความพิเศษกว่าตรงที่ผัดด้วยผักบุ้ง และกระเจี๊ยบเขียว ปิดท้ายด้วยโฟมมะกรูด ดูดีเก๋ไก๋มากๆ