#วงในบอกมา
- เนื้อที่ใช้เป็นเนื้อโคขุนพันธุ์ไทยผสมจากหลายฟาร์มทั่วประเทศไทย
- เนื้อแต่ละส่วน จะถูกคัด เลาะ และตัดส่วนที่เหนียวออกก่อน จึงเหลือเฉพาะเนื้อนุ่มเน้น ๆ
- ชื่อร้านมาจากคุณพ่อของเจ้าของร้านเป็นคนชอบกินเนื้อ และเป็นผู้คัดสรรเนื้อคุณภาพที่นำมาใช้ในร้าน

นึกถึงตะแกรงบนเตาถ่านร้อน ๆ และเสียงซู่ ๆ ตอนวางเนื้อสไลซ์ความหนากำลังดีลงไป แค่คิดก็มีความสุขแล้วใช่มั้ยคะ สิ่งเล็ก ๆ แบบนี้แหละที่มักจะสร้างรอยยิ่มกว้าง ๆ ให้กับเราในวันเหนื่อยล้าได้เสมอ Wongnai เชียงใหม่ จึงขอพาคนรักเนื้อ ไปตามหาช่วงเวลาดี ๆ ที่เรารัก กับร้านปิ้งย่างเชียงใหม่ น้องใหม่สไตล์ญี่ปุ่น ที่คัดสรรเนื้อคุณภาพดีจากแหล่งเพาะเลี้ยงคุณภาพทั่วไทย มาให้ได้ลิ้มรสในราคาย่อมเยา ที่ ร้าน Papa Yakiniku パパの焼肉 เชียงใหม่ ซึ่งที่มาของชื่อร้านก็มาจากการที่คุณพ่อของเจ้าของร้านเป็นคนชอบกินเนื้อ จึงตระเวนหาเนื้อคุณภาพดี เหมือนเป็นร้านปิ้งย่างของคุณพ่อผู้เลือกสรรแต่สิ่งดี ๆ มาให้ลูก ๆ ได้กิน

ร้าน Papa Yakiniku パパの焼肉 เชียงใหม่ เป็นร้านขนาดกะทัดรัด มีขนาดประมาณ 10 โต๊ะ มีสองโซนคือโซนห้องแอร์ในร้าน และโซนด้านนอก ส่วนเตาปิ้งย่างจะเป็นแบบเตาถ่านทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นร้านน้องใหม่เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน แต่ก็ได้รับการตอบรับดีจนต้องจองคิวล่วงหน้าเชียวละ สำหรับพิกัดร้านก็หาไม่ยากเลยค่ะ ตั้งอยู่ในโครงการนิ่มพลาซ่า ถนนรัตนโกสินทร์ ในโครงการมีที่จอดรถสะดวกสบาย

เมนูพระเอกของร้านก็ต้องยกให้เนื้อเน้น ๆ เพราะได้เลือกมาจากแหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีทั่วไทย และด้วยความชอบกินเนื้อเป็นทุนเดิม จึงเข้าใจว่าคนกินเนื้อชอบอะไร เมนูเนื้อของที่นี่จึงคัดเฉพาะเนื้อส่วนที่ไม่เหนียวเสิร์ฟ ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อก็มีหมู และซีฟู้ด เป็นตัวเลือก อ้อ ที่นี่ไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์นะ แต่ราคาก็น่าคบหาเชียวละ ราคาเริ่มต้นสำหรับเนื้ออยู่ที่ 79 บาท ส่วนหมู และซีฟู้ด เริ่มต้น 59 บาท เท่านั้น ทุกจานจะราดซอสสูตรเฉพาะของทางร้านมาแล้ว สามารถกินได้แบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม หรือถ้าอยากเพิ่มรสชาติทางร้านก็มีน้ำจิ้มมาให้สามแบบ คือ น้ำจิ้มสามรสจัดจ้านแบบไทย ๆ ทาเระ และพอนสึ น้ำจิ้มสองรสชาติสไตล์ญี่ปุ่น

เตาพร้อมแล้วก็ขอเริ่มต้นกันแบบนุ่มลิ้นก่อนเลย ที่ร้านนี้เราสามารถฟินกับเนื้อวากิวได้ในราคาจานละไม่ถึง 200 บาท ซึ่งมีให้เลือกทั้ง “สันคอวากิว” “คารุบิวากิว” และ “เนื้อใบพายวากิว” ลายสวย ๆ แทรกมันงาม ๆ คัดเฉพาะส่วนที่นุ่มมาเสิร์ฟ สไลซ์ความหนากำลังดี ทั้งสามอย่างนี้ ราคาจานละ 198 บาท วิธีการปิ้งให้ได้รสชาติดีที่สุดก็แค่วางลงบนเตาร้อน ๆ แล้วพลิกครั้งเดียวทิ้งไว้อีก 2 - 3 วินาที ให้เนื้อยังคงความนุ่มฉ่ำเอาไว้



ราคาเบาลงมาอีกนิดก็จะเป็นเนื้อพรีเมียม “เนื้อฮารามิ” (ราคา 89 บาท) เนื้อส่วนท้อง นุ่ม และมันน้อย สำหรับคนที่ไม่ชอบความเลี่ยน “เนื้อคารุบิ” (ราคา 99 บาท) เนื้อยอดฮิตสำหรับการปิ้งย่าง ที่มีทั้งกล้ามเนื้อและไขมัน จึงเป็นเทกซ์เจอร์ที่คนรักปิ้งย่างติดอกติดใจ

ต่อด้วยเนื้อโคขุนในราคาไม่เกิน 100 บาท คัดคุณภาพมาเน้น ๆ ทั้ง “เสือร้องไห้” (ราคา 79 บาท) “ริบอาย” (ราคา 89 บาท) “ใบพาย” (ราคา 98 บาท) และทีเด็ดห้ามพลาด “ลิ้นวัว” (ราคา 89 บาท) ลิ้น ไม่เหนียว กรุบกรอบ เพราะร้านตัดส่วนที่เหนียวออกจนหมด การเสิร์ฟจะสไลซ์มาบางพอเหมาะกับการย่าง โรยเกลือ และพริกไทยมาให้แล้ว พอย่างจนได้ที่จึงบีบเลมอนลงไปนิดหน่อย แค่นี้ก็พร้อมกินแบบฟิน ๆ เลยละ แต่ถ้าไม่อยากสั่งแยกก็มี “ชุดรวมเนื้อ” (ราคา 198 บาท) รวมมาให้ได้ชิมหลายอย่างในจานเดียว



ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อ ทางร้านก็มีเมนูอื่นทั้งหมู และซีฟู้ด ซึ่งก็คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีมาเน้น ๆ ในราคาเริ่มต้น 59 บาท ขาดไม่ได้ก็ต้อง “หมูสามชั้น” (ราคา 59 บาท) ส่วนใครชอบความนุ่มก็มี “สันคอ” (ราคา 59 บาท) สัมผัสเด้ง ๆ กรุบ ๆ ก็ดีงามไม่น้อย “แป้งนม” (ราคา 59 บาท) และเมนูแนะนำที่ทางร้านบอกกับเราว่าขายดีมาก “หมูดำคุโรบุตะ” (ราคา 79 บาท) ทางร้านเลือกใช้เป็นส่วนสันคอซึ่งนุ่มกว่าสันคอธรรมดาแบบสัมผัสได้ “สันคอพรีเมียม” (ราคา 79 บาท) สไลซ์มาชิ้นค่อนข้างหนา ย่างแล้วสัมผัสจะกรุบกรอบ การได้ชิมแต่ละจานซึ่งมีเทกซ์เจอร์ที่ต่างกัน เป็นความสนุกอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ

ซีฟู้ดก็มาทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ถึงแม้เมนูจะมีไม่เยอะมาก แต่ก็ครบ และคัดมาเน้น ๆ เฉพาะของดีมีคุณภาพ “มันปูญี่ปุ่น” (ราคา 159 บาท) ย่างร้อน ๆ ก่อนกิน ความหอม มัน เข้มข้นของมันปู มันคละคลุ้งไปทั่วต่อมรับรส “หอยเชลล์ฮอกไกโด” (ราคา 158 บาท) หอยเชลล์ไซส์ใหญ่เกือบเท่าฝ่ามือราดโชยุ ท็อปด้วยไข่กุ้ง เนย และต้นหอม เสิร์ฟมาเป็นคู่ในหนึ่งจาน ตัวใหญ่เต็ม ๆ คำ แบบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้ม “กุ้งแม่น้ำ” (ราคา 89 บาท) เนื้อกุ้งสดเด้งดี และยังมี “ปลาไข่” (ราคา 58 บาท) และ “ท้องปลาแซลมอน” (ราคา 89 บาท)



ปิ้งไปกินไปเพลิน ๆ เผลอแป้บเดียวก็อิ่มจุกเอาเรื่องเหมือนกันนะ รวมค่าเสียหายแล้ว หารเฉลี่ยก็ตกอยู่หลักร้อย ไม่ต่างจากราคาบุฟเฟ่ต์เลย ก่อนกลับโชคดีได้เจอกับคุณพ่อ ผู้เป็นที่มาของชื่อ ร้าน Papa Yakiniku パパの焼肉 เชียงใหม่ คุณพ่อตั้งใจเลือกวัตถุดิบ เหมือนกับที่ตั้งใจเลือกของคุณภาพดีให้กับลูก ๆ ร้านนี้จึงเป็นเหมือนความรัก ความใส่ใจ ที่ส่งต่อจากคุณพ่อไปสู่ลูกค้าทุกคนที่เปรียบเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง การบริการอบอุ่นเป็นกันเอง และใส่ใจเหมือนนั่งกินข้าวที่บ้านกับครอบครัว
ยังมีร้านอาหารเชียงใหม่ที่น่าสนใจให้ติดตามอีกมากมายที่ เพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai
การเดินทาง
- ร้าน Papa Yakiniku パパの焼肉 เชียงใหม่ อยู่ในโครงการนิ่มพลาซ่า ถนนรัตนโกสินทร์ มีที่จอดรถในโครงการ
- เวลาเปิด - ปิด :: เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 - 23.00 น.
- เบอร์ติดต่อ :: 091-143 6284